สิงหาคม 2021 :

“To defend this Nation, we need a health and ready force”
“เพื่อปกป้องประเทศชาติ เราต้องการกำลังพลที่แข็งแกร่งและพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่”

และนี่คือวรรคทองของ “ลอยด์ ออสติน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่นำไปสู่การกำหนดมาตรการให้กำลังพลทั้ง 4 เหล่าทัพของสหรัฐฯ ซึ่งประกอบไปด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และ กองทัพนาวิกโยธิน รวมถึงเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาดินแดน (National Guard) ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบสูตร “ทุกนาย”

และการบังคับฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 นี้ มีกำหนดเส้นตายในวันที่ 15 ธ.ค. 2021 สำหรับกำลังพลทั้งหมดใน 4 เหล่าทัพ ส่วนกำลังพลของกองกำลังรักษาดินแดน มีกำหนดเส้นตายในวันที่ 30 มิ.ย. 2022!

โดยหากกำลังพลคนไหน “ฝ่าฝืน” ที่ชอบด้วยกฎหมายนี้ และไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่อาจจะได้รับการ “ยกเว้น” อาจต้องเผชิญหน้ากับ “มาตรการลงโทษ” ตั้งแต่ถูกลงโทษทางวินัย, ระงับ หรือพักการพิจารณา “เลื่อนยศ” และรุนแรงที่สุดคือ “ปลดประจำการ” สิ้นสุดเส้นทางการรับใช้ชาติทันที!

...

กุมภาพันธ์ 2022 :

กองทัพเรือสหรัฐฯ

กองทัพเรือสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ มีคำสั่งปลดประจำการทหาร 240 นาย ฐานปฏิเสธการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ตามมาตรการของ “เพนตากอน” โดยในจำนวนนี้เป็นกำลังพลที่กำลังอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ถึง 217 นาย และมี 22 นาย “ถูกปลด” ในขณะที่กำลังอยู่ในระหว่างห้วงการฝึก 180 วันแรก เพื่อเตรียมเข้ารับราชการในกองทัพเรือสหรัฐฯ ด้วย

อย่างไรก็ดี กองทัพเรือสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทหารทั้ง 240 นาย ที่ถูกปลดจากราชการในครั้งนี้จะยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่นเดียวกับ “ทหารผ่านศึกทุกประการ” ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ “เพนตากอน” จะเคยขู่ว่า ทหารคนใดที่ถูก “ปลดประจำการ” จากการ “ฝ่าฝืน” มาตรการบังคับฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 อาจไม่ได้สิทธิประโยชน์จากการรับราชการก็ตาม

โดยปัจจุบัน กองทัพเรือสหรัฐฯ ยอมรับว่ายังมี “กะลาสี” ถึงมากกว่า 8,000 นาย โดยแยกเป็นกำลังพลที่ยังประจำการ 5,035 นาย และกำลังพลกองหนุนอีก 2,960 นาย ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

และนอกจากกองทัพเรือสหรัฐฯ จะเริ่มใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับ “กำลังพล” ที่ฝ่าฝืนมาตรการบังคับการฉีดวัคซีนแล้ว ด้านกองทัพอากาศสหรัฐฯ ก็ได้มีคำสั่ง “ปลดประจำการ” ผู้ที่ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวด้วยแล้วเช่นกันถึง 27 นาย (ตามข้อมูลที่มีการเปิดเผย ณ วันที่ 14 ธ.ค. 2021) ในขณะที่ กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ ใช้ “ไม้แข็ง” นี้ ด้วยการปลดกำลังพลไปแล้วถึง 103 นาย หลังสิ้นสุด “เส้นตาย” (ตามข้อมูลที่มีการเปิดเผย ณ วันที่ 18 ธ.ค. 2021)

กองทัพบกสหรัฐฯ

ด้านกองทัพบกสหรัฐฯ นั้นตามรายงานที่ปรากฏต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2022 ที่ผ่านมา ระบุว่า มีกำลังพลประจำการที่ฉีดวัคซีนครบสูตรแล้ว คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 96% ของกำลังพลทั้งหมด ส่วนกำลังพลกองหนุน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 79%

ส่วนกำลังพลประจำการที่ “ฝ่าฝืน” มาตรการบังคับฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จนต้องถูก “ลงโทษ” นั้น มีนายทหารชั้นสัญญาบัตรจำนวนรวม 6 นาย โดยในจำนวนนี้เป็นนายทหารระดับผู้บังคับกองพันถึง 2 นาย ถูก “ปลดประจำการ” แล้ว ขณะเดียวกันยังได้มีกำลังพลอีกรวมกว่า 3,073 นาย ที่ได้รับหนังสือตำหนิสำหรับพฤติกรรม “ปฏิเสธ” คำสั่งให้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 อีกด้วย

...

โดย “เพนตากอน” ยังคงยืนยันถึงเหตุผลสำหรับการสนับสนุนการใช้ “ไม้แข็ง” กับบรรดา “รั้วของชาติ” ว่า...

ความพร้อมของกองทัพสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกำลังพลในการฝึกฝน การเคลื่อนย้ายกำลังพล การต่อสู้และชัยชนะของประเทศชาติในการทำสงคราม ด้วยเหตุนี้ทหารที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ย่อมมีความเสี่ยงต่อกำลังพล และเป็นอันตรายต่อการเตรียมความพร้อมด้วย!

ถึงแม้ว่า... “ประเด็นการบังคับฉีดวัคซีน” จะยังเป็นที่ถกเถียงในวงกว้างในประเทศสหรัฐอเมริกา และศาลสูงสุดของสหรัฐฯ เองก็ยังเพิ่งระงับมาตรการบังคับฉีดวัคซีนกับบรรดาลูกจ้างของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงลูกจ้างมากกว่า 80 ล้านคนในสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เนื่องจากมองว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็ตาม.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ

...