“ถ้าเป็นผม...ไม่รับมอบตัว” ผู้การแต้ม แนะจัดการเด็ดขาด สู้ก็วิสามัญ ตั้งข้อสังเกต ไปหาทำไม ต้องขุดให้ถึงแบ็ก มีบ้านใหญ่เลี้ยงมือปืน หรือไม่ 

“ถ้าเป็นผม...ไม่รับมอบตัว” 

นี่คือความเห็น ของ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตตำรวจมือปราบ เจ้าของฉายา “มือปราบหูดำ” กับคดีโคตรอุกอาจ “หน่อง ท่าผา” คนร้ายที่ก่อเหตุ ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บสาหัส สาเหตุไม่พอใจที่พยายามวิ่งเต้นตำรวจคนสนิทแต่อีกฝ่ายปฏิเสธ  

ผู้การแต้ม กล่าวว่า  การยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต ถือเป็นการกระทำ อุกอาจมาก สิ่งที่ต้องทำ คือ การใช้ทุกมาตรการในการไล่ล่า หากสู้...ต้องตาย นอกจากนี้ ต้องดำเนินการสอบสวนขยายผลถึงตัวกำนันคนนั้นด้วย ว่าวันเกิดเหตุเกี่ยวข้องหรือไม่ ใช่เป็นคนสั่ง หรือ เกี่ยวข้องกับการสั่ง หรือไม่ หากมีการสั่งการก็ต้องโดนด้วย เพราะถือว่าต้องรับโทษ 

...

ต้องตรวจสอบพฤติการของกำนันรายนี้ทุกด้าน ว่าดำเนินธุรกิจเป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา หรือ ดำหรือไม่ ที่สำคัญ ต้องขยายผลขึ้นไปด้วยว่า กำนัน รายนี้มี “ลูกพี่” หรือไม่ เป็นใคร นักการเมืองระดับชาติ ท้องถิ่น มีใครเป็นแบ็ก คุ้มกะลาหัวหรือไม่ 

“สิ่งที่ต้องทำ คือ การปูพรมตรวจสอบทุกอย่างของคดี เพราะถือว่าเป็นการ “เย้ยกฎหมาย”

 

เรื่องคาใจ...ทำไมตำรวจต้องไปพบร่วมโต๊ะอาหาร 

สำหรับสิ่งที่ พล.ต.ต.วิชัย ตั้งข้อสังเกต คือ เหตุใดต้องนัดกันไปกินข้าว และไปกินกับเขาทำไม มีเหตุผล หรือ อิทธิพลใดที่ต้องเรียกไปกินข้าว หรือ สั่งการ หากอยากติดต่อก็ต้องไปหาเจ้าหน้าที่ในที่ทำการ 

ฉะนั้น การที่ไปพบ อาจจะเพราะ “มีความคุ้นเคย” กันหรือไม่ ไปเพราะอะไร... ซึ่งหากมองในมุมตำรวจ หากไปตามหน้าที่ก็ได้ แต่...ในฐานะตำรวจมันย่อมรู้อยู่แล้วว่าคนที่ไปพบเป็นอย่างไร มีความหมิ่นเหม่ต่อเรื่องเกี่ยวกับการสร้างอิทธิพลหรือไม่ ฉะนั้น คำถามจึงย้อนกลับไปที่เดิม ว่าจะเข้าไปหาทำไม..

“เอาล่ะ...เมื่อมีการพูดคุยกัน มีการฝากฝังกัน และตำรวจเป็นคนตรง บอกแบบนี้ไม่ได้ กลายเป็นเรื่อง ฝ่ายนั้นอาจจะคิดว่ามีแบ็กใหญ่ มีผู้นำท้องถิ่นหนุนหลัง อยากจะโชว์พาว และลูกน้องก็อาจจะอยากเลื่อนชั้นก็เลยจัดการ...ความจริง หากมีตำรวจมีเทคนิค ก็อาจจะพูดเชิงๆ ดูให้ ทุกอย่างมันก็จะเบาลง ซึ่งเหตุการณ์นี้ต้องดูไปถึงตำรวจด้วย และดูไปถึงผู้ที่มีอิทธิพลที่อยู่ข้างหลัง”

