ข้อสังเกต คดีอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน กับการวิเคราะห์คดี ช่างกิต อุ้มฆ่า สามีน้องพร โดยมีแรงกระตุ้นแห่งตัณหา และคำลวง...พยานหลักฐานยังสาวไปไม่ถึง “พร” แต่...มีคำพูดบางคำพูดจริง บางคำไม่จริง หากไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ก็จะเป็นผลร้ายกับเขาเองพล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้สัมภาษณ์ในรายการ “โหนกระแส” เมื่อวันที่ 6 ก.พ. พร้อมกับอธิบายว่าเหตุใด "ช่างกิต" ถึงรู้เวลาไปทำงานของนายใหม่มีการตั้งวอร์รูม เพื่อไขคำตอบเรื่องนี้ จากการสอบปากคำนายกิต อนุมานได้ว่า น้องพร โกหก นายกิต ว่าอยู่กับคุณพ่อ...แต่นายกิตสงสัย และรู้แล้วว่า “นายใหม่” เป็นใคร และรู้ความจริงแล้ว ทำให้รู้รายละเอียดของใหม่พอสมควรดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า นายกิต อาจจะรู้ความเคลื่อนไหวของ นายใหม่ จากการคาดเดาจากคำพูดของพร ที่บอกว่าอยู่กับคุณพ่อ จะออกไปทำงานช่วงนี้พรอาจจะบอกเพื่อ “พราง” ช่างกิต แต่กิตคาดเดา และรู้ได้ว่าหมายถึงใคร...ที่ออกไปทำงานในเวลานี้ จึงตามมาก่อเหตุ.. “กิต” รัก “น้องพร” มาก? คำลวง ข้อสังเกตคดีอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงานยังมีหลายประเด็นที่ชวนสงสัย สำหรับคดีฆาตกรรมหนุ่มโรงงาน นายธนาสันต์ หรือ ใหม่ อายุ 33 ปี เหยื่อโหดของ “ช่างกิต” หรือ นายกิตติโชติ อายุ 37 ปี ชายที่เป็น “ชู้รัก” ของ “น้องพร” ภรรยานายใหม่ ที่สะกดรอยตามจากบ้าน ช่วงเวลา 22.06 น. และตามไปอุ้มฆ่านายใหม่ แล้วนำศพไปทิ้งอำพรางบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม เมื่อยิ่งขุดก็ยิ่งพบตัวละครอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกตัวละครนั้นถูกเชื่อมโยงไปถึง “น้องพร” หญิงสาวที่พัวพันกับผู้ชายหลายคน โดยมีข้อมูลเปิดเผยออกมาแล้วถึง 4 คน?ข้อสังเกต และการเชื่อมโยงพยานหลักฐานสิ่งที่ต้องพิสูจน์ ก่อนโยงความผิดใคร...พยานบุคคล : มีใครเห็นเหตุการณ์ หรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด พยานบอกเล่า : มีคนบอกเล่ามาว่า เห็นคนคนนี้ร่วมกระทำความผิดกับคนร้าย หรือไม่ พยานแวดล้อม : พยานที่รู้เห็นก่อน และหลังการเกิดเหตุ แม้ว่าจะไม่รู้ข้อเท็จจริงโดยตรง แต่พออนุมานได้ว่ามีความเชื่อมต่อกันด้วยเหตุและผล หรือเป็นเรื่องที่คนทั่วไปรู้ด้วย “สามัญสำนึก” ว่าเขามีวัตถุประสงค์ หรือเป็นเหตุเป็นผลนิติวิทยาศาสตร์ : ข้อที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร รอยเลือด ลายนิ้วมือ DNA บนเสื้อผ้า อาวุธที่ใช้กระทำความผิด หรือพยานวัตถุต่างๆ ที่ตรวจสอบพบในที่พักของผู้ถูกกล่าวหาสิ่งที่พูดต้องพิสูจน์ได้!การจะโยงความผิดใคร เราจำเป็นต้องพิสูจน์ หรือมีพยานหลักฐานพอเชื่อได้ว่า “เขา” มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด หรือไม่พล.ต.ท.พิศาล มุขแจ้ง อดีตหัวหน้าอาจารย์วิชาอาชญาวิทยา โรงเรียนนายร้อยสามพราน ระบุว่า พยานหลักฐานต่างๆ จะถูกเชื่อมโยงกันหมดว่าเกี่ยวข้องกับเธอหรือไม่ เช่น มีการจัดหาอาวุธหรือไม่ หรือมีส่วนในการ “ชี้เป้า” หรือไม่ เช่นการบอกวันเวลา เส้นทางการเดินทาง ของสามีหรือไม่สิ่งที่พูด หรือการให้สัมภาษณ์ หาก “พิสูจน์ได้” ว่ามีผล หรือเป็นหลักฐานการมีส่วนร่วม จะถูกใช้ในคดีทั้งหมดสิ่งที่สำคัญอีกส่วน คือ “กล้องวงจรปิด” เช่น เห็นร่วมวางแผนกัน หรือไม่“การที่ผู้หญิงคนหนึ่ง มีความสัมพันธ์กับชายหลายคนในเวลาเดียวกัน ถือว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ส่วนการจะใช้ “ผู้ชาย” เป็นเครื่องมือ ต้องหาหลักฐานเชื่อมโยงให้ได้”“อาชญากรรมแห่งตัณหา” สิ่งที่น่าตั้งข้อสังเกตของคดี คือ การมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับ “ผู้ก่อเหตุ” และมีอย่างเดียวที่บกพร่อง คือ เรื่อง “ศีลธรรม” แต่ยังไม่ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาชญากรรมที่เกิดประเภทนี้มาจาก "อารมณ์" และ "ความรุนแรง" หรือ เรียกอีกอย่าง “อาชญากรรมแห่งตัณหา” โดยมีการเผยแพร่ และมีการกล่าวขานตั้งแต่ศตวรรษที่ 19รักมาก...ไม่สนแม้เขาจะมีลูกหรือสามีความสัมพันธ์ทางเพศ เป็นประเด็นที่สำคัญมาก และเป็นมูลเหตุสำคัญที่นำไปสู่ปัญหา หากถูกกระตุ้น หรือยั่วยุ และคนคนนั้น ขาดจิตสำนึก มโนธรรม ที่เข้มแข็ง จะทำให้ความต้องการ “ใฝ่ต่ำ” มาควบคุมพฤติกรรมได้“ความสัมพันธ์ทางเพศ” เป็นเรื่องที่ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง หากฝ่ายหญิงไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงควรถูกตำหนิหากเขารู้ว่าผู้ชายคนนี้มีความลุ่มหลง เขาก็สามารถใช้ผู้ชายคนนี้ทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่ชายคนนี้ยังรัก ลุ่มหลง มีความต้องการทางเพศในอดีตเคยมีคดีหนึ่งที่โด่งดังมาก เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาดี แต่กลับมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้ผู้ชายลุ่มหลง และภายหลังกลายเป็นคดีโศกนาฏกรรมสะเทือนสังคม... ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน