สิ้นดาบวิชัย ฉายา “คนบ้าปลูกต้นไม้” เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 โดยเพจเฟซบุ๊ก "ปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ" โพสต์ข้อความไว้อาลัย ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ หรือดาบวิชัย ระบุว่า "ขอไว้อาลัยแด่พ่อดาบวิชัย “คนบ้าปลูกต้นไม้” ที่พวกเรารู้จักกันดี ตลอดชีวิตได้ปลูกต้นไม้มากกว่า 3 ล้านต้น และเป็นแรงบันดาลใจให้ “คนบ้าปลูกต้นไม้” รุ่นต่อๆ มา แม้จนวินาทีสุดท้าย…"กฤษฎาวัลย์ หรือพี่อ้อ ลูกสาวของดาบวิชัย ระบุว่า พ่อให้บอกทุกคนว่า "อย่าเซ่า ชีวิตมีอิหยังให้เฮ็ดอีกหลาย" ถือเป็นข้อความที่บันทึกฝากไว้ในช่วงท้ายของชีวิต ก่อนจากไปอย่างสงบ เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. 2566 ในวัย 77 ปี

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 84/33 ม.1 ต.พิมาย อำเภอปรางกู่ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านของคุณลุง วิชัย สุริยุทธ หรือ "ดาบวิชัย" โดยพบกับ นายเกียรติพงษ์ สุริยุทธ อายุ 53 ปี ลูกชายของ ดาบวิชัย ซึ่งได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พ่อของตนมีอาการป่วยมาหลายปีแล้ว ป่วยเป็นหลายโรค ทั้งโรค เบาหวาน, ความดัน, โรคหัวใจ และโรคไต พ่อของตนจะเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่หลายปี จนเมื่อช่วงเดือน พ.ค. 66 พ่อได้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ยาวจนถึงวันที่ 25 พ.ย. 66 ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. พ่อได้สิ้นลมจากไปด้วยอาการอันสงบ

...


นายเกียรติพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ก่อนพ่อเสียชีวิตช่วงระหว่างเดินทางจากโรงพยาบาล กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน คุณพ่อให้นำเมล็ดพันธุ์ไม้ต่างๆ รวมถึงลูกตาล ติดตัวมาด้วย เพื่อระหว่างทางได้นำเมล็ดนั้นไปปลูกตามเส้นทางกลับบ้าน และช่องว่างระหว่างต้นตาลที่อยู่ริมถนน ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต เคยมานั่งกับลูกๆ แล้วพูดคุยกันว่า “ถ้าพ่อเสียชีวิต ให้จัดงานศพ 7 วัน” ซึ่งพอพ่อเสียชีวิตลง ทุกคนจึงมีความเห็นตรงกันให้จัดงานศพคุณพ่อ 7 วัน แต่ถ้าครบ 7 วัน แล้วตรงกับวัน หรือ ฤกษ์ ที่ไม่ดีอาจมีการขยายเวลาเพิ่มได้ ส่วนวัดที่จะใช้ในพิธีฌาปนกิจคุณพ่อคือวัดศรีปรางค์กู่ ที่เป็นวัดประจำอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ

หลังพ่อเสียชีวิตไป เรายังสืบทอดสิ่งต่างๆ ที่พ่อทำไว้ ทั้งเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการปลูกต้นไม้ ตามเจตนารมณ์ของพ่อต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ทำมาตลอดพร้อมกับคุณพ่อ ล่าสุดได้ชวนแม่ค้าที่ขายลูกตาล หรือทำอาชีพเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากตาล มาร่วมกันนำเมล็ดตาลไปปลูก หรือซ่อมแซมทดแทนส่วนที่โดนตัดหรือตายไป

ทั้งนี้ ดาบวิชัย ถูกยกให้เป็นคนปลูกต้นไม้แห่งบ้านปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ทุ่มเทแรงใจและความปรารถนาดีให้กับสังคม ไม่เรียกร้องผลตอบแทนใดๆ ตั้งแต่ปี 2531 ชาวบ้าน อ.ปรางค์กู่ ต่างเคยชินกับภาพชายที่ถือถุงปุ๋ย จอบ หรือเสียม ก้มลงขุดดินปลูกต้นไม้ทั้งต้นยาง ต้นมะค่าแต้ ต้นขี้เหล็ก สะเดา พุทรา คูณ ต้นถ้อน ริมถนนสายหลัก ริมสระขุดใหม่ ที่หัวไร่ปลายนาของชาวบ้าน ผ่านมาแล้วหลายปีเขาปลูกต้นไม้นับล้านต้น ต่อมาได้ส่งเสริมการทำไร่นาสวนผสมให้กับชาวบ้าน

โดยมีพรรณพืชที่หลากหลาย ตั้งแต่พืชล้มลุก พืชสวนครัว ไปจนถึงไม้ยืนต้นที่ใช้ประโยชน์ และชาวบ้านหันมาทำการเกษตรแนวทางนี้เพิ่มขึ้น เช่น ต.สำโรงปราสาท และ ต.ตูม นอกจากนี้ ดาบวิชัย ยังทำหน้าที่อบรมเยาวชน ในฐานะวิทยากรของหน่วยงานต่างๆ นำแนวทางพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ ทั้งเรื่องการปลูกต้นไม้ รักษาสภาพแวดล้อมให้ชุมชน และรณรงค์เรื่องโทษของยาเสพติด โดยถือเป็นบุคคลที่ทำเพื่อสิ่งแวดล้อม และสังคมอย่างแท้จริง จนได้รางวัลนักปลูกโลกดีงาม ประจำปี 2560 ทำบุญสร้างป่า ปลูกโลกดีงาม.