“บิ๊กโจ๊ก” ฉายา “แมว 9 ชีวิต” กำลังตกที่นั่งลำบาก เมื่อ ก.ตร. ลงคะแนนเสียง 12 ต่อ 0 ยืนยันคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การพิจารณาขั้นถัดไปขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมฯ และอาจยืดยาวไปถึงศาลปกครองสูงสุด แต่การเดินเกมเปิดศึกรอบทิศ ทำให้ตอนนี้ “บิ๊กโจ๊ก” ต้องกลืนเลือด ฝ่ากับดักรุมกินโต๊ะไปให้ได้ก่อน
วันนี้ (26 มิ.ย. 67) “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 5/2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้การต้อนรับ เป็นการปรากฏตัวเป็นทางการครั้งแรก หลังนายกรัฐมนตรีลงนามให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผบ.ตร. ตามเดิม และมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงมารอต้อนรับ
วาระประชุม มีการพิจารณาลงมติว่าการเซ็นคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ สมัยเป็นรักษาการ ผบ.ตร. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยใช้เวลา 3 ชั่วโมง มีการถกเถียงประเด็นดังกล่าว สุดท้ายนายกฯ ให้ทำการโหวตลงความคิดเห็นของ ก.ตร. ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่ 12 ต่อ 0 ให้ความเห็นชอบคำสั่งที่ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน
...
สำหรับ “บิ๊กโจ๊ก” ฉายาว่า “แมว 9 ชีวิต” วิบากกรรมบนเส้นทางราชการ ในรอบนี้การคัมแบ็กอาจไม่ใช่เรื่องง่าย “พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ” อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม มองว่า การพิจารณาของ ก.ตร. ยืนยันถึงคำสั่งการให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการไว้ก่อนเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการพิจารณาของ ก.ตร. เป็นบันไดขั้นแรก
ซึ่งขั้นต่อไปจะส่งเรื่องไปที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ถือเป็นบันไดขั้นที่ 2 ในการพิจารณาว่า บิ๊กโจ๊กจะกลับมาสู่เส้นทางราชการได้หรือไม่ ถ้าผลการพิจารณามีความเห็นว่า คำสั่งในการให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็สามารถกลับมารับราชการได้ แต่ถ้าเห็นชอบในแบบเดียวกับ ก.ตร. บิ๊กโจ๊กสามารถไปยื่นเรื่องให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาต่อไป
บันไดขั้นที่ 3 คือ การร้องเรียนศาลปกครองสูงสุด ที่เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นทางรอดสุดท้ายของบิ๊กโจ๊ก ถ้าศาลปกครองพิจารณาอย่างไรก็ต้องยึดตามนั้น เป็นการพิจารณาคำสั่งทางการปกครองสูงสุด ที่บังคับในงานบุคลากรตำรวจอย่างเด็ดขาด ถ้าการพิจารณาเป็นผลดีต่อบิ๊กโจ๊ก คำสั่งที่ผ่านมาก็ต้องยกเลิก
“เส้นทางกลับมารับราชการของบิ๊กโจ๊ก ต้องลุ้นการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ถ้ามีมติให้กลับมารับราชการ ก็ยังสามารถกลับมาได้ หรือถ้ามีการต่อสู้ไปจนถึงบันไดขั้นที่ 3 คือ ศาลปกครอง ที่อาจมีการพิจารณาในเดือนกันยายน และเป็นผลดีต่อบิ๊กโจ๊ก ยังมีสิทธิเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. คนต่อไปอยู่”
ระหว่างรอพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) แต่บรรยากาศในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังมีความอึมครึม “พล.ต.ต.สุพิศาล” วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ตอนนี้เหมือนบิ๊กโจ๊กกำลังเจอศึกรอบทิศ เพราะเปิดศึกรบไปทั่ว แต่ถ้าข้อกฎหมายเป็นไปตามที่ อ.วิษณุ เครืองาม แถลงข่าวไว้ บิ๊กโจ๊กก็มีโอกาสจะได้กลับมารับราชการ และก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดได้ ซึ่งโดยส่วนตัวยังมีความเห็นเช่นเดียวกับ อ.วิษณุ
...
สำหรับความบาดหมางของ “บิ๊กโจ๊ก” และ “บิ๊กต่อ” ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ป.ป.ช. ว่ามีหลักฐานอะไรชี้มูลความผิดได้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญตอนนี้คือ “บิ๊กโจ๊ก” ต้องพาตัวเองกลับเข้ามาสู่เส้นทางราชการให้ได้ก่อน ถึงค่อยไปคิดในขั้นถัดไป.