ภูเก็ตเมืองมาเฟียต่างชาติ ล่าสุดเกิดเหตุสะเทือนขวัญฆ่าหนุ่มรัสเซีย คาฟาร์มกัญชา หลังหายตัวปริศนา จนแฟนสาวต้องค้นหาจากสัญญาณจีพีเอสรถเช่า อดีตนายตำรวจสายปราบปรามให้ความเห็นว่า ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ทำให้ชาวต่างชาติหลบหนีคดีเข้ามาใช้ช่องทางในการกบดาน ประกอบกับมีขบวนการฟอกเงินตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่
13 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเช่ารถ ว่าลูกค้าสาวรัสเซียได้ให้ตนติดตามจีพีเอสของรถที่แฟนหนุ่มเช่าไป พบว่ารถได้จอดอยู่หน้าบ้านแห่งหนึ่ง ที่ล็อกประตูจากด้านใน เมื่อตำรวจมาถึงได้ตัดสินใจพังประตูบ้านเข้าไป บนชั้น 2 ด้านในมีการทำฟาร์มกัญชา พบร่างชาวต่างชาตินอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สภาพศพมีบาดแผลที่บริเวณลำคอ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ทราบต่อมาคือ นาย ARTUR อายุ 42 ปี สัญชาติรัสเซีย บริเวณโดยรอบมีร่องรอยการต่อสู้ มีต้นกัญชาล้มระเนระนาด
ตำรวจพบว่า ผู้ตายเข้ามาไทย ตั้งแต่ 28 ม.ค. 67 ถือวีซ่ากลุ่มได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเป็นกรณีพิเศษ 90 วัน จะครบกำหนดวันที่ 26 เม.ย. 67 พำนักอยู่ที่ จ.ภูเก็ต โดยบ้านที่เกิดเหตุมีหญิงชาวไทยเป็นคนเช่าให้กับแฟนหนุ่มต่างชาติ เพื่อทำบริษัทท่องเที่ยว แต่ยังติดเงื่อนไขการจดทะเบียน เลยหันมาทำปลูกกัญชาแทน บ้านดังกล่าวมีชาวต่างชาติแวะเวียนมาเพื่อซื้อและเสพกัญชา
...
ต่อมาตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายเป็นชายชาวทาจิกิสถาน ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไทยไปยังตุรกี ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 67 เวลา 21.38 น. สาเหตุการฆาตกรรมยังอยู่ในขั้นสอบสวนว่าทั้งคู่มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจกัญชาหรือไม่
ภูเก็ต สวรรค์มาเฟียข้ามชาติ แหล่งฟอกเงินสีเทา
ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม กรณีมาเฟียชาวต่างชาติถึงสาเหตุที่ไทยกลายเป็นแหล่งกบดาน และเกิดเหตุฆาตกรรมกันเองขึ้นหลายครั้งว่า กลุ่มมาเฟียต่างชาติมีการเข้ามาในไทยยาวนาน มีการซื้อที่ดินผ่านคนไทยที่เป็นนอมินีในพื้นที่ภูเก็ต โดยนิยมซื้อในพื้นที่ อ.ป่าตอง อ.ถลาง ซึ่งใช้บ้านพักหรูรองรับคนรัสเซียที่หนีอากาศหนาวมาไทย
“คนรัสเซียจะแผ่อิทธิพลเข้ามาในภูเก็ตและพัทยา ก่อนสร้างอิทธิพล จนเป็นผู้กว้างขวาง โดยพื้นที่ภูเก็ตจะเป็นกลุ่มมาเฟียที่มีกำลังทรัพย์ เช่น คนที่ต้องคดีฉ้อโกงเงินในจำนวนมาก จะเดินทางเข้ามาหลบหนีมาก ส่วนพัทยา เป็นกลุ่มมาเฟียในระดับล่าง ที่อาจก่อคดีอาชญากรรมในประเทศ และหลบหนีเข้ามาในไทย”
อาชญากรที่หลบหนีเข้ามากบดานในภูเก็ต จะต่างจากที่อื่น เพราะในพื้นที่มีเกาะห่างไกลจากการเฝ้าติดตามของตำรวจ และยังมีบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐ หรือตำรวจสากลที่เข้ามาติดตามตัวคนร้ายเข้าไม่ถึง ต่างจากพัทยา ที่ตำรวจไทยติดตามง่ายกว่า เพราะมีการอยู่เป็นชุมชน ขณะที่ต่างชาติบางส่วนก็เป็นสายคอยรายงานความผิดปกติที่เข้าในพื้นที่
ชาวต่างชาติบางส่วนใช้พื้นที่ของไทยเป็นแหล่งฟอกเงินในการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของประเทศต้นทาง ประกอบกับพื้นที่ของไทยเป็นแหล่งใหญ่ที่มีการทำลักษณะนี้มานาน โดยเฉพาะประเทศในสหภาพรัสเซียเดิม ที่มีการแยกประเทศ จะเข้ามากบดานในพื้นที่ภูเก็ตจำนวนมาก
ช่วงหลังชาวต่างชาติที่เข้ามาก่อเหตุฆาตกรรมคนในชาติเดียวกัน มีการวางแผน เมื่อก่อเหตุเสร็จ จะหนีไปยังประเทศที่สาม สิ่งเหล่านี้เป็นช่องว่างที่ตำรวจไทยต้องมีการป้องกัน ด้วยการหาข่าวลับของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจสีเทา และควรเน้นการป้องกันมากกว่ารอให้เกิดเหตุแล้วตามจับคนร้าย.