เช็กพาวเวอร์ กองทัพว้าแดง รุกชายแดนไทย-เมียนมา อดีตอนุกรรมการสิทธิฯ ชี้ ต่อให้ไทยยึดพื้นที่ได้ แต่กองทัพพม่าไม่ยอมแน่ อาจเกิดสงครามสามฝ่าย ย้ำไทยควรตัดตอนเส้นทางธุรกิจสีเทาริมชายแดน พร้อมขอให้จีนช่วยเจรจา
หลังมีรายงานสถานการณ์แนวชายแดนไทย บริเวณดอยหนองหลวง และดอยหัวม้า ฝั่งตรงข้ามพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยพบว่า กองทัพสหรัฐว้า UWSA ในพื้นที่บ้านคายหลวง ได้ตั้งฐานย่อยอีก รวม 5 ฐาน ซึ่งทางการไทยได้สั่งให้กองกำลังว้าแดงถอนกำลังออกจากพื้นที่ไทย
ข้อพิพาทระหว่างกองทัพไทยกับกองกำลังว้าแดง เดิมสมัยกองทัพเมืองไต ที่มีขุนส่าเป็นผู้นำ ได้เข้าสร้างฐานที่มั่น บริเวณดอยหัวม้า และดอยเนินสูงข่มใกล้เคียงรวมจำนวน 5 ฐานปฏิบัติการ ในพื้นที่อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ต่อมา ทหารของกองทัพเมืองไตของขุนส่า ได้ถูกกองกำลังว้าแดงบุกเข้าโจมตี และยึดฐานเหล่านั้นเป็นของว้าแดง
![เช็กพาวเวอร์ กองทัพว้าแดง รุกชายแดนไทย-เมียนมา ทางออกใต้เงาพญามังกร?](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04avdo9Qn8n2cOvm3BGcXaPYSPsVp2Lx.webp)
ต่อมา โฆษกกองทัพบกของไทย ออกมาสยบข่าวลือว่า สถานการณ์ชายแดนหลังปรากฏข่าวมีการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มว้าแดงและทหารไทย ในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กรณีพื้นที่พิพาทตามชายแดน ปัจจุบันกรณีพิพาทชายแดนยังปักปันเขตแดนไม่เรียบร้อย ทั้งสองประเทศต่างรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
...
ทางกองทัพภาคที่ 3 ยืนยันว่า ไม่มีความตึงเครียดตามที่ปรากฏเป็นข่าว ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมานาน จึงได้มีการทำเรื่องประท้วงคู่กรณี โดยสถานการณ์ภาพรวมไม่ได้รับการยืนยันว่ามีความรุนแรง
![เช็กพาวเวอร์ กองทัพว้าแดง รุกชายแดนไทย-เมียนมา ทางออกใต้เงาพญามังกร?](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04avdo9Qn8n2cOvm3AcbgMmGDze1axmv.webp)
ว้าแดง เครือข่ายอิทธิพลยึดพื้นที่ริมชายแดน
พื้นที่ดอยหนองหลวงและดอยหัวม้า ฝั่งตรงข้าม อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ทั้งไทยและเมียนมาไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ จนกลุ่มว้าแดงเข้ามาตั้งบ้านเรือน สุรพงษ์ กองจันทึก อดีตอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มชาติพันธุ์ ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ดังกล่าวทั้งเมียนมาและไทยต่างอ้างสิทธิ์ในเขตดินแดน แต่ยังไม่มีชาติไหนเข้าไปยึดพื้นที่อย่างจริงจัง
ตอนนี้ริมชายแดนไทย-เมียนมา มีพื้นที่ว่างที่ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์ แต่ไม่มีการเข้าไปใช้ประโยชน์อยู่จำนวนมาก พื้นที่ดังกล่าวที่ว้าแดงเข้ายึดครองก็เช่นกัน โดยทั้งไทยและเมียนมาไม่กล้าบุกเข้าไปยึดพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มว้าแดงเข้ามาอยู่นานกว่า 10 ปี
“ในยุคก่อน กลุ่มว้าแดงมีความแนบแน่นกับไทย ซึ่งไทยเองก็ใช้ว้าแดงในการกันการเข้ามายึดครองของเมียนมา ขณะที่ทางการเมียนมาก็รบกับพวกว้าแดงมานานแล้ว ทำให้ไม่กล้าเข้ามายึดพื้นที่ ดังนั้น ต้องยอมรับว่า กลุ่มว้าแดงอยู่ในพื้นที่นั้นมานาน แต่ตอนนี้กลับเริ่มมีคำถามว่าเป็นการรุกดินแดน"
การดำเนินการหลังจากนี้ รัฐไทยควรเจรจาเพื่อยึดครองพื้นที่ดังกล่าว และแสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นNo man's land หรือพื้นที่ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยอีกต่อไป เพราะกลุ่มว้าแดงเข้าไปครอบครอง แต่การจะใช้กำลังเพื่อเข้ายึดครองค่อนข้างลำบาก เพราะถ้าไทยรบกับว้าแดง ยึดพื้นที่ได้ ทหารเมียนมาไม่ยอมแน่ ก็จะต้องสู้รบกับเมียนมาอีก
“ที่ผ่านมาทหารเมียนมาวางท่าทีนิ่งเฉยมาตลอด แต่ถ้าเมื่อใดไทยใช้กำลังเพื่อยึดพื้นที่คืน เมียนมาก็น่าจะแสดงท่าทีที่รุนแรงกลับ ดังนั้น การยึดพื้นที่คืน ถ้าไทยใช้กำลัง จะไม่ได้รบกับว้าแดงเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสู้รบกับเมียนมาด้วย ขณะเดียวกัน ในช่วงหลังกลุ่มว้าแดงสนิทสนมกับมหาอำนาจจีนมากขึ้น"
![เช็กพาวเวอร์ กองทัพว้าแดง รุกชายแดนไทย-เมียนมา ทางออกใต้เงาพญามังกร?](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04avdo9Qn8n2cOvm3BDH74jy2rrODLci.webp)
สิ่งที่ทางการไทยควรทำคือต้องให้จีนเป็นตัวกลางเจรจากับกลุ่มว้าแดง แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว้าแดงอยู่ตรงพื้นที่นั้นมานาน จะให้เขาถอนออกจากพื้นที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะที่พื้นที่ของกลุ่มว้าแดงในอาณาเขตเมียนมาก็ไม่ได้มีอยู่มาก
“สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือการยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับกลุ่มว้าแดง เพราะที่ผ่านมา กระบวนการทางการทูตของทหารมักใช้วิธีนี้ แต่ถึงอย่างไร ต่อให้ว้าแดงจะถอยออกจากพื้นที่ แต่ไทยก็ไม่ได้เข้าไปยังพื้นที่นั้นได้ง่ายๆ เพราะเมียนมาไม่ยอมแน่นอน สรุปแล้ว ต่อให้คุยไปรบไปก็ไม่มีประโยชน์”
...
แต่ไทยต้องพยายามกันไม่ให้ว้าแดงมีอิทธิพลเพิ่มขึ้น เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าพื้นที่ริมชายแดนเป็นแหล่งในการผลิตและขนย้ายยาเสพติด ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อไทย ดังนั้น การตัดอิทธิพลบริเวณนี้จะช่วยทำให้ขบวนการสีเทาต่างๆ ลดบทบาทลง ซึ่งเป็นผลดีต่อไทย.