ตัวการ์ตูนของดิสนีย์ ที่เป็นเอกลักษณ์สร้างจินตนาการให้เด็กๆ ในทุกยุค ได้รับการดัดแปลงออกมาเป็นโชว์ “ดิสนีย์ ออน ไอซ์” ที่ตระการตา เรียกเสียงฮือฮาจากผู้เข้าชมทั่วโลก โดยเฉพาตัวละครอย่าง มิกกี้ เม้าส์, “โฟรเซ่น” และอะลาดิน ที่โลดแล่นออกมาบนลานน้ำแข็งของโชว์ “ดิสนีย์ ออน ไอซ์” ที่เส้นทางของการเป็นนักแสดงต้องผ่านบททดสอบสุดหิน

รักษิต รักการดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ไลฟ์ เนชั่น เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ที่นำ “ดิสนีย์ ออน ไอซ์” เข้ามาให้ชมในไทยต่อเนื่องกว่า 20 ปี กล่าวว่า “ดิสนีย์ ออน ไอซ์” เป็นโชว์ระดับโลกมีการพัฒนาโชว์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี เพราะเมื่อก่อนที่ทำโชว์ จะเป็นแบบไอซ์สเกต ทั้งหมด และใช้ลอกในการเปลี่ยนฉากทำให้ต้องมีการเปลี่ยนฉากแบบหมุนไปมา แต่ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับแสงสี รวมถึงนำโปรเจกเตอร์ สกรีนฉายบนลานน้ำแข็ง ที่ทันสมัยเข้ามาช่วย

...

สำหรับโชว์ที่ปีนี้จะมีความแตกต่างกว่าทุกปีคือ “โฟรเซ่น” ถือเป็นโชว์ที่มีพัฒนาการ ได้รับการตอบรับจากผู้ชมทั่วโลก เป็นตัวละครที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของดิสนีย์ เมื่อนำมาโชว์ใน “ดิสนีย์ ออน ไอซ์” เลยเป็นโชว์ที่มีความน่าตื่นตาตื่นใจ โดยปีนี้จะมีการผสมผสานทั้งแสงสี และโชว์ที่เหมือนกับกายกรรมอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง

แต่สิ่งสำคัญของโชว์ “ดิสนีย์ ออน ไอซ์” ต้องมีการคัดเลือกนักแสดงที่เข้มข้น ส่วนใหญ่นักแสดงจะเป็นนักกีฬาไอซ์สเกตทีมชาติมาก่อน ทั้งในอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งมีกระบวนการคัดเลือก ฝึกฝนอย่างเป็นระบบ โดยแต่ละปีมีการคัดเลือกทีมงานที่ผสมผสานทั้งทีมเดิมและคนใหม่ เพื่อเดินทางไปทัวร์รอบโลกตลอดทั้งปี หากนักแสดงคนไหนอยู่มานาน จะมีการเลื่อนขั้นจากนักแสดงไปเป็นทีมงานเบื้องหลัง

สิ่งที่เป็นความท้าทายของนักแสดงคือ การต้องใส่ชุดตัวละครที่มีความหนัก แถมยังช่องมองเห็นน้อย แต่ต้องพยายามแสดงท่าทางให้เหมือนกับคาแรกเตอร์ของตัวละคร เช่นชุด “มิกกี้ เม้าส์” ที่มีน้ำหนักมาก โดย “ดิสนีย์ ออน ไอซ์” แต่ละปีจะเริ่มโชว์ที่อเมริกา ต่อมาเป็นในยุโรป และมาจบที่เอเชีย

รักษิต รักการดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ไลฟ์ เนชั่น เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์
รักษิต รักการดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ไลฟ์ เนชั่น เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์

สำหรับปีนี้โชว์สุดมหัศจรรย์ฉลอง 100 ปี ดิสนีย์ จะมีความพิเศษกว่าทุกปี เพราะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 3 ปีที่ผ่านมา เด็กหลายคนยังไม่เคยได้ชมโชว์อลังการระดับโลก ประกอบกับโชว์ปีนี้ มีการออกแบบให้สามารถดูได้ทั้งครอบครัว เพราะนอกจากตัวละครของดิสนีย์แล้ว ยังมีโชว์ที่มีความผาดโผนเข้ามามากขึ้น

ขณะเดียวกันแสงสีของโชว์ก็มีความทันสมัย เพลงในแต่ละโชว์มีการทำให้กระชับขึ้น ซึ่งจากการมาชมโชว์ที่จัดแสดง ที่ไทเป ไต้หวัน เห็นถึงการผสมผสาน เช่น การปั่นจักรยานผาดโผน และผสมกับกายกรรม ถือเป็นอีกโชว์ ที่แฟนๆ ชาวไทยอาจคาดไม่ถึง รวมถึงสามารถมาเข้าชมกันได้ทั้งครอบครัว

...

นอกจากนี้ แฟน “ดิสนีย์ ออน ไอซ์” จะเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนผ่านจอสกรีนที่ทันสมัย ซึ่งโชว์ที่ต้องจับตาปีนี้คือ “อะลาดิน” ที่ตระการตากว่าที่หลายคนคิดไว้ นอกจากนี้ยังให้ผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมในโชว์มากขึ้น

ฉลอง 100 ปี ดิสนีย์ โชว์สุดมหัศจรรย์ มาเยือน กรุงเทพฯ

มิกกี้ เม้าส์ และผองเพื่อนใน “Disney On Ice presents 100 Years of Wonder” มิกกี้, มินนี่ และกูฟฟี่ นำทีมทุกคนมุ่งหน้าสู่การผจญภัยสู่โลกของดิสนีย์ที่จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม เห็นโลกกว้างใหญ่จากดาดฟ้าของมหานครลอนดอนไปกับ แมรี่ ป๊อปปิ้นส์, แจ๊ค

...

สัมผัสสายลมแสงแดดของเกาะโมทูนุย และร่วมกอบกู้ไปพร้อมกับโมอาน่า เก็บภาพความประทับใจของผืนป่าซาฟารีอันยิ่งใหญ่ของซิมบ้า ทีโมน และพุมบ้า จาก เดอะไลอ้อนคิง ก่อนที่อะลาดินจะพาไปค้นพบโลกใบใหม่ ตื่นตาตื่นใจไปกับขบวนพาเหรด และเวทมนตร์จากตะเกียงวิเศษของจีนี่ พร้อมเพลงใหม่จากเจ้าหญิงจัสมิน รวมไปถึงเหล่าของเล่นหรรษา วู้ดดี้และโบพีฟ

โดย “Disney On Ice presents 100 Years of Wonder” โชว์สุดมหัศจรรย์ฉลอง 100 ปี ดิสนีย์ จะมาเยือน กรุงเทพฯ 21-31 มีนาคม 2567 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี