ครูเต้ย หายตัวปริศนาเกิน 20 วัน กลางเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี คาดจมน้ำระหว่างแพกำลังล่อง คนร่วมทริปไม่มีใครระบุได้ว่าหายตัวไปตอนไหน นักดำน้ำในพื้นที่ระบุว่า เป็นเคสที่ดำน้ำค้นหาได้ยาก เพราะถ้าพลัดตกระหว่างแพกำลังล่อง จะเกิดแรงเหวี่ยง ทำให้ร่างหลุดไปนอกเส้นทาง ถ้าจมไปในความลึกเกิน 20 เมตร จะมีแรงดันน้ำ ที่ดูดกลืนร่างให้จมลึกไปใต้ก้นบาดาลเร็วกว่าปกติ
เข้าสู่วันที่ 25 ของการหายตัวปริศนาของ ครูเต้ย นายจัตุรภุช อายุ 41 ปี อดีตครูมหาวิทยาลัยชื่อดัง หายตัวปริศนา ระหว่างล่องแพที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 18-19 พฤษภาคมที่ผ่านมา จากข้อมูลพบว่า ครูเต้ย ได้เดินทางมาท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเพื่อลงไปพักผ่อนในแพกว่า 30 คน โดยก่อนหายตัว คนในทริปต่างแยกย้ายไปพักผ่อน และระหว่างที่แพค่อยๆ ล่องไปในเขื่อนศรีนครินทร์ ครูเต้ยได้ไปอยู่ในห้องพักคนเดียว หลังจากแพขึ้นฝั่ง เพื่อนในกลุ่มก็ไม่พบครูเต้ยอีก เจอแต่ของใช้ส่วนตัวที่ทิ้งไว้บนแพ คาดว่าผู้สูญหายตกลงไปในน้ำระหว่างล่องแพ
ขณะที่เฟซบุ๊กส่วนตัวครูเต้ยก่อนสูญหายปริศนา โพสต์เชิงตัดพ้อ ซึ่งเมื่อวันที่ 8-10 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทีมกู้ภัยกว่า 50 ชีวิต ได้ลงดำน้ำค้นหา แต่ไม่พบร่างครูเต้ย และได้ยกเลิกภารกิจต่อมา
...
การหายตัวปริศนาบนแพของครูเต้ย ต่างจากการค้นหาร่างน้องมาวิน หนุ่มอายุ 18 ที่ตกเจ็ตสกี ในเขื่อนศรีนครินทร์ เพราะกรณีครูเต้ยไม่มีหลักฐาน หรือผู้พบเห็นว่าพลัดตกลงไปจากแพ โดย "นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์" ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 ที่มีประสบการณ์ดำนำในเขื่อนศรีนครินทร์ ให้ข้อมูลว่า การหายตัวปริศนาของครูเต้ย ระหว่างล่องแพในเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นกรณีที่ทำงานค่อนข้างยาก เพราะไม่มีใครรู้เห็นจุดที่ตกน้ำแน่ชัด ขณะเดียวกันไม่มีคนยืนยันว่าตกน้ำจริงหรือไม่ เพราะระหว่างที่หายตัวไป แพก็กำลังล่องไปยังเกาะกลางน้ำ
น่าสนใจว่าแพที่ครูเต้ยล่องไปด้วย มีคนลงไปด้วยกัน 30 คน แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ครูเต้ยหายตัวไปตอนไหน กระทั่งขึ้นฝั่งแล้วเพิ่งรู้ว่ามีคนหายไป ซึ่งทีมค้นหาได้แต่ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ผู้สูญหายอาจตกน้ำในระหว่างที่แพลากไป
“เคสครูเต้ย ถ้าจมลงไปในเขื่อนจริง แทบไม่มีความหวังที่จะหาร่างเจอ เพราะปกติ 7-12 วัน ร่างจะลอยขึ้นมา ซึ่งตอนนี้หายไป 20 กว่าวันแล้ว โอกาสที่ร่างลอยขึ้นมา เป็นไปได้ยาก”
จากข้อสันนิษฐาน ถ้าครูเต้ยตกลงไปในเขื่อน ระหว่างที่แพกำลังล่อง ร่างกายจะจมในแนวเฉียง ตามแรงเหวี่ยงของแพที่กำลังล่อง ถ้ายิ่งจมลึกเท่าไร ร่างยิ่งถูกเหวี่ยงไปไกลเท่านั้น ซึ่งร่างอาจถูกเหวี่ยงไปอยู่ในจุดที่ไม่ใช่เส้นทางที่แพล่องไป
จุดที่แพของครูเต้ยล่องไป มีความลึกสูงสุดอยู่ที่ 160-170 เมตร จุดล่างสุดเป็นแม่น้ำแควใหญ่ ที่เป็นเส้นทางแม่น้ำสายเก่า ก่อนที่มีการสร้างเขื่อน โดยเส้นทางที่มุ่งตรงไปเกาะกลางน้ำ เคยมีคนจมน้ำรายหนึ่ง ทีมกู้ภัยพยายามดำน้ำหา ไปในความลึก 80 เมตร แต่ทุกวันนี้ก็ยังหาไม่เจอ
เขื่อนศรีนครินทร์ น้ำมีความลึกมาก ที่ผ่านมามีคนจมน้ำเสียชีวิตถึง 5 ราย ยังไม่สามารถค้นหาร่างได้ เพราะน้ำในความลึก 20 เมตร มีความหนาแน่นของน้ำ ทำให้เกิดแรงบีบอัด ทำให้ทีมช่วยเหลือหรือคนที่จมน้ำถูกแรงดันน้ำดูดให้จมลึกลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งกรณีของนักดำน้ำช่วยเหลือ ในความลึกเกิน 20 เมตร ต้องมีเทคนิคที่พยุงตัว เพื่อไม่ให้น้ำดูดเราลงไปในความลึกที่รวดเร็วกว่าปกติ
ด้วยแรงดันของน้ำทำให้ร่างของผู้ที่จมน้ำส่วนใหญ่ไม่ลอยขึ้นมา ถ้าลอยจะอยู่ในระยะความลึก 1–2 เมตร จากผิวน้ำ แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการค้นหาคือ ตะกอนอยู่ใต้น้ำ มีโอกาสทับกลบร่าง ทำให้หาร่างไม่เจอ ซึ่งเป็นเรื่องยากมากในการค้นหา ยิ่งกรณีครูเต้ย ไม่รู้จุดที่ตกลงไป ทำให้ที่ช่วยเหลือดำน้ำค้นหายากมากขึ้น
...
“เคยมีเคสที่จมลงไปในความลึก 70–80 เมตร ร่างมีโอกาสลอยขึ้นมาได้ยาก ซึ่งคนที่จมน้ำ แค่ขาดอากาศหายใจแค่ 4 นาที ก็หมดสติ ขณะเดียวกันโอกาสที่ร่างจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ขึ้นอยู่กับรูปร่างนั้นว่า ถ้าเป็นคนอ้วน เมื่อจมน้ำจะมีแก๊สในร่างกายมาก ประมาณ 3–4 วัน ร่างจะลอยขึ้นมา แต่คนที่ผอม โอกาสที่ร่างลอยขึ้นมาได้ยาก ซึ่งเคสครูเต้ย ถ้าจมน้ำจริง โอกาสลอยขึ้นมาแทบไม่มี”
ประกอบกับอุณหภูมิใต้น้ำอยู่ที่ 22–23 องศา มีความเย็นเหมือนกับเปิดแอร์ไว้ ทำให้ร่างของคนที่จม ไม่ลอยและไม่เน่าเปื่อยเหมือนศพที่อยู่ในอุณหภูมิปกติ เหมือนกรณีของน้องมาวิน และมีความเป็นไปได้ว่ากรณีของครูเต้ยจะตกลงไปอยู่ในช่วงที่เป็นหน้าผาลึกใต้น้ำ เหมือนกับน้องมาวิน ซึ่งบริเวณนั้นมีกิ่งไม้ ต้นไม้สูงอยู่จำนวนมาก ทำให้นักดำน้ำเข้าไม่ถึง เช่นเดียวกับเครื่องค้นหา ที่สายอาจไปเกี่ยวกับกิ่งไม้ได้
ด้วยความที่ เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยว อยากให้คนที่มาเล่นน้ำ ใช้ความระมัดระวัง ไม่ฝ่าฝืนข้อห้ามตามที่เจ้าของสถานที่ได้กำหนดไว้ ขณะเดียวกันเมื่อจะเล่นน้ำควรสวมเสื้อชูชีพเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้.
...