การทุ่มเทสรรพกำลังทั้งปิดล้อม และบุกโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน อย่างรุนแรงและยาวนานของกองทัพรัสเซีย เกือบ 1 เดือนเต็ม แต่แล้วเมื่อไม่สามารถเจาะผ่านกำลังการป้องกันที่แข็งแกร่งของฝ่ายยูเครนเข้าไปได้ กองทัพรัสเซียจึงสลายวงล้อมและล่าถอย และปรับกำลังเข้าไปเสริมในสมรภูมิภูมิภาคดอนบัสแทน
อะไรคือเหตุผลในสิ่งที่ฝ่ายรัสเซียเรียกว่า การปฏิบัติการพิเศษทางการทหารเฟส 2 ในยูเครนกันแน่ และอะไรคือแรงกระตุ้นให้รัสเซีย ยอมรามือจากความพยายามบุกเข้ายึดเมืองหลวงของยูเครน เพื่ออ้างชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของฝ่ายตัวเองลง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
...
1. ขยายดินแดนที่ยึดครองบริเวณภาคตะวันออกของยูเครน
นักวิเคราะห์ของฝ่ายตะวันตก เชื่อมั่นว่า การยอมถอยร่นออกจากกรุงเคียฟไม่ได้แปลว่า รัสเซียกำลังจะถอนตัวจากยูเครน แต่เป็นการปรับกำลังทหารไปเสริมในภูมิภาคดอนบัส เพื่อหวังขยายดินแดนจาก ลูฮันสค์ และโดเนตสค์ ที่ยึดครองได้แล้วออกไปให้ไกลที่สุด โดยหากเป็นไปได้คือการแบ่งยูเครนออกเป็น ยูเครนตะวันตกและยูเครนตะวันออก ซึ่งประเด็นนี้ สอดคล้องกับรายงานจากหน่วยข่าวกรองของตะวันตกที่ว่า รัสเซียเริ่มเสริมกำลังอย่างคึกคักในภูมิภาคดอนบัส หลังเริ่มถอนกำลังออกจากการปิดล้อมกรุงเคียฟ
2. เพิ่มการใช้เครื่องมือทางการทูต
ก่อนหน้านี้ วลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ที่ปรึกษาคนสำคัญของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และยังเป็นผู้นำคณะผู้แทนทางการทูตของรัสเซีย ที่เดินทางไปเจรจากับฝ่ายยูเครนที่ประเทศเบลารุส อ้างว่า เครมลิน ไม่ต้องการให้กรุงเคียฟ อยู่ภายใต้ความเสี่ยงทางทหารอีกต่อไปเพราะผู้ที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเจรจาอยู่ที่นั่น
หากแต่ฝ่ายตะวันตกไม่เชื่อเช่นนั้น นั่นเป็นเพราะหลังจากนั้นเพียงไม่นาน รัสเซียยังคงใช้ทั้งขีปนาวุธและปืนใหญ่ยิงเข้าถล่มกรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแม้กระทั่งในช่วงที่ทั้งฝ่ายกำลังเปิดการเจรจาก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายตะวันตกจึงเชื่อมั่นว่า ฝ่ายเครมลิน กำลังหวังใช้การเจรจาสันติภาพเพื่อปิดบังผลลัพธ์ทางการเมืองที่ต้องการ คือ การบีบให้ยูเครนและฝ่ายตะวันตกต้องยอมจำนนตามสิ่งที่รัสเซียเรียกร้อง เช่นเดียวกับที่เคยทำมาแล้วเมื่อครั้งการผนวกไครเมีย
3. ทำให้ฝ่ายตะวันตกยอมถอนตัวจากยูเครน
สงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน ได้สร้างความเสียหายอย่างทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันและราคาก๊าซธรรมชาติพุ่งสูงขึ้น และประเด็นนี้เองดูเหมือนจะสร้างแรงกดดันต่อหลายๆ ประเทศในยุโรปได้อย่างกว้างขวาง ด้วยเหตุนี้ การทำทีเป็นว่า ได้ถอยร่นออกจากกรุงเคียฟแล้ว อาจทำให้ตะวันตกมีเหตุผลน้อยลงในการบอกกล่าวกับประชาชนที่กำลังได้รับผลกระทบจาก “ราคาพลังงาน” เพื่อสนับสนุนยูเครนต่อไป โดยเฉพาะการสนับสนุนทางด้านอาวุธ
