"มีลุงไม่มีผู้กอง" วลีนี้ชัดยิ่งกว่าชัด เมื่อ "ร.อ.ธรรมนัส" ออกมาประกาศอิสรภาพ เปิดแผลรอยร้าวในพรรคพลังประชารัฐ นักวิเคราะห์การเมือง มองว่า ถ้าวัดขุมกำลัง "ร.อ.ธรรมนัส" มีขุมกำลัง สส.สนับสนุนเกินครึ่งพรรค ส่วน "ลุงป้อม" คาดเดินเกมยื้อไม่ขับออกจากพรรคให้ได้อิสรภาพเต็มใบ แต่แช่แข็งไว้ เพื่อชิงดำโควตา รมต. ในรัฐบาลชุดใหม่
สัญญาณรอยร้าวพรรคพลังประชารัฐ ชัดเจนมากขึ้น ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งคณะรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" ที่ให้พรรคร่วมรัฐบาลส่งชื่อ ตัวแทนพรรคที่จะนั่งในเก้าอี้รัฐมนตรี แต่โควตาของพรรคพลังประชารัฐ กลับฝุ่นตลบ ตั้งแต่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา เมื่อมีข่าวลือว่า "ทักษิณ ชินวัตร” จะไม่ร่วมงานกับตระกูล "วงษ์สุวรรณ" ทำให้จับตาว่า "พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" น้องชายของ "บิ๊กป้อม” ที่เดิมนั่งคุมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะหลุดจากเก้าอี้หรือไม่
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์นักข่าวทางโทรศัพท์ ยืนยันว่า ได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีตามโควตาแล้ว โดยมีชื่อของ "พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" แต่ไร้ชื่อ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ที่เดิมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยลุงป้อม ยืนยันว่า ที่ดึงชื่อออกเพราะฝั่งรัฐบาลไม่เอา และมีความเป็นห่วงเรื่องคุณสมบัติ ที่อาจซ้ำร้อยเดิม โดยจะให้ "สันติ พร้อมพัฒน์" นั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แทน
...
ตลอดคืนมีข่าวสะพัดว่า "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" จะไม่หลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีในรอบนี้ แต่รุ่งเช้าวันนี้ (20 ส.ค. 67) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกมาส่งสัญญาณชัดเจนถึงรอยร้าวในพรรคพลังประชารัฐ ว่า "ผมไม่ทะเลาะกับใคร ประสบการณ์ 6 ปีที่ผ่านมา ผมรับใช้พรรคนึงและบุคคลนึงมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องเดินออกมาแบบไม่ทะเลาะกับใคร วันนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องประกาศอิสรภาพของผมเอง เราต้องคิดและเชื่อตามแนวทางของผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่ว่าใครเขียน และเสนอชื่ออะไรจะเอาตามนั้น" ถึงตรงนี้ แน่นอนว่า มีสัญญาณว่า พรรคพลังประชารัฐ โดยการนำของลุงป้อม มีโอกาสแตกสูง โดยคาดว่า สส. "ร.อ.ธรรมนัส" อาจย้ายไปอยู่พรรคใหม่ แต่โควตารัฐมนตรี เป็นประเด็นที่ต้องวัดใจ นายกฯ "แพทองธาร" ว่าจะเลือกใคร
"ร.อ.ธรรมนัส" ประกาศอิสรภาพตัดขาด "ลุงป้อม"
รอยร้าวของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีผลต่อโควตารัฐมนตรี "ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ว่า ตอนนี้มีแนวโน้มพรรคพลังประชารัฐ จะแตก และ สส.ส่วนใหญ่ภายในพรรคเดินจะตาม "ร.อ.ธรรมนัส" สิ่งนี้ทำให้เห็นว่า รอยร้าวภายในพรรคมีการต่อรองในเรื่องผลประโยชน์อำนาจ ซึ่งต้องรอดูว่า ฝั่งไหนจะได้รับการตอบรับในการเข้าร่วมกับฝั่งรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
หากประเมินขุมกำลังในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่าง "ลุงป้อม” กับ "ร.อ.ธรรมนัส" เห็นได้ชัดเจนว่า "ร.อ.ธรรมนัส" มี สส.ที่สนับสนุนมากกว่า แต่สถานะของลุงป้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ตามกฎมีอำนาจในการส่งรายชื่อรัฐมนตรีที่ร่วมกับรัฐบาล
“รอยร้าวของ 2 กลุ่มภายในพรรคพลังประชารัฐ ใครได้เปรียบต้องอยู่ที่การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ว่าเลือกกลุ่มไหนไปเป็นรัฐมนตรี เพราะการจะนำทั้งสองกลุ่มในพรรคเดียวกันไปร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการแสดงท่าทีขัดขืนของ ร.อ.ธรรมนัส แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพร้อมแตกหัก ดังนั้น สำนวนที่ว่า มีลุงไม่มีผู้กอง มีโอกาสเป็นไปได้สูง”
...
การที่ สส.พรรคพลังประชารัฐ ไปอยู่ในสังกัดพรรคใหม่ได้ ต้องเป็นการถูกขับออกตามมติพรรค ซึ่ง "ร.อ.ธรรมนัส" เคยถูกขับออกจากพรรคเดิมมาแล้ว แต่เวลานั้นการใช้วิธีการดังกล่าวอาจไม่ง่ายเหมือนเดิม เพราะถ้า "บิ๊กป้อม” ในฐานะหัวหน้าพรรคไม่ขับออก มีโอกาสจะต้องอยู่แบบถูกแช่แข็งกันต่อไป
อ่านใจ "เพื่อไทย" เลือกฝั่งไหนร่วมคณะรัฐมนตรี
"ผศ.ดร.วันวิชิต" วิเคราะห์ถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทย เลือกฝั่งไหน ในเมื่อพรรคพลังประชารัฐ มีรอยร้าวของ "บิ๊กป้อม” และ "ร.อ.ธรรมนัส" โดยมองว่า ฝั่งเพื่อไทย น่าจะเลือกฝั่ง "ร.อ.ธรรมนัส" มากกว่า เพราะมีความใกล้ชิด รวมถึงมี สส.ในมือประมาณ 3 ใน 4 หรือราว 30 คน ภายในพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ "บิ๊กป้อม” กลับมีระยะห่าง ทั้งในเรื่องการไม่มาโหวตนายกฯ หรือน้องชาย "พลตำรวจเอก พัชรวาท" ไม่ไปร่วมงานการรับตำแหน่งนายกฯ
ความสัมพันธ์ในอดีตระหว่าง "คนบ้านป่า” กับ "บ้านจันทร์ส่องหล้า" ความบาดหมางที่ผ่านมาได้ชดใช้กันจนหมดแล้ว แต่การแตกคอกันของคนในพรรคพลังประชารัฐ จะส่งผลในระยะยาว ทำให้พรรคเพื่อไทย สามารถลดทอนเก้าอี้ที่เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ ได้ในอนาคต สิ่งนี้จะทำให้พลังอำนาจทางการเมืองของ "บิ๊กป้อม” ถดถอยลงไปเรื่อยๆ.
...