สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งบังคับใช้การดำเนินการตาม พ.ร.บ.การปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ให้เกิดการลงโทษที่เหมาะสม โดยโทษไม่ร้ายแรง ขอลดค่าปรับได้ตามฐานะ ไม่มีการเข้าคุกแทนค่าปรับ ขอผ่อนชำระค่าปรับได้ ทำงานเพื่อสังคมแทนค่าปรับได้ ไม่ติดประวัติการกระทำผิด แต่การบังคับใช้ อดีต ตร. มองว่า มีช่องให้คนกระทำผิดจราจร โดยเฉพาะขับรถซิ่ง ใช้ช่องทางนี้หลบเลี่ยงการลงโทษ และตำรวจทำงานยากขึ้น
ตามประกาศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้การดำเนินการตามนัยกฎหมายว่า ด้วยการปรับเป็นพินัย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รอบคอบ และสอดคล้องกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ให้ถือปฏิบัติตามคำสั่ง ตร. เรื่อง แนวทางการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565
กำหนดให้ความผิดทางพินัยมีการชำระค่าปรับเป็นพินัย ตามจำนวนเงินที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือศาล กำหนดเท่านั้น ไม่มีการจำคุกหรือกักขังแทนค่าปรับ ไม่มีการบันทึกลงในประวัติอาชญากรรม ไม่มีสภาพบังคับเป็นโทษอาญา และลดทอนโทษอาญาที่ไม่จำเป็น รวมทั้งปรับปรุงระบบโทษปรับให้มีประสิทธิภาพ
...
จากมาตรการที่ปรับเปลี่ยน พันตำรวจเอก รัฐศักดิ์ รักสลาม อดีตรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ให้ความเห็นกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การปรับเปลี่ยนดังกล่าวหลายคนเห็นด้วย แต่อาจมีปัญหาในการปฏิบัติงานของตำรวจชั้นผู้น้อย เสี่ยงมีคนฝ่าฝืนกฎจราจรมากขึ้น เนื่องจากในทางปฏิบัติพินัย ไม่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือฟ้องศาล แต่ให้มีการทำโทษโดยการไปเป็นจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ หากไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ไม่มีการจำคุก
“ผลดีของการบังคับใช้แบบปรับพินัย เป็นการลดข้อขัดแย้งของตำรวจกับประชาชน บางกรณีโดนปรับมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ในอีกมุมอาจทำให้ประชาชนที่ไม่เคารพกฎจราจรมีการทำความผิดมากขึ้น โดยอ้างว่าไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ไม่สามารถจำคุกได้ ขณะเดียวกันผู้บังคับบัญชาระดับสูง พยายามแก้ไขกฎ ที่ประชาชนเรียกร้องว่าตำรวจมีการออกค่าปรับเกินจริง จากสิ่งที่กระทำผิด”
คดีน่าห่วงในการเปลี่ยนเป็นการปรับพินัย คือ การขับรถประมาทและรถซิ่ง โดยคนขับจะไม่มีความเกรงกลัว แม้มีประมวลกฎหมายอาญา เรื่องขับรถประมาทเป็นเหตุให้บาดเจ็บ เสียชีวิต แต่การปรามพวกนี้ไว้ก่อน ดีกว่าให้ไปก่อเหตุร้ายแรง ขณะเดียวกัน กรณีไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่รถซิ่งไปขับชนเสาไฟฟ้า จนไฟดับทั้งหมู่บ้าน การไปลงโทษทางพินัย อาจไม่เพียงพอ
สิ่งที่ตามมาจะทำให้ตำรวจบังคับใช้กฎหมายยากขึ้น เพราะคนขับรถซิ่งไม่กลัวความผิด เห็นได้จากการออกกฎไม่ยึดใบขับขี่ ทำให้คนไม่มาจ่ายค่าปรับมากขึ้น การแก้ไขลงโทษทางพินัย ต้องดูว่าหลังการบังคับใช้มีการทำความผิดมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
“ส่วนหนึ่งการปรับเปลี่ยนมาจากแนวคิดการทำงานของตำรวจด้วย เพราะตำรวจบางนายยังทำงานแบบโบราณ คือความผิดบางอย่างว่ากล่าวตักเตือนได้ ไม่ทำ แต่ให้จ่ายค่าปรับ ซึ่งการที่ผู้บังคับบัญชาเปลี่ยนกฎ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ด้านค่าใช้จ่ายเสียค่าปรับด้วย”
สำหรับการปฏิบัติงานของตำรวจ แม้มีการปรับเปลี่ยนการลงโทษแบบพินัย แต่ปกติของคนที่ขับรถซิ่ง มีพฤติกรรมบางอย่างแสดงออกในระหว่างขับ หากตำรวจต้องการเอาผิด เพื่อให้ผู้กระทำผิดมีความเกรงกลัว ควรมีการไล่กล้องวงจรปิด เส้นทางในการขับรถ เพื่อบังคับใช้กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อยถ้ามีการคุมขัง ผู้กระทำผิดจะได้รับความลำบาก จะเริ่มมีความสำนึกมากขึ้นก่อนกระทำผิด รวมถึงกระตือรือร้นในการชดใช้ค่ารักษาทดแทนแก่ผู้บาดเจ็บมากขึ้น
...
ฝากเตือนผู้ที่กระทำความผิดว่า แม้มีการลงโทษเบาขึ้น แต่ตำรวจถ้ามีการเอาใจใส่ในการทำคดี สามารถไล่ดูพฤติกรรมการกระทำความผิด จนสามารถส่งศาลและทำการฝากขังได้ ดังนั้นการทำตามกฎจราจร ถือเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น.