4. ล่อกำลังทหารยูเครนออกจากเมืองหลวง
แม้ว่ารัสเซียจะมีการปรับยุทธศาสตร์ ด้วยการโยกกำลังทหารหลักไปยังภูมิภาคดอนบัสทางภาคตะวันออกของยูเครน หลังความพยายามปิดล้อมเพื่อรุกเข้ายึดกรุงเคียฟล้มเหลว จากการถูกต่อต้านอย่างเข้มแข็ง
แต่หน่วยข่าวกรองของตะวันตกตรวจพบว่า รัสเซียได้ทิ้งกำลังบางส่วนเอาไว้ใกล้กับกรุงเคียฟ ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ว่า กองกำลังที่ว่านี้ อาจคืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการบุกเข้าโจมตีกรุงเคียฟได้ในภายหลัง โดยเฉพาะหากยูเครน กระจายกำลังทหารออกจากเมืองหลวง เข้าไปเสริมกำลังในภูมิภาคดอนบัส
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
...
ความเสียหายจากผลของสงครามเมื่อการสู้รบย่างเข้าสู่เดือนที่ 2 :
ข้อมูลจากฝ่ายรัสเซีย :
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานอย่างเป็นทางการโดยอ้างว่า ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการทำสงครามในยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2022 จนถึงวันที่ 3 เมษายน 2022 สามารถทำลายขีดความสามารถของกองทัพยูเครนได้ดังต่อไปนี้
1. เครื่องบินรบ 125 ลำ 2. เฮลิคอปเตอร์ 88 ลำ 3. โดรน 383 ลำ 4. ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ 221 เครื่อง 5. รถถังและยานเกราะต่างๆ รวม 1,903 คัน 6. เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง 207 คัน 7. ปืนใหญ่และปืนครกรวม 805 กระบอก 8.ยานรบสำหรับการปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร รวม 1,781 คัน
ส่วนกำลังทหารรัสเซียที่เสียชีวิตในสนามรบอยู่ที่ 1,351 นาย บาดเจ็บ 3,825 นาย
ส่วนทหารยูเครน เสียชีวิตประมาณ 14,000 นาย และบาดเจ็บประมาณ 16,000 นาย
(กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงประเด็นนี้ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2022)
...
ข้อมูลจากชาติตะวันตก :
สื่อตะวันตกหลายสำนักรายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่นาโต ว่า หลังการสู้รบผ่านไปครบ 1 เดือนว่า มีทหารรัสเซียเสียชีวิตในสนามรบอย่างน้อยระหว่าง 7,000 - 15,000 นาย ส่วนทหารที่บาดเจ็บ ถูกจับกุมหรือสูญหายอยู่ระหว่าง 30,000-40,000 นาย
ด้านทางการยูเครน อ้างว่า สามารถสังหารนายทหารระดับนายพลของรัสเซียได้ถึง 6 นาย แต่ฝ่ายรัสเซียอ้างว่า มี นายพลเพียง 1 นายเท่านั้นที่เสียชีวิตในสนามรบ
ข้อมูลจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ :
สิ้นสุดวันที่ 2 เมษายน 2022 UNHCR รายงานว่า มีพลเรือนเสียชีวิตจากสงครามในยูเครนแล้ว 1,417 ศพ บาดเจ็บ 2,038 คน โดยการบาดเจ็บและล้มตายของพลเรือนส่วนใหญ่ เกิดจากการถูกยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ขีปนาวุธ และการโจมตีทางอากาศ
...
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :