คดีอุ้มรีดนักท่องเที่ยวจีน 2.5 ล้านบาท ซ่อนปมพิรุธเกี่ยวโยงขบวนการนอกรีต มีตำรวจเกี่ยวโยง ขณะสังคมตั้งคำถามว่า คนร้ายรู้ได้อย่างไรว่าเหยื่อมีเงินจำนวนมาก และสาวชาวลาวที่นำเครื่องรูดบัตรไปถึงในห้อง ก่อนคนร้ายบุกมาอุ้มไปรีดเงิน จนสร้างความหวั่นวิตกให้กับนักท่องเที่ยวจีน

คดีสะเทือนวงการนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อตำรวจชุดสืบสวนจับกุมตัว ด.ต.อรรถวุฒิ บอส อดีต ผบ.หมู่ สส.สน.คันนายาว ที่ถูกให้ออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 โดยได้เข้ามาควบคุมตัวผู้เสียหายกับพวก โดยอ้างว่าชาวจีนกระทำผิดกฎหมายต้องพาไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ ระหว่างนั้นมีการพูดจาข่มขู่และโชว์บัตรตำรวจ จากนั้นควบคุมตัวกลุ่มผู้เสียหายขึ้นรถยนต์ 2 คันที่จอดรออยู่บริเวณหน้าโรงแรม และได้ขับพาผู้เสียหายไปที่บริเวณย่านวิภาวดีรังสิต ระหว่างทางกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการเกลี้ยกล่อมผู้เสียหายให้ยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี

...
ผู้ก่อเหตุออกอุบายอ้างว่า เหยื่อคนจีนมีเครื่องรูดบัตรอยู่ในห้อง ถือว่าผิดกฎหมาย ให้จ่ายเงินจำนวน 4 ล้านบาท เพื่อเคลียร์ แต่ผู้เสียหายเสนอจำนวนเงินเหลือ 3 ล้านบาท เพราะผู้เสียหายเกรงว่าจะถูกจับกุม จึงติดต่อหาเพื่อนชาวจีนที่อยู่ในประเทศกัมพูชาให้โอนเงินมาเข้าบัญชีกระเป๋าเงินดิจิทัลตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวต้องการ เป็นเงินจำนวน 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท เมื่อจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้วกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ปล่อยตัวผู้เสียหาย
จากนั้นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความจนมีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา และสอบสวนสาวชาวลาวที่นำเครื่องรูดบัตรเข้าไปในห้องวันเกิดเหตุว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า ผู้เสียหายชาวจีนเดินทางเข้าเมืองไทยเมื่อวันที่ 19 เมษายน ไปพักที่พัทยาถึงวันที่ 20 เมษายน จากนั้นวันที่ 21 เมษายน เดินทางเข้ามาที่กรุงเทพฯ โดยเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยประชาสงเคราะห์ 2 พื้นที่ สน.ดินแดง โดยฝ่ายผู้เสียหายมีเพื่อนมาร่วมพักด้วยรวม 5 คน

เส้นทางการเงินจำนวน 2.5 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายได้โอนเข้ามาให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนพบว่า เส้นเงินถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกประมาณ 1.4 ล้านบาท ได้แบ่งให้นายบอส 7 แสนบาท และ จ.ส.ต.วีรยุทธ อีก 7 แสนบาท และโอนไปให้กับผู้ร่วมก่อเหตุอีกรายจำนวน 1 แสนบาท ส่วนที่สองประมาณ 890,000 บาท แต่บัญชีนี้ได้ถูกอายัดโดยตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เนื่องจากบัญชีนี้เกี่ยวข้องกับการหลอกซื้อขายของออนไลน์

ล่าสุด วันนี้ (5 พ.ค. 67) ตำรวจได้ควบคุมตัวสาวลาวเพื่อสอบปากคำกรณีที่นำเครื่องรูดบัตรไปที่ห้องเกิดเหตุ และตามจำผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ โดยคาดว่าแก๊งนี้จะมีผู้กระทำผิดประมาณ 11 คน.