ลงพื้นที่ 'เขตบางขุนเทียน' ติดตามปัญหา 'คนกับลิง' ชาวบ้านชี้เรื่องนี้ยังคาราคาซัง เสียทั้งทรัพย์สินและสุขภาพจิต มองลิงอยู่ในพื้นที่ได้ แต่วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำกรงกั้นอาณาเขต ไม่ให้ออกมาสร้างความเดือดร้อนหากพูดถึง 'ปัญหาลิง' สถานที่แรกที่น่าจะอยู่ในความคิดของทุกคน คงหนีไม่พ้น 'จ.ลพบุรี' ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ก็ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนปัญหาเรื่องนี้อยู่เป็นระยะอ่านเพิ่มเติม : ทุกข์ที่ยังวิกฤติ ตามติด 'ลิงลพบุรี' หลังลงนาม MOU 1 เดือนแต่พื้นที่ในประเทศไทยที่ 'คน กับ ลิง' มีปัญหากัน ไม่ได้มีเพียงแค่ จ.ลพบุรี เท่านั้น แต่มีกระจายอยู่หลายจุดทั่วประเทศ และมักจะมีข่าวเรื่องนี้ให้คนในประเทศได้ตามอ่านอยู่เป็นระยะ และหนึ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาดังกล่าวก็คือ 'เขตบางขุนเทียน'หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ปัญหาลิงเขตบางขุนเทียน ได้รับการพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากมีคลิปเป็นกระแสโด่งดังในติ๊กต่อกขึ้นมา ร้อนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยว ต้องเร่งลงไปจัดการเจ้าจ๋อ และแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นจากการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า ช่วงเดือนมกราคม 2567 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการทำหมันลิงไปบางส่วนแล้ว นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ก็มีการดำเนินการช่วยประชาชนอยู่เป็นระยะเมื่อเคยมีปัญหา และพบว่ามีการแก้ปัญหาไปบ้างแล้ว ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงตัดสินใจลงพื้นที่เขตบางขุนเทียน เพื่อตรวจสอบว่าสถานการณ์และประชาชนในพื้นที่ว่าเป็นเช่นไรเราเริ่มต้นกันที่ 'อนุสาวรีย์คุณกะลา' บริเวณถนนเทียนทะเล เขตบางขุนเทียน แต่จากการสังเกตโดยรอบ พื้นที่นี้ยังไม่ค่อยมีประชาชนอาศัยอยู่เท่าไรนัก ช่วงกลางวันลิงจะหลบแดดอยู่ในต้นไม้ แต่เมื่อแดดร่มลมตก พวกเขาจะออกมาหาอาหารกินซึ่งบริเวณนี้เองมีการกำหนดจุดให้อาหารไว้อย่างชัดเจน 2 จุดด้วยกัน แต่ก็ยังมีเศษอาหารที่กลายเป็นขยะให้เห็นตามพื้นถนน เนื่องจากลิงนำออกมากินแล้วปล่อยทิ้งไว้ นอกจากนั้นยังมีประชาชนบางส่วนให้อาหาร โดยไม่ได้นำมาวางไว้ในจุดที่ควรจะเป็นหลังจากการสังเกตการณ์บริเวณอนุสาวรีย์คุณกะลาเรียบร้อยแล้ว ทีมข่าวฯ จึงมุ่งหน้าต่อไปยัง 2 สถานที่ ที่คนมีปัญหากับลิง ได้แก่ ซอยเทียนทะเล 22 และ ซอยบางกระดี่ 43ทุกข์นาน 8 ปี : ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เดินทางมาถึง 'ซอยเทียนทะเล 22' และเริ่มต้นเข้าไปที่แยก 14 ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านของ 'คุณอำมรลักษณ์ วิชาคำ' ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาลิงมามากกว่า 8 ปี และเธอเองก็เคยเป็นไวรัลจนเป็นข่าว จากการถ่ายคลิปลิงบุกบ้านหลังใหม่ลงติ๊กต่อกคุณอำมรลักษณ์ เล่าว่า เจ้าหน้าที่มาจับลิงไปล่าสุดเมื่อ 22-23 มกราคม ที่ผ่านมา เขามาจับไปทำหมัน แต่พอลิงพักฟื้นเสร็จ เขาก็เอามาไว้ที่เดิม เราถามว่าคุณเอาไปเลยได้ไหม แต่เขาก็บอกว่าไม่ได้ เพราะไม่มีที่ให้ลิงอยู่ เราถามต่อไปอีกว่าแล้วชาวบ้านจะทำยังไงได้ เขาตอบว่าต้องรอทำพื้นที่ตรงคุณกะลาทีเดียว"เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ที่มันขึ้นมารื้อบ้านเรา หน่วยงานตอนนั้นก็บอกว่ารอคุณกะลา เราถามเขาไปว่าภายในอีก 3 ปี ลิงตัวแรกจะได้ออกจากตรงนี้ไหม เขาก็ยิ้มแล้วบอกว่ายังคงไม่ได้ออก เพราะลิงไม่มีที่อยู่"คุณหมวย เล่าต่อว่า เพิ่งทำรั้วไฟฟ้าเมื่อ 14 มีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง เพราะว่าเอาลิงไม่อยู่แล้ว มีพี่ในติ๊กต่อกแนะนำเราว่า ถ้าติดรั้วไฟฟ้ากันลิงได้แน่นอน แต่จริงๆ แล้ว หลังซอยเขาก็ทำแบบเป็นตาข่าย แต่ก็ยังเอาลิงไม่อยู่ ลิงเขาจะมาลองจับดูก่อน มันแค่สะดุ้งๆ สุดท้ายก็เลยกวนเหมือนเดิม "เราคิดว่าลองเพิ่มขนาดเส้นลวดให้ใหญ่ขึ้น เผื่อจะเอาลิงอยู่ แต่ปรากฏว่ามันเปลี่ยนพฤติกรรม จากแต่ก่อนที่จะกระโดดจากหลังคาอีกบ้านหนึ่ง มาหยุดตรงกำแพงบ้านเรา มันก็กระโดดจากหลังคาบ้านเขา มาที่บ้านเราเลย"คุณหมวยพาทีมข่าวฯ เดินมาหยุดบริเวณหน้าบ้าน และชี้สังกะสีสีเขียวของเพื่อนบ้านให้ดู บนนั้นมีรอยคล้ายนิ้วมือให้เห็นอยู่หลายจุด บ้างเป็นรอยชัดเจน บ้างลากเป็นทางยาว คุณหมวยได้อธิบายเรื่องนี้ให้เราฟังว่าบ้านอีกหลังหนึ่ง เขาเอากะปิและจาระบีมาทารอบรั้วบ้าน พอลิงไปเหยียบแล้วมันมาขึ้นตรงนี้ ก็เลยกลายเป็นรอยเท้าแบบที่เห็น รอยนี้เมื่อประมาณเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หรือส่วนรางน้ำบ้านเราที่เห็นหลุดแบบนั้น เพราะมันกระโดดจากหลังคาเพื่อนบ้าน มาเกาะมาเหยียบที่ตรงนี้ ลิงทำลายทรัพย์สินและสุขภาพจิต : เราจะเห็นได้ว่า เจ้าของบ้านพยายามป้องกันตัวเองเท่าที่ทำได้ แม้ว่าจะยากแต่ยังต้องทำ ความทุกข์นั้นถูกสะสมมาหลายปี ทำให้ตัวคุณหมวยต้องเสียทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต และทรัพย์สินคุณหมวยเริ่มพรั่งพรู ความเสียหายที่เกิดจากลิง ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันให้เราฟังว่า ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ลิงเคยขโมยเต่าซูลคาต้าตัวเล็กเราด้วย ตอนนั้นเอามาเลี้ยงได้ 3 วัน ทำกรงเล็กๆ ให้เต่าแล้วเอาวางไว้ข้างบ้าน เราเผลอไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว ลิงมานั่งเป็น 10 ตัวเลย มันหยิบเต่าวิ่งหนีไป เราก็เลยต้องวิ่งตาม"เราขอบ้านข้างๆ ปีนขึ้นกำแพง เห็นว่าลิงถือเต่าอยู่ ห่างประมาณ 2 เมตรครึ่ง แต่เราไม่สามารถเอาลงมาได้ เขาชูเต่าแล้วจิ้มให้เราดู ตามองมาที่เราแบบไม่กะพริบเลย แยกเขี้ยวใส่ด้วย พอเราจะเข้าใกล้ ลิงก็หนีไปอีก ตามอยู่ตั้งแต่บ่ายโมงไปจนถึงสี่โมงครึ่ง จ้างคนช่วยอีก 2 คน คนละ 300 บาท สุดท้ายก็ยังดีที่ได้คืน""แล้วถ้าย้อนไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตรงหน้าต่างยังไม่ได้ติดเหล็กดัดแบบที่เห็น ลิงก็งัดมุ้งลวดเข้ามา มันเอาพระเลี่ยมทองไป 4 องค์ พระที่อยู่ในกล่องด้วย แล้วก็พระคงลำพูนที่ราคา 9 หมื่นกว่าบาทอีก หายหมดเลย หายจริงๆ นะ ทุกวันนี้ก็ยังหาไม่เจอ ไม่ใช่แค่บ้านเราที่โดนนะ บ้านอื่นก็โดน พระบ้าง กุมารทองบ้าง หรือถ้าจะได้ของคืน ก็ได้ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์แล้ว เราก็ไม่รู้จะทำยังไง"วีรกรรมความแสบเจ้าจ๋อ จากประสบการณ์ของอำมรลักษณ์ ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เธอเล่าต่อว่า เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เราเดินทางไปต่างจังหวัด เลยจ้างคนมาช่วยดูแลบ้าน ให้ค่าตอบแทนเขา 2,500 บาท ไม่ใช่คอยดูเพื่อไม่ให้ลิงเข้ามากวนนะ แต่ให้มันเกิดความเสียหายน้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้และเป็นไปได้ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ายังไงลิงก็มากวน"ที่เราต้องทำแบบนี้ เพราะเราเคยมีประสบการณ์มาก่อน เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เราจะไปเที่ยวสงกรานต์แถบภาคอีสาน ออกจากบ้านตั้งแต่ประมาณตีห้า แต่รถไปติดอยู่ช่วงกลางดง แถวโคราช รู้สึกไปกันต่อไม่ไหว เลยขับรถกลับมาที่บ้านกัน ถึงประมาณ 5 โมงเย็น""เรายังไม่ได้ก้าวเข้าบ้านเลย มองไปบนพื้นน้ำเต็มไปหมด มีกี่ก๊อกมันเปิดไม่เหลือ รื้อของเละหมดเลย ตอนนั้นได้แต่ภาวนาว่าขอให้ในบ้านอย่าเป็นอะไรเลย เพราะเรามั่นใจแล้วว่าล็อกหมด แต่สุดท้ายก็ไม่รอด เพราะเราลืมล็อกหน้าต่างบานสุดท้าย และตอนนั้นยังไม่ได้ทำกรงเหล็กแบบตอนนี้"ทีมข่าวฯ ถามต่อไปว่า "แล้วสภาพในบ้านเป็นอย่างไร?""ที่นอนเราต้องทิ้งหมดเลย เพราะเขาอึทิ้งไว้ ใช้ต่อไม่ได้แล้ว มันเปิดตู้เสื้อผ้ากวาดของในตู้ออกมากองหมด ตู้เย็นก็เปิดทิ้งไว้ ชีส ไข่ น้ำมัน มันเทหมดเลย สภาพเละไปหมด เรายืนร้องไห้เพราะทำอะไรไม่ถูก กลิ่นแย่ไปหมด ทั้งคาวไข่และกลิ่นอึ ไมโครเวฟมันก็เอาอึไปป้ายไว้ เราสงสัยว่ามันทำไปทำไม"คุณหมวยพาทีมข่าวฯ เดินไปดูบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน เป็นบ้านรั้วสีขาวที่เพิ่งสร้างเสร็จได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งไม่ใช่ของคนอื่นไกล แต่เป็นบ้านของเธอเอง อย่างไรก็ตาม บ้านหลังนี้ยังไม่มีใครมาอยู่ มีแค่เพียงช่วงเย็นที่ลูกชายของคุณหมวยจะมาออกกำลังกายบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งขณะเดียวกันนั้นเอง เราก็ได้เห็นลิงตัวแรกกำลังนั่งอยู่บนรั้วท้ายซอยเราสังเกตเห็นกล่องไฟสีดำที่ติดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งอยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้แล้ว คุณหมวยบอกกับเราว่า ต้องเปลี่ยนอาทิตย์ละ 2-3 รอบ แต่รอบนี้ทิ้งช่วงนานหน่อย ปล่อยมาตั้งแต่วันอาทิตย์ (17 มี.ค. 2567) เพราะว่าที่ซื้อมาสำรองไว้หมดแล้วทีมข่าวฯ สอบถามว่า ถ้าปล่อยไปก่อนไม่ได้หรือ แล้วค่อยเปลี่ยนทีหลัง เพราะรู้อยู่แล้วว่าลิงจะต้องมาทำลาย?"ที่ต้องติดไว้ เพราะช่วงกลางคืนซอยบ้านเราจะมืดมาก อยากให้มองมาแล้วรู้สึกปลอดภัย เลยทำให้มันสว่างไว้ก่อน" คุณหมวยตอบคุณหมวย กล่าวต่อว่า คุณดูสิ แล้วแบบนี้เราจะรักมันไหม ความแค้นมันเลยเกิด เราพูดแบบไม่อายปากเลยว่า เราแค้นมันนะ "เราแค้นจนตัวเราต้องปรึกษาจิตแพทย์ แต่ดีที่ว่าผู้ปกครองของเพื่อนลูกชายคนเล็ก เขาเป็นคุณหมอ เราเลยไม่ต้องจ่ายเงินตรงนั้น แล้วก็มีพี่ในติ๊กต่อกที่เขาถามเราอยู่ เขาเป็นคุณหมอเหมือนกัน เขาบอกเราว่าถ้าปรึกษาจิตแพทย์คนไหนไม่ได้แล้ว ให้ไปหาเขาได้"เตารีดเกือบโดนหัวลูกสาว! : คุณหมวยพาทีมข่าวฯ เดินไปซอยที่อยู่ติดกัน ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของ ‘คุณแหม่ม’ ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาลิงเช่นกัน แม้คุณแหม่มจะยังไม่ได้สะดวกให้เราบันทึกรูปถ่าย และสามารถสนทนาได้เพียงเล็กน้อย แต่เธอก็ยังยินดีที่จะพูดคุยกับเรา เพื่อสะท้อนปัญหานี้ให้ได้ฟัง"ลิงเอาเตารีดมาทุ่มที่หลังคา แต่โชคดีที่หลังคาบ้านพี่เขาหนา เลยยังไม่เป็นอะไรมาก หลังจากนั้นมันโยนเตารีดลงมาข้างล่าง ซึ่งลูกสาวพี่แหม่มนั่งอยู่หน้าบ้าน" คุณหมวยเล่าเปิดประเด็นขึ้นมา ก่อนที่คุณแหม่มจะพยักหน้าตอบรับ เป็นอันเข้าใจว่า เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเรื่องจริง!โชคดีที่ครั้งนั้นลูกสาวคุณแหม่มไม่ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ในฐานะคุณแหม่มผู้เป็นแม่ เธอตั้งคำถามต่อไปว่า "ถ้ามันเกิดเหตุขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ"คุณแหม่ม กล่าวว่า บริเวณนี้มีคนรักลิง เราเข้าใจนะ แต่คุณก็ต้องดูแลให้ลิงอยู่ในที่ของคุณ ถ้าคุณปล่อยให้ลิงออกมายุ่งแบบนี้ มารังควานเรา เราเดือดร้อน "เคยมีวันหนึ่งคนมาเยอะมาก เดินมาทั้งหมอผู้หญิง ทั้งพวกเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าจะมาจับลิง เขาก็ออกปากเองเลยว่าลิงเยอะจริง เราบอกว่าจับไปหน่อยนะ ตอนนั้นรู้สึกมีความหวัง เพราะนึกว่าจะมาจับไปเลย แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้จับ ส่วนรอบที่มาจับได้ ก็จับไปทำหมันแล้วเอามาปล่อยที่เดิม""แล้วลิงมันเห็นคนนะ เหมือนมันแกล้งอะ ถ้าแกล้งไม่ได้มันก็ทำลายของ นี่เดี๋ยวถ้าต้นชมพู่ในบ้านออกนะ มันก็มากวาดไปหมด มันเคยเข้าไปในบ้านเราด้วย 4-5 ตัว ทำให้เราต้องปิดประตูบ้านตลอด ทั้งประตูหน้าและประตูหลัง" คุณแหม่มกล่าวกับเรา พร้อมชี้ในบ้านให้ดูด้าน คุณหมวย เสริมขึ้นว่า มีคนบอกว่าลิงต้องอยู่ที่นี่ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของเขตบางขุนเทียน ซึ่งชุมชนก็เห็นพ้องต้องกันว่า คุณอนุรักษ์ได้ คุณชอบได้ แต่คุณต้องจำกัดไว้ในที่ของคุณ อย่าปล่อยมาแบบนี้ "อารมณ์ชาวบ้าน เปรียบเทียบให้เห็นว่า ชาวบ้านเขารู้สึกว่าเหมือนโจรปล้นบ้าน เราไปแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจไม่มาบ้านเรา เขาไปบ้านคนที่รักลิง มีแต่นักข่าวมาหาเรา มาช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เรา คนเขาก็ทนกันมาเยอะ พระหาย เถ้ากระดูกหายก็มี แต่ไม่มีคนรับผิดชอบ" คุณหมวยกล่าวด้วยสีหน้าเบื่อจะทนเต็มทีคาราคาซัง : ไม่ไกลจากคุณแหม่มสักเท่าไร 'คุณณัฎฐพัรร์ บุลภรณ์อังควรา' กล่าวเสริมปัญหาเรื่องลิงให้ทีมข่าวฯ ฟังว่า ลิงสร้างปัญหามาก เพราะมันขึ้นไปบ้านคนอื่นเขาทั่ว ของอะไรที่เขาแขวนไว้ มันก็หยิบก็ดึงไปหมด"แล้วไม่ใช่แค่ที่นี่ มันไปบ้านหลังอื่นด้วย ปัญหามันอยู่แบบนี้มา 10 กว่าปีแล้ว เคยเป็นแบบไหน ก็ยังเป็นแบบนั้น ที่มีคนบอกว่ามาจับลิงไป ก็แค่จับไปทำหมัน เสร็จแล้วก็เอามาไว้ที่เดิม ทำได้ครึ่งๆ กลางๆ""เมื่อ 2 วัน หลังคาก็แตกเพราะลิงมันไล่กัด เราก็ต้องเปลี่ยนออก ในอดีตแถวนี้ยังไม่เจริญเท่าไร มันก็ไม่ค่อยมายุ่งนะ แต่ตอนนี้มันยุ่งหนักกว่าแต่ก่อน อย่างตอนนี้คุณอาจจะไม่เห็นมันมากเท่าไร เพราะอากาศร้อน พวกมันหลบแดดกันอยู่ มันจะออกมาวิ่งช่วงเช้ากับช่วงเย็น มาทุกวันอยู่แล้ว วันละ 3-4 เที่ยว"ปัญหา ณ ซอยบางกระดี่ 43 เขตบางขุนเทียน : อีกหนึ่งพื้นที่ในเขตบางขุนเทียน ที่ลิงแสมสร้างผลกระทบกับชาวบ้าน คือบริเวณซอยบางกระดี่ 43 หากขับรถเข้าไปตามซอย อาจจะไม่มีบ้านคนให้เห็นเท่าไรนัก เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นโรงงาน เราจึงยังไม่ได้มีโอกาสเข้าไปคุย เพราะอยู่ในช่วงเวลางานของพวกเขาอย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านอาหารตามสั่งสุดทางซอยบางกระดี่ 43 แนะนำบ้านของคนในพื้นที่ ที่เดือดร้อนจากเรื่องนี้ให้เรารู้จัก เราจึงได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุย ถึงสถานการณ์ที่ผ่านมา 'คุณเล็ก กุลนิษฐ์' อาศัยอยู่กับคุณแม่ ที่บ้านริมคลองสนามชัย เธอบอกกับเราก่อนว่า "ตอนนี้ลิงไม่ได้มาประมาณ 2-3 อาทิตย์แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่คิดว่ายังไงมันก็ต้องมาอีกแน่" แม้วันที่ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะเดินทางไปแล้วไม่พบลิง แต่บ้านหลังนี้ก็ยังมีหลักฐานความเสียหายให้เราได้เห็น!!!