แกะรอย นายกฯ ตัด ตำรวจ สั่งเด้ง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. วิเคราะห์ข้อดี-ผลร้ายที่จะตามมา...

กลายเป็นภาพความขัดแย้งบานปลาย นำไปสู่การ “ย้าย”  

สำหรับ กรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ถูกโยงคดี “เว็บพนัน” นำไปสู่การขอค้นบ้าน จากนั้นเป็นต้นมา ต่างฝ่ายก็ต่างออกมาแถลงข่าว หรือให้สัมภาษณ์ ลักษณะคล้ายกับการแฉกันไป

กระทั่ง ช่วงเช้าวันนี้ (20 มี.ค. 67) ทั้งคู่ ได้แถลงข่าวคู่กัน โดยเนื้อหาใจความตอนหนึ่งว่า... 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ : วันนี้ เพื่อให้การนำเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกัน จากนี้ คดีที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมด จะส่งให้กับ ป.ป.ช. ทำคดี เพื่อไม่ให้เกิดภาพความขัดแย้ง และพูดกันคนละที เพราะส่วนตัวได้คุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาตลอด ซึ่งนำเรียน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แล้ว 

“ตอนนี้เหลืออายุราชการอีก 194 วัน จึงอยากทำทุกวันนี้ให้ดี ตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง ไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร อยู่กันแบบพี่น้อง” 

...

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : นายกฯ เน้นย้ำเรื่องความขัดแย้ง เพราะฉะนั้น หลังจากวันนี้ ตน และ ผบ.ตร.ก็ต้องไปช่วยกันทำ ต้องไม่มีความขัดแย้งแล้ว วันนี้ทุกคนต้องเดินหน้าเหมือนกันหมด 

จบแน่ๆ แล้วใช่ไหม นักข่าวถามฯ “บิ๊กโจ๊ก” ตอบว่า ต้องจบ เพียงแต่คดีต่างๆ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ...

คล้อยหลังการแถลงข่าวไม่นาน ก็มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งย้าย บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. ไปรักษาราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และมีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบ.ตร. 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ : คำสั่งดังกล่าวเป็นความจริง และหนังสือคำสั่งฉบับดังกล่าวจะต้องส่งฉบับจริงมาที่สำนักเลขานุการตำรวจแห่งชาติในวันนี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ 

เกี่ยวกับประเด็นร้อนวันนี้ ทีมข่าวฯ ต่อสายพูดคุยกับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ กรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และอดีต รอง ผบ.ตร., พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม มือปราบหูดำ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีต ผกก.สภ.ลำลูกกา ที่ผลักดันการปฏิรูปตำรวจ

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ตอนนี้ท่านนายกฯ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด มีอำนาจสูงสุด และเป็นประธาน ก.ตร. ซึ่งการท่านใช้ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน ออกมาใช้ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกำลังเรียกร้อง 

“เวลานี้ ถือเป็นข้อยุติ ในการดำเนินการ ซึ่งถือเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งหมดต่อไปได้” 

พล.ต.อ.เอก อธิบายว่า การมีคำสั่งให้ ผบ.ตร.รักษาการนั้น เคยเกิดขึ้นในอดีตแล้ว ตั้งแต่สมัยเดิม ที่เคยแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น ผบ.ตร. ไม่ได้ ในอดีตก็เคยมีการให้ตำแหน่งรักษาการเกือบ 1 ปี ซึ่งเวลานั้น คือ ปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร. และมีคู่แคนดิเดต 2 ท่าน แต่ไม่สามารถแต่งตั้ง ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหายืดเยื้อ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งรักษาการ 

“สิ่งที่เกิดขึ้นเวลานี้ ก่อนอื่นต้องยอมรับชัดเจนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากความขัดแย้ง ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ และนี่เองคือ “โจทย์” ของต้นเรื่อง จนเป็นที่มาของการแก้ปัญหาแบบนี้ หลังจากนี้ คงต้องให้เวลากับท่านนายกฯ และผู้บริหาร จัดการปัญหา และเชื่อคนที่เข้ามารักษาการก็ต้องแก้ปัญหาในเรื่องนี้” พล.ต.อ.เอก กล่าว 

ข้อดี ข้อเสีย นายกฯ เลือกเด้ง 2 “บิ๊กตำรวจ” 

ขณะที่ ผู้การแต้ม พล.ต.ต.วิชัย ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า นายกฯ ถือว่าแก้ปัญหาดี เพราะทำให้ “คู่นี้” ไม่แตกแยก เพราะถ้าคุณยังอยู่ในตำแหน่ง ถึงจะรักกัน จูบกัน แต่ในใจยังมีความแตกแยก 

“ความแตกแยกนี่เอง มันทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชา นั้นมีปัญหากัน คดีความต่างๆ จะเดินต่อไม่ได้ ดังนั้น การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้คือ ดี เป็นการสยบปัญหาความแยก และคดีต่างๆ จะได้กลับมาทำได้ เพราะความแตกแยกของ ผบ.ตร. กับ รอง ผบ.ตร. นั้น ต่างคนต่างมีพวก และฝักฝ่าย ทำให้องคาพยพ ของแต่ละฝ่ายจะได้ไม่ทะเลาะกัน แล้วนำคนกลางมาแก้”

หาก “คนกลาง” ปฏิบัติตามกฎหมาย ตำรวจทั้งหมดจะกลับมาสามัคคี เพราะหากจะทำคดีใด จะได้ไม่รู้สึกว่า ทำคดีนี้ ก็สะเทือนเด็กคนนี้ ทำตรงนี้สะเทือนเด็กอีกฝ่าย 

“ข้อเสีย” ของการ “หย่าศึก” พล.ต.ต.วิชัย มองว่า อาจจะเป็นเรื่องที่ “ฝ่ายการเมือง” ถูกตั้งคำถามว่า “แทรกแซง” หรือไม่ เนื่องจาก การทำงาน และคดีความต่างๆ มันมีกลไกในการทำงานรองรับอยู่แล้วเพียงแต่ “พวกคุณ” ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่  

...

