ครบรอบ 32 ปี การจากไปของ “ราชินีลูกทุ่ง” พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้ลาลับจากโลก เมื่อเวลา 20.55 น. วันที่ 13 มิ.ย. 2535 ในวัยเพียง 31 ปี หลังป่วยหนักด้วยโรคเอสแอลอี หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง อาการขั้นรุนแรง ลุกลามไปถึงไต จนเกิดอาการช็อกหมดสติ แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับแฟนเพลงทั่วประเทศ มีการจัดงานรำลึกทุกปีที่วัดทับกระดาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เช่นเดียวกับปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-16 มิ.ย. 2567
พุ่มพวง ดวงจันทร์ ชื่อเดิม รำพึง จิตรหาญ เกิดวันที่ 4 ส.ค. 2504 หากปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ จะมีอายุย่างเข้า 62 ปี และด้วยความรักที่บรรดาแฟนเพลงมีต่อราชินีลูกทุ่ง ได้มีการทยอยสร้างหุ่นพุ่มพวงเป็นที่ระลึก จนปัจจุบันมีทั้งหมด 13 หุ่น พร้อมกับมีเรื่องราวลี้ลับ เรื่องเล่าเหลือเชื่อ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ และมีคนแห่มากราบไหว้ขอพรหุ่นพุ่มพวง หรือหุ่นแม่ผึ้ง ด้วยจิตศรัทธาอย่างไม่ขาดสาย เพื่อให้ได้ในสิ่งที่สมปรารถนา โดยเฉพาะคอหวย ไม่พลาดมาขอเลขเด็ดไปเสี่ยงโชค
ความเชื่อ ศรัทธาแม่ผึ้ง เหนียวแน่น คนแห่กราบไหว้
...
ความเชื่อ ศรัทธาของแฟนเพลงที่มีต่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือแม่ผึ้ง ไม่เคยเสื่อมคลาย แม้จากโลกนี้ไปแล้ว 32 ปี เกิดจากสาเหตุใด แล้ววิญญาณของพุ่มพวง ยังไม่ได้ไปไหนจริงหรือไม่? มีคำตอบจาก “รศ.ดร.ธวัช หอมทวนลม” นักวิชาการด้านศาสนาและปรัชญา ก็เพราะว่าตอนพุ่มพวงมีชีวิตอยู่กำลังดัง อยู่ในวัยที่คนยอมรับ ไม่ว่าออกเพลงไหนก็ดังทุกเพลง และประวัติเป็นคนต่อสู้ถือเป็นจุดสำคัญ แม้อ่านหนังสือไม่ออก ก็ร้องเพลงได้ ด้วยความมุ่งมั่นเพียรพยายาม จนทำให้คนยอมรับ กระทั่งเสียชีวิต ผ่านไป 32 ปี ยังมีคนแห่กราบไหว้ไม่ขาดสาย
“ทุกวันนี้ในแต่ละปีมีคนไปกราบไหว้หนาแน่น และปฏิเสธไม่ได้เลย มีธุรกิจเพลงเข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่ช่วงแรก รวมถึงมีนักร้องลูกทุ่งหญิงเข้าไปร่วมกราบไหว้บนบานให้ประสบความสำเร็จ ขอให้เพลงดัง ตรงนี้ก็ต้องยอมรับ จะเอาเหตุผลเอาอะไรไปวัดกันไม่ได้ แต่ก็ดังขึ้นมา ก็น่าจะมีอะไรดีในความคิดของชาวบ้าน เพราะหลายคนสำเร็จไปถึงเป้า จนไปกันใหญ่ ไม่รู้ว่าบารมีใคร มีหลายอย่างโยงกัน ไปเขย่าไม้ติ้ว เอาเลขไปแทง ถูกหวยเป็นพันคน กลายเป็นว่า 32 ปีผ่านไป มีอะไรแฝงเข้ามาด้วย จากความเชื่อของคน และในแง่ชาวบ้าน มองว่ากราบแล้วดี”
ทุกคนเชื่อ ศรัทธาได้ แต่อย่างมงาย ใช้ปัญญากำกับ
เรื่องความเชื่อ ศรัทธา ก็เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา แต่สอนให้อย่างมงาย ให้เอาปัญญามาควมคุมกำกับ ถ้าไม่กำกับก็จะงมงาย เพราะจริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าฐานจริตเป็นอีกแบบ ไม่สามารถคุมได้ จะทำให้กู่ไม่กลับเอาไม่อยู่ ควรใช้หลักกาลามสูตร พิจารณากำกับในการเชื่อผลของกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ด้วยเหตุและผลตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ไม่ใช่ที่ไหนให้หวยแม่น ก็ไปกราบไหว้ไอ้ไข่ หรือท้าวเวสสุวรรณ จนหลายวัดเต็มไปด้วยผู้คน
...
“จริงอยู่การไปกราบไหว้บนบานศาลกล่าว อาจมีคนถูกหวยบ้าง แต่ถ้ามีความเชื่อ โดยไม่มีปัญญากำกับ จะมีปัญหาตามมา โดนคนนั้นคนนี้หลอก และต้องยอมรับชื่อเสียงของพุ่มพวงยังขายได้ จนกลายเป็นธุรกิจที่แฝงเข้ามา พัฒนาไปเรื่อยๆ จากหุ่นปั้น มาที่ชุดเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง จนมาที่โต๊ะเครื่องแป้ง ให้ไปบนบานสารพัด เชื่อมโยงกันหลายอย่าง และชีวิตคนไทยกับลูกทุ่งทิ้งกันไม่ได้ มีทั้งธรรมะ คำสอน และวิถีชีวิต ทำให้ทุกวันนี้คนยังนึกถึงพุ่มพวง”
วิญญาณพุ่มพวง ยังไม่ไปไหน มีเทวดาสิงสถิต จริงหรือ?
ส่วนที่หลายคนเชื่อว่าวิญญาณของพุ่มพวงยังไม่ไปไหน หากมองตามหลักพุทธศาสนาเมื่อคนตายไปแล้ว ก็ไปตามผลของกรรม ทำดีก็ดีไป แต่ในแง่ของชาวพุทธยังเชื่อว่าตายไปแล้วอาจไม่ไปเกิดใหม่ หรืออาจมีเทวดามาสิงสถิตให้คนมาบนบาน หรือบางคนนอนฝันมีคนมาให้หวย มีทั้งถูกหวยและไม่ถูกหวย เพราะอาจมีเทวดาที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ เป็นเรื่องที่แปลก ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่พุทธศาสนาเน้นในเรื่องผลของกรรม ใช้ปัญญากำกับให้คิดพิจารณา และถ้าจะพิสูจน์ ก็ต้องศึกษาในการปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ นำไปสู่ปฏิบัติที่ถูกต้อง และทำดีได้ดี
...
หรือบางคนมีการบนบานศาลกล่าวประสบความสำเร็จ อาจขึ้นอยู่กับบุญความดี บารมีเก่าที่เคยทำมา ขึ้นอยู่กับจังหวะและบุญที่เข้ามาอุดหนุนในแต่ละช่วง เพราะฉะนั้นในเรื่องความเชื่อ ถ้าเชื่ออย่างมีเหตุมีผลก็ไม่มีปัญหา อย่าทำจนสุดโต่งทุกอย่าง และให้คิดถึงคุณงามความดีของพุ่มพวง จากประวัติที่ผ่านมา หากไปกราบไหว้ตามคนอื่น ก็ดูงมงายเกินไป ขอให้มีความเชื่อ ศรัทธาอย่างมีเหตุมีผล มีปัญญากำกับ ตามหลักพุทธศาสนา เน้นการทำดีได้ดี และขึ้นอยู่กับผลของกรรมแต่ละคน.