คนไทยตั้งใจจะไปเที่ยวเกาหลี ต้องมาเจอตม.เกาหลีตรวจเข้ม กักตัว และส่งกลับประเทศ กลายเป็นดราม่าเดือดอีกแล้ว จนแฮชแท็ก#แบนเที่ยวเกาหลี ขึ้นเทรนด์ X เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมายกับการทำหน้าที่ของตม.เกาหลีอย่างเอาจริงเอาจังมากเกินไป อาจเป็นเพราะผีน้อยคนไทยซื้อทัวร์บังหน้าลักลอบทำงานในเกาหลี ทำให้หลายคนตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ ถูกเหมารวมโดนเพ่งเล็งไปด้วย

กลายเป็นว่าการเข้าประเทศเกาหลียิ่งยากหนักกว่าแต่ก่อนมากๆ เพราะการใช้ดุลพินิจแปลกๆ ของตม.เกาหลี เหมือนว่าไม่ง้อคนไทยจากความเห็นของบางคนและหลายคนเห็นด้วย รู้สึกถูกเลือกปฏิบัติ นำไปสู่ดราม่าแบนเที่ยวเกาหลี เชิญชวนคนไทยรวมตัวไม่ให้ไปเที่ยว และลามหนักถึงขั้นรณรงค์หาผีน้อยเกาหลีในไทย ส่งกลับประเทศให้หมด ยังรวมถึงร้านอาหารกิจการของคนเกาหลีในไทยที่ทำผิดกฎหมายอีกด้วย

ผีน้อยลักลอบทำงานเกาหลี กระทบนักท่องเที่ยวตัวจริง

คนไทยถูกกักตัว โดนตม.เกาหลีส่งกลับประเทศ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น “เจริญ วังอนานนท์” นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ซึ่งดูแลทัวร์เอาต์บาวนด์ หรือตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศ ก็ไม่ปฏิเสธในเรื่องนี้ เพราะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนการระบาดของโควิด และหลังโควิดยิ่งเข้าประเทศเกาหลีได้ยากขึ้น มีการคัดกรองพอสมควร จนกระทบนักท่องเที่ยวชาวไทย อาจถูกเหมารวมถูกสุ่มตรวจไปด้วย จากประสบการณ์ของตม.เกาหลีในการมองคน และขึ้นอยู่กับคนไทยไปเป็นโรบินฮู้ดในประเทศเขามากเกินไป

...

“จริงๆ แล้วตัวเลขคนไทยไปเที่ยวเกาหลีในขณะนี้ลดลงเยอะ ถ้าเทียบกับช่วงก่อนโควิดระบาด จากการคัดกรองเข้มข้นของตม.เกาหลี ไม่ได้เป็นโซลูชันอย่างนั้น ประกอบกับเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนไทยอยากไปทำงานที่เกาหลี พอมีนักท่องเที่ยวน้อยลงก็เลยมีเวลาคัดกรองมาก จนดูเหมือนว่ามีคนไทยถูกกักตัว ส่งกลับประเทศมากขึ้น มีทั้งเดินทางไปเที่ยวเองผ่านบริษัทนำเที่ยว และไปทำงาน”

แต่เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาถูกส่งตัวกลับประเทศจะต้องดีแคลร์ตัวเองให้เรียบร้อย มีหลักฐานการทำงานก็น่าจะผ่าน ส่วนการแต่งตัวของบางคนในการเข้าประเทศเกาหลีอาจมีบ้างเพื่อชุบตัวเองให้ดูดี ในการไปเช่าทองมาใส่ แต่ตม.เกาหลี ก็พอมองออก ขณะเดียวกันการคัดกรองของตม.เกาหลีก็มีผิดพลาดบ้าง จนกระทบนักท่องเที่ยวไทยอาจโดนสุ่มตรวจ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากหลักฐานการทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง เพราะบางคนตั้งใจไปเที่ยวก็น่าเห็นใจ กลายเป็น 2 ปัญหาที่แยกไม่ออกระหว่างคนไปเที่ยวจริงๆ กับบางคนสวมรอยไปเที่ยวก็มี

คนไทยอารมณ์ชั่ววูบแบนเที่ยวเกาหลี เจอตรวจเข้ม

ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องช่วยกันทุกฝ่าย จะโทษตม.เกาหลีทั้งหมดไม่ได้ แต่อาจมีผิดพลาดบ้างในการคัดกรอง จนเกิดกระแสแบนเที่ยวเกาหลี อาจเป็นอารมณ์ชั่ววูบของคนไทย และเรื่องนี้เป็นกระแสเป็นช่วงๆ ก็มีการกระทบกระทั่งกันมาตลอดตั้งแต่ก่อนโควิด ซึ่งช่วงนั้นคนไทยไปเกาหลีกันมาก แต่หลังโควิดคนไปเกาหลีน้อยลง จนดูเหมือนว่ามีปัญหามาก ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ และที่ผ่านมาทางสมาคมมีการประสานองค์การท่องเที่ยวของเกาหลี ขอยกเลิกการคัดกรองอย่างเข้มข้น แต่ทางนั้นก็กลัวคนไทยลักลอบไปทำงาน

“ตอนนี้คนไทยตกงานกันมาก ก็ขึ้นอยู่ว่าคนของเราไม่ไปสร้างปัญหา ในส่วนบริษัททัวร์ก็ตรวจสอบคนมาซื้อตั๋วท่องเที่ยวได้เพียงส่วนหนึ่ง บางบริษัทก็ไม่ค่อยดู ก็รับลูกทัวร์แบบสุ่มสี่สุ่มห้า จนกระทบกันไปหมด และบริษัททัวร์บางทีก็มีคนแฝงตัวลักลอบไปทำงานในเกาหลีได้ง่าย จนบอกปากต่อปากต้องมาซื้อทัวร์บริษัทนี้ หรือบางทีไม่อยากตรวจสอบมากเกินไป เกรงว่าจะลิดรอน แต่จริงๆ แล้วบริษัททัวร์ทั้งใหญ่และเล็ก ก็อยากได้กรุ๊ปทัวร์ดีๆ เพราะไม่อยากเสี่ยงให้เสียชื่อเสียง”

...

ส่วนประเทศที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวยังคงเป็นญี่ปุ่นอันดับ 1 รองลงมาเวียดนาม แต่ตัวเลขภาพรวมการท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทยยังค่อนข้างทรงๆ ไม่ดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี และภัยสงครามจะต้อง wait and see ดูกันไปก่อน ประกอบกับค่าใช้จ่ายแพงขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอ่อน ทำให้เงินดอลลาร์และยูโรแข็งค่า จนต้องรอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจท่องเที่ยว ขณะที่เวียดนาม ไม่แพงมาก ราคายังสามารถจับต้องได้อยู่ ทำให้บริษัททัวร์ต้องปรับตัวหลังผ่านช่วงโควิด มีการหาโซลูชันใหม่ในการอบรมเรื่องเทคโนโลยี และพยายามจัดกิจกรรมเชิญชวนต่างประเทศให้มาท่องเที่ยวไทย.