คุณเล็ก เริ่มต้นจากการพาทีมข่าวฯ เดินดูหลังคาบ้านที่แตกหัก จากฝีมือของบรรดาเจ้าจ๋อที่เคยมาสร้างความวุ่นวาย ทำให้เราเห็นว่า ร่องรอยความเสียหายที่ถูกทิ้งไว้ ไม่ได้มีเพียงจุดเดียว แต่มีหลายจุดที่ถูกทิ้งไว้เตือนความทรงจำอันเจ็บปวด"มันขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วกระโดดลงมาหลังคา รอยที่เห็นอยู่ก็มีทั้งใหม่และเก่า เพราะมันจะมาเรื่อยๆ นอกจากตรงนี้ก็ยังมีหลังบ้านอีก แตกหมดเลย ยังไม่ได้ซ่อมด้วย เพราะซ่อมไปเดี๋ยวมันก็มาทำอีก" คุณเล็กเล่าให้เราฟัง พลางเดินพาดูความเสียหายรอบบ้านคุณกุลนิษฐ์ กล่าวต่อว่า ถ้ามันมาแล้วเราเผลอเปิดหน้าต่าง หรือประตูทิ้งไว้ มันจะเข้าไปรื้อของในบ้าน เราโดนเป็นประจำ มันไม่ได้มาแค่ครั้งเดียว มันมาเป็นร้อยครั้งแล้ว เวลามาก็มาเยอะด้วย ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ อะไรที่มันเอาได้มันเอาไปหมด มะม่วงเคยปลูกไว้ก็ไม่ได้กิน เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ทีมข่าวฯ ถามคุณเล็กว่า ลิงมาจากไหน เธอจึงพาเราเดินไปที่ท่าน้ำ ริมคลองสนามชัยที่อยู่ติดบ้าน ก่อนจะไปที่อีกฝั่งของคลอง และอธิบายให้ฟังว่า มันจะข้ามมาจากช่วงกอต้นจากฝั่งนู้น แล้วค่อยๆ ว่ายน้ำข้ามมาเป็นแถว มีจ่าฝูงนำ แล้วตัวเล็กๆ ขนาดลดหลั่นกันมาว่ายน้ำตามเธอเสริมว่า แล้วเวลามันมา มันจะมานอนที่บ้านร้างหลังนี้ (ข้างบ้านคุณเล็ก) บางครั้งมันมาอยู่เป็นอาทิตย์ พอเป็นแบบนั้นมันก็มีกลิ่นเหม็นออกมา "เจอปัญหาแบบนี้เราก็เครียดไง มีคนสูงอายุอยู่ด้วย เราเผลอไม่ได้เพราะมันเข้าไปยุ่งในบ้านหมด ดีที่ยังไม่เคยโดนมันทำร้าย แต่เราเคยโดนมันดึงกระโปรง เพราะวันนั้นเตรียมขยะไว้จะไปทิ้ง เราเอาไม้ไล่มัน ไอ้ตัวจ่าฝูงวิ่งมาคว้ากระโปรงเราได้ มันดึงไว้เลย เราวิ่งหนีมัน ก็โชคดีที่ไม่ล้ม" พูดตรงนี้จบปุ๊บ คุณเล็กเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ เปิดรูปแสดงเป็นหลักฐานยืนยันกับเราว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง! 'นำลิงออกจากพื้นที่' ความคาดหวังสูงสุด : คุณอำมรลักษณ์ แสดงความคิดเห็นว่า คาดหวังว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะช่วยแก้ปัญหาได้มากกว่านี้ ซึ่งเราก็เข้าใจว่าเขาคงทำอะไรยาก เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ความปรารถนาของเรา เราย้ำคำเดิมว่า "ต้องการให้เอาลิงออก" หรือถ้ามีใครที่พร้อมจะเอาไว้ เมตตาลิง รักลิง คุณก็เอาไว้ได้ แต่อย่ามาให้เดือดร้อนคนอื่น จำกัดอยู่แค่ที่ของคุณ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องเอาออก"หลายคนมาคอมเมนต์ว่า 'ง่ายๆ แก้ปัญหานิดเดียว ก็ยกบ้านหลังนี้ให้ลิงสิ มีหลายหลังไม่ใช่เหรอ' เราเลยบอกว่า ฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ถ้าคุณพร้อมก็มาซื้อให้มันสิ เราไม่ได้ได้มาฟรี เราก็เสียไปเป็นล้าน ยอมรับว่าบางทีเราก็ของขึ้นเหมือนกัน ส่วนคลิป แม้ใครจะบอกไม่ให้ลง มีคนมาห้าม เราก็ยังจะลง เพราะอยากจะย้อนให้เห็นว่า หลายปีที่ผ่านมามันเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนี้"คุณอำมรลักษณ์ กล่าวต่อว่า มันเคยมีร่างโครงการออกมา ว่าอยากทำให้ตรงอนุสาวรีย์คุณกะลาเป็นเหมือนที่พักผ่อน เป็นจุดขาย เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่เราก็ถามว่าคนอยากมาดูลิงขนาดนั้นเหรอ ชาวบ้านเขาต้องการแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม ซึ่งตามโครงการมันก็ระดับร้อยล้าน"เรามองว่าถ้าจะทำก็เอาสักหลักสิบล้านไม่ได้เหรอ ทำคล้ายๆ กับกรงนกชัยนาท ทำเป็นกรงแล้วเอามันไปไว้ แต่เขาบอกว่า 'ลิงมันจะตีกัน' เราก็ เอ้า! แล้วเวลาประชุมคุณจะมาโชว์ให้ชาวบ้านฟังทำไม ว่าจะเอาลิงจุดนู้นจุดนี้ไปไว้ตรงคุณกะลา"ด้านคุณณัฎฐพัรร์ ให้ความเห็นว่า กรมอุทยานฯ หรือส่วนอนุรักษ์ต้องจัดการ แต่เขาก็ยังทำอะไรไม่ได้ จะย้ายไปตรงไหนก็มีปัญหา ตอนนี้เขาก็เลยได้แต่ทำแล้วก็ปล่อย หรือทางเขตบอกมีที่ 10 กว่าไร่ แทนที่จะทำตรงนั้นให้ดี แล้วทำเป็นกรงครอบมันไว้ ปลูกต้นไม้ให้ดีๆ ให้พวกมันอยู่ "แล้วได้ข่าวว่าเขามีโครงการอยากทำอะไรไม่รู้ 300 ล้าน แต่เรามองว่ามันไม่ใช่ 20 ล้านก็เยอะแล้ว ปลูกโรงเรือนให้มัน ทำที่ล็อกไม่ให้มันออก"อย่างไรก็ดี คุณณัฎฐพัรร์มองว่าถ้าปล่อยลิงไว้แบบนี้ หน่วยงานก็คงยังช่วยอะไรไม่ได้หรอก ตอนนี้ลิงมันยังพอคุมจำนวนได้ ต้องหาที่เหมาะสมให้มัน แล้วย้ายไป ตอนนี้จะว่าคุมได้ มันก็ไม่ใช่ จะว่าคุมไม่ได้มันก็ไม่ใช่ เราแค่ต้องอยู่กันไป แต่ที่แน่ๆ มันสร้างความเดือดร้อน"ตามหลักจริงๆ แล้ว เจ้าหน้าที่ควรจะหาที่ใหม่แล้วย้ายลิงไป เพราะต่างประเทศเขาก็ทำกันแบบนั้น ตอนนี้ไม่ใช่ที่ที่ลิงจะอยู่ มันกลายเป็นเขตชุมชนไปหมดแล้ว ไม่เหมาะที่จะอยู่กันแบบนี้"ส่วนคุณกุลนิษฐ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า "เคยมีการแจ้งปัญหาเรื่องลิงไปที่เขตแล้ว แต่วันที่เขตมาเขาไม่เจอลิง เขาเลยให้เบอร์เราไว้โทรติดต่อไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่โทรไปแล้วเขาก็ไม่เห็นมา" เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณเล็กจึงต้องมีหนังสติ๊ก เป็นอุปกรณ์ไว้ป้องกันตัว เธอบอกกับเราว่า ไม่ได้หวังจะทำร้าย แค่อยากขู่ให้มันกลัว"ไม่รู้จะทำไง ร้องไปแล้ว ตามเวรตามกรรม" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเบื่อ"อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูหน่อย อย่าให้ลิงมากวนชาวบ้านเลย ตอนนี้ห่วงแม่ที่สุด เพราะเขาอายุเยอะแล้ว เขาผวา ขวัญเสีย ประสาทเสีย ความดันขึ้น เราก็ไม่กล้าทิ้งให้แม่อยู่คนเดียว เวลาจะออกไปข้างนอกต้องคอยหาคนมาอยู่ด้วย เพราะไม่รู้มันจะมาตอนไหน"ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงานภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์ #ThairathPhotoอ่านบทความที่น่าสนใจ : รออีก 1 ปี ย้ายลิงลพบุรีเข้ากรง กับงบ 30 ล้าน ที่ยังไร้คำตอบ?จับลิงลพบุรี จ่ายปีละ 6 ล้าน แค่ค่าเลี้ยงดู'ลิงลพบุรี' ยังวุ่น ตรวจกรงนิคมลิงยังไม่ได้มาตรฐานสรุป 'วิกฤติลิงลพบุรี' ปัญหาที่ยังไม่คลี่คลาย