กษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ วิเคราะห์ฉากหลังสงคราม ฮามาส รู้แต่แรกไม่มีทางชนะ แต่ยังบุกอิสราเอล ชี้ หนทางออก โลกต้องช่วยกันให้จบบนโต๊ะเจรจา... 

ต่อสู้มาเป็นวันที่ 4 แล้ว สำหรับ สงครามระหว่าง กลุ่มฮามาส ของ ชาวปาเลสไตน์ และอิสราเอล โดยใช้ยุทธการกองโจร บุกอย่างรวดเร็ว และจับตัวประกัน ซึ่งมีทั้งชาวอิสราเอล และแรงงานนานาชาติที่เข้าไปทำงานใน ฉนวนกาซา รวมถึงคนไทยด้วย โดยมีรายงานเบื้องต้นจากทางการอิสราเอลว่า มีคนไทยเสียชีวิต 12 ศพ ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย (ข้อมูล : 9 ต.ค.) 

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ต่อสายพูดคุยกับ นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ มองประเด็นความขัดแย้งใน ฉนวนกาซา ระหว่างอิสราเอล และ ปาเลสไตน์ว่า ก่อนอื่นต้องย้อนกลับไป 3-4 ปีก่อน ว่า ภายใต้รัฐบาล นายเบนจามิน เนทันยาฮู นั้น ดำเนินนโยบายไป “ทางขวา” จากนั้นก็ขยายถิ่นฐานเข้าไป เวสต์แบงก์ และใช้ความรุนแรงกับชาวปาเลสไตน์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฮามาส หรือ กลุ่มอื่นๆ ก็ตาม 

“เมื่อเป็นแบบนี้ จึงทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจที่มาที่ไปก่อนว่า เป็นอย่างไร...”

...

นายกษิต กล่าวต่อว่า เมื่อกลับมาดูกลุ่มฮามาส ก็เลือกที่จะใช้กำลังตอบโต้ เช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่า อิสราเอล นั้น มีพละกำลังด้านอาวุธที่มากมายและรุนแรงกว่า ซึ่งเรื่องนี้ฮามาส ก็รู้ แต่เลือกที่จะตอบโต้ กระทั่งใช้มาตรการรุนแรงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา 

“เมื่อเกิดเหตุการตอบโต้ ทางอิสราเอล ก็ต้องทำลายกลับให้ได้ กลายเป็นสงครามรุนแรง โดยมีสหรัฐฯ ให้ท้าย”  

นี่คือ สิ่งที่ นายกษิต สรุป จากเหตุสงครามระหว่าง ฮามาส และ อิสราเอล...

ทำไมต้องเริ่มสงครามไร้ทางชนะ และ เลือกจับตัวประกัน?

เมื่อถามว่า กลุ่มฮามาส ย่อมรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางชนะ ทำไมถึงก่อสงคราม นายกษิต มองว่า กลุ่มฮามาส นั้นแย่อยู่แล้ว ไม่มีทางออก ไม่มีที่ไป หรือ ไม่มีอะไรจะเสีย แม้จะถูกตัดน้ำ ตัดไฟ ก็ตาม แต่ก็ต้องการตอบโต้ หรือ ต้องการให้ชาวมุสลิมทั่วโลกสนับสนุน   

และเหตุใดต้องจับตัวประกัน รวมไปถึงคนที่ทำงานในอิสราเอล? กับประเด็นนี้ นายกษิต วิเคราะห์ว่า กลุ่มฮามาส “อาจจะ” ส่งสารบอกโลกว่า ไม่อยากให้คนต่างชาติเข้ามาทำงานในอิสราเอล ดังนั้น เราก็ต้องร่วมกับประชาคมโลก เพื่อร่วมพูดคุยกับทางอิหร่าน ซาอุฯ ให้ไปพูดคุยกับทาง “ฮามาส” ว่าให้ปล่อยตัวประกันชาวต่างชาติเสียก่อน และเพื่อให้ทางอิสราเอล ยอมกลับไปสู่โต๊ะเจรจา 

“แรงงานต่างชาติ รวมถึงมีคนไทยกว่า 20,000 คน อยู่ในภาวะเสี่ยง เพราะสงครามเวลารบกันเขาไม่เลือก ว่าใครเป็นใคร ขณะที่รัฐบาลไทยต้องหาทางช่วยคนไทยกลับมา” 

ทางออกสงคราม จะจบลงที่โต๊ะเจรจา 

จากปัจจัยสาเหตุ สู่หนทางยุติการสู้รบ นายกษิต กล่าวว่า สงครามครั้งนี้จะยืดยาวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทางอิสราเอล ต้องการรบยืดเยื้อเพื่อตอบโต้กลับ หรือไม่ เพราะสุดท้ายแล้ว ทางอิสราเอล ก็จะเป็นผู้ชนะอยู่ดี เนื่องจากใน “ฉนวนกาซา” ด้านหลังก็ชนกับทะเล ผู้คนก็มีราว 3 ล้านคน พื้นที่ก็มีอยู่ไม่มาก เมื่อทำสงครามไปแล้ว เกิดการสูญเสียไปแล้ว จะจบอย่างไร? 

“ทางออก คือ ต้องกลับไปที่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เหล่าพี่เบิ้ม ทั้งหลาย อาทิ สหรัฐฯ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส ต้องร่วมพูดคุยหาทางออก รวมถึงกลุ่มสมาชิกที่ไม่ถาวร และ โลกอาหรับ มุสลิม ต้องช่วยไกล่เกลี่ย ซึ่งทาง อิยิปต์ และจอร์แดน ก็อยากจะเข้ามาร่วมด้วย... 

โลกต้องช่วยกัน บอกว่า พอแล้ว และต้องกลับไปคุย Two-state solution (การหารือแนวทางผลักดันให้อิสราเอลและปาเลสไตน์ยึดมั่นในทางแก้ 2 รัฐ) ที่คาดว่ามีมาตั้งสมัย “คลินตัน” ซึ่งเรื่องนี้ทำมานาน แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้นเสียที โดยหาจุดที่เจรจาไม่เจอ โดยต้องเริ่มต้นใหม่ว่า ปาเลสไตน์ ก็คือ 1 ประเทศ อิสราเอล ก็คือ 1 ประเทศ แต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือ การควบคุมของอิสราเอล โลกต้องช่วยกันบอกว่า ให้เลิกสู้รบเพื่อไปเจรจาในการจัดตั้งทั้ง 2 ประเทศ”

...

นายกษิต ทิ้งท้ายว่า ส่วนท่าทีของฝ่ายไทย ก็ควรจะสนับสนุน เรื่องการกลับไปสู่โต๊ะเจรจา Two-state solutio ส่วนทางการไทยจะทำอย่างไรนั้น ก็คงรอแถลงที่ชัดเจน...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่น่าสนใจ