ส่วนตัวเชื่อว่า “ข้อเสีย” ตรงนี้ ประชาชน อาจจะรับได้ เนื่องจาก “ภาพลักษณ์” ของตำรวจ ไม่ดีอยู่แล้ว 

ที่ผ่านมา ต่างฝ่ายต่างแฉข้อมูลต่างๆ มีการโยงใยข้อมูลถึงปัญหาคอร์รัปชัน หรือ เว็บพนัน แต่จู่ๆ มาตัดจบ จะยิ่งสร้างความเคลือบแคลง หรือไม่ ผู้การแต้ม ตอบว่า เรื่องนี้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยอยู่แล้ว 

นี่ออกมาขู่...แล้วคนถูกขู่ กลัวใช่ไหม? 

แบบนี้ต่อไปกระบวนการยุติธรรม หากมีปัญหาอะไร ออกมาขู่กันก็จะจบใช่ไหม? 

ภาพมันก็จะไม่ดี เพียงแต่เวลานี้ “ทางเลือกนี้” ถือว่าดีที่สุด ทำให้ความแตกแยกน้อยลง คดีความจะได้เดินหน้าในทิศทางของมัน 

“สิ่งสำคัญคือ รักษาการ ผบ.ตร. ต้องทำงานอย่างจริงจัง ปราบทุจริตให้ได้” 

อนาคต 194 วันกับราชการที่เหลืออยู่ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีโอกาสกลับมาหรือไม่ ผู้การแต้ม บอกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะยังมีโอกาส คิดว่าปลายๆ ก็น่าจะได้ และคิดว่า อาจจะมีปัจจัยหลายอย่างที่จะกลับมา 

...

ส่วนจะเป็นปัจจัยอะไรนั้น ผู้การแต้ม ยังไม่บอก แต่เชื่อว่ามีหลายเรื่อง... 

กมธ.ตร. อยากเห็นเอกภาพตำรวจ กังวล การดำเนินการยุติธรรม 


ขณะที่ นายชัยชนะ ปธ.กมธ.ตร.สภาผู้แทนราษฎร มองคล้ายกับ ผู้การแต้ม ว่า การแก้ปัญหาของนายกฯ ครั้งนี้ ถือว่าทำถูกแล้ว สิ่งสำคัญของเรื่องนี้คือ เรื่อง “ภาพลักษณ์” ในองค์กรตำรวจ เพราะตำรวจ คือ สิ่งที่ประชาชนคาดหวัง พึ่งได้ ถ้าปล่อยให้ 2 ฝ่าย มาแถลงข่าว แฉกันผ่านสื่อ ผลกระทบมากที่สุด คือ องค์กรตำรวจ

“ข้อเสียของเรื่องนี้ คือ ข้อกังวลในเรื่องการดำเนินการยุติธรรม เพราะบางเรื่องมีการ ออกหมายเรียกไปแล้ว ต่อมามีการโอนคดีไปอีกหน่วยงาน จะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งคงต้องมาดูข้อกำหนดทางกฎหมาย” 

ประธาน กมธ.ตำรวจฯ เผยว่า สิ่งที่อยากจะเห็นหลังจากนี้ คือ 1. ความเป็น “เอกภาพ” ของวงการตำรวจ 2. ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย 

“องค์กรตำรวจ คือ องค์การหลัก ต้องเป็นองค์กรหนึ่งที่ตรวจสอบได้ ดังนั้น หากพบเนื้อร้ายในองค์กร ก็ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และองค์กรนั้นๆ ต้องจัดการ...” นายชัยชนะ กล่าว 

...

"บิ๊กต่อ" ผิดอะไร... คำถามถึง นายกฯ 

ด้าน พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีต ผกก.สภ.ลำลูกกา ที่ผลักดันการปฏิรูปตำรวจ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ในมุมมองของตนนั้น อยากจะถามว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผิดอะไร...ในเมื่อที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับปัญหาคอร์รัปชันและเว็บพนัน ไม่ใช่เรื่อง คนทะเลาะกัน หากจะยกความผิด ให้นำเรื่อง "โคตรบ่อนการพนัน" มาสั่งย้ายยังดีเสียกว่า 

แปลว่าการสั่งย้ายนี้หมายถึง "บิ๊กโจ๊ก" ชนะ ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.วิรุตม์ ตอบว่า เป็นอย่างนั้น 

อย่างไรก็ตาม นี่คือ จุดเริ่มต้นของการ “สลาย” ความขัดแย้ง จากปัญหาที่สะสม จนลุกลามบานปลาย จนส่งผลร้ายต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ แต่...ภายใต้ภาพความขัดแย้งนั้น มันก็มีเรื่อง “ใต้พรม” ที่ถูกนำมาพูดถึง ซึ่ง...เรื่องนี้จะจบอย่างไร จะดำเนินคดีกับ “ตำรวจ” เลว ที่ทำผิดกฎหมายเสียเองหรือไม่ และดำเนินคดีไปถึงขั้นไหน เราต้องรอดูกันต่อไป 

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่น่าสนใจ