สุญญากาศเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี หลัง "ลุงชาญ" หรือ ชาญ พวงเพ็ชร์ ชนะเลือกตั้ง "บิ๊กแจ๊ส" หรือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ไปอย่างสูสี แต่ไม่ทันไรก็มีเสียงมาจากกฤษฎีกา ถึงคำสั่งให้ "ลุงชาญ" หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอศาลพิจารณาคดีการซื้อถุงยังชีพปี 2555 ด้านผู้เชี่ยวชาญมองว่าต้องให้ข้าราชการประจำรักษาการแทน ขณะที่กระทรวงมหาดไทยต้องมีคำสั่งที่ชัดเจนออกมา

มีโอกาสเข้าสู่ภาวะสุญญากาศ "เก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี" แม้ "ลุงชาญ" หรือ ชาญ พวงเพ็ชร์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งเฉียดฉิวเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 67 ขณะที่ "บิ๊กแจ๊ส" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี มาเป็นอันดับ 2

และหลังชนะเลือกตั้ง "ลุงชาญ" ก็โดนวัดใจจากคดีที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ หลัง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการซื้อถุงยังชีพปี 2555

ประกอบกับการให้สัมภาษณ์ของ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า หากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดย ป.ป.ช.ชี้มูล โดยตรรกะต้องหยุดทำหน้าที่ เพราะไม่ต้องการให้ยุ่งเหยิงกับคดีที่ผ่านมา และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ถือเป็นหลักกฎหมายปกติ

...

ด้านพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุน "ลุงชาญ" หรือ ชาญ พวงเพ็ชร์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ออกมาสวนทันควันว่า การให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ไม่มีบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.วิธีพิจารณาของศาลอาญาทุจริต เพียงแต่เขียนไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.เท่านั้น และเป็นดุลพินิจของศาลว่า ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ไม่ใช่เป็นการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ

ต้องเป็นเรื่องที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง นายชาญให้เป็นนายกองค์การแล้ว ส่วนมีการอ้างคำวินิจฉัยของกฤษฎีกาว่า ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นเรื่องการใช้อำนาจตามกฎหมายการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น เป็นกรณีทั่วไป เมื่อคดีอยู่ในอำนาจศาลแล้ว ควรให้ศาลเป็นผู้สั่ง ถ้ากระทรวงมหาดไทยสั่ง ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ผู้ถูกคำสั่งสามารถฟ้องร้องไปยังศาลปกครองได้

แม้คดีความจะต้องรอการพิจารณาของศาล แต่การทำงานในตำแหน่ง นายก อบจ.ปทุมธานี จะเข้าสู่ภาวะสุญญากาศหรือไม่? และมีทางออกอย่างไร?

ส่องทางออกเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี

รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. และผู้อํานวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ว่า หลังจากฟังทุกฝ่าย กรณี คุณชาญ พวงเพ็ชร์ แม้ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี และ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง แต่พอรับตำแหน่งก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการจะให้รองนายก อบจ.ปทุมธานี ขึ้นมารักษาการแทนนั้นทำไม่ได้ เนื่องจากต้องหยุดทันทีที่รับตำแหน่ง และไม่สามารถที่จะมีคำสั่งแต่งตั้งทีมงานรองนายก อบจ.ปทุมธานี ได้

แต่ต้องให้ฝ่ายข้าราชการประจำ คือ ปลัด อบจ.เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งไปจนกว่าศาลจะตัดสิน ถ้าศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด คุณชาญ จะได้กลับมาทำหน้าที่นายก อบจ.ปทุมธานี และเงินเดือนจะได้รับคืนทั้งหมดตั้งแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ในอีกมุมนึงหากศาลพิจารณาว่าผิด ถือว่าได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และดำเนินการเลือกนายก อบจ.ปทุมธานีใหม่ คาดว่าศาลจะใช้เวลาพิจารณาประมาณเกือบปี หรืออย่างเร็วที่สุดประมาณ 4 เดือนขึ้นไป

เมื่อถามถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทย ออกมาโต้แย้งว่า คุณชาญ สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ แม้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล "รศ.สมชัย" มองว่า เป็นเรื่องที่ต้องคิดเองว่าควรทำอย่างนั้นไหม เพราะถ้าทำต่ออาจมีข้อครหาเรื่องขัดคำสั่งศาล และรัฐมนตรีมหาดไทย ที่กำกับดูแลท้องถิ่น ต้องมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา ไม่อย่างนั้นทาง กระทรวงมหาดไทย อาจมีปัญหาตามมากรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

เมื่อถามว่า หากข้าราชการประจำต้องรักษาการแทนในตำแหน่ง จะเข้าสู่ช่วงสุญญากาศหรือไม่ "รศ.สมชัย" ประเมินว่า ไม่น่าจะเข้าสู่สภาวะสุญญากาศ แต่ข้าราชการประจำอาจไม่กล้าเซ็นคำสั่งที่เป็นการผูกมัด หรือผูกพันตัวเองมากเกินไป ดังนั้นแนวทางแก้ไขในระยะสั้น กระทรวงมหาดไทย ต้องมีความชัดเจนว่าเรื่องนี้ควรทำอย่างไร และสั่งการไปยัง อบจ.ปทุมธานี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะสุญญากาศ

...

“คุณชาญ ไม่ได้ขัดกับคุณสมบัติในตอนสมัครแข่งเลือกตั้ง อบจ. เพราะถูกกล่าวหา และหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่ถือว่ากระทำผิด แต่ต้องรอให้ศาลพิจารณา เพื่อให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง”.