เราต้องเข้าใจว่า นักการเมือง มีอิทธิพลต่อราชการมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ข้าราชการการเมืองเหล่านี้ โดยเฉพาะอยู่ในฝ่ายรัฐบาล มันก็ยิ่งใหญ่เข้าไปใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้น ข้าราชการบางคนจึงตกอยู่ใต้อาณัติ

“ถามว่าเรื่องนี้แก้ไขอย่างไร คำตอบง่ายนิดเดียว คือ ตำรวจต้องไปหาเขา ไม่ต้องสนใจ “มึงผิด...กูจับ” เมื่อก่อน ผมเป็นผู้กำกับ สืบ 8 ผู้มีอิทธิพลเยอะแยะ ผมวิสามัญไปเพียบ ไม่มีใครกล้า ใครจะทำอะไรต้องขออนุญาต ทุกอย่างอยู่ที่ตัวตนของเรา แต่กรณีตำรวจตาย...อุกอาจขนาดนี้ ต้องชดใช้กรรม มอบตัวผมก็ไม่รับ ผมจะตามจับเอง” 

...

เด็ดขาด ไล่ล่า มือปืนทมิฬ 

ผู้การแต้ม อธิบายถึงการจับกุมคนร้ายว่า มีหลายประเภท หากเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในลักษณะการบันดาลโทสะ เช่น การฆ่าผัว ฆ่าเมีย ที่เกิดจากอารมณ์บันดาลโทสะ การคิดที่จะต่อสู้กับตำรวจจะมีน้อย เต็มที่คือ หากมีการกดดันมากเกินไป ก็จะก่อเหตุยิงตัวตาย แต่จะมียิงต่อสู้กับตำรวจนั้นแทบไม่มี 

ส่วนอีกกลุ่ม ที่คดีมีอัตราโทษสูง เช่น คดีค้ายาเสพติด คนพวกนี้จะหาวิธีเอาตัวรอด หากมีอาวุธ ย่อมมีการต่อสู้ ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นนี้ก็คล้ายกัน มีอาวุธปืน สามารถยิงตำรวจได้ ฉะนั้น การลงมือไล่ล่าต้องระมัดระวังสูง หากต่อสู้ ก็ต้องวิสามัญ ต้องเด็ดขาดจัดเต็ม! 

“ส่วนตัวมองว่า คดีนี้ยังไงก็หนีไม่รอด และผมก็ภาวนาไม่ให้มันมอบตัว” ผู้การแต้ม กล่าว 

ซุ้มมือปืน กับ บ้านใหญ่ 

ทีมข่าวฯ ถามถึงประเด็นเรื่อง “ซุ้มมือปืน” กับอิทธิพลเถื่อน พล.ต.ต.วิชัย เผยว่า สมัยก่อนซุ้มมือปืนขึ้นชื่อที่สุด คือ ซุ้มมือปืนเมืองเพชร หรือ ชลบุรี ภาคใต้ ก็นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ภาคเหนือ นครสวรรค์ พิจิตร ซึ่งก็รับจ้างฆ่าคน...

...

แต่ปัจจุบัน ซุ้มมือปืน มีความเปลี่ยนแปลงไป คนพวกนี้จะไปจะอาศัยตามซุ้มของ “นักการเมือง” เพราะ นักการเมืองคุ้มครองได้ และนักการเมืองเหล่านั้น ไว้ทำงาน 

“มือปืนบางคน อยากสร้างบารมี ต้องไปจัดการคนเพื่อเพิ่มบารมีในซุ้ม บางทีเจ้านายยังไม่สั่ง แค่โกรธก็ลงมือจัดการเองแล้ว สมัยก่อน มือปืนเหล่านี้อาจจะอยู่ตามบ่อนการพนัน แต่ปัจจุบันคือนักการเมือง เพราะหากต้องการเปิดบ่อน มีมือปืนไม่ได้ มิเช่นนั้น บ่อนก็เปิดไม่ได้ เพราะตำรวจก็ตามดูอยู่ กล่าวสรุปง่ายๆ คือ ที่ไหนมีบ้านใหญ่ ก็ต้องมาดูมีเลี้ยงมือปืนไว้หรือไม่” นี่คือข้อสังเกตของ ผู้การแต้ม ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่า... 

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรมาก ตำรวจเอง ขอแค่ทำหน้าที่ยึดหลักตามกฎหมาย ไม่รับผลประโยชน์ หากคุณรับ...เขาก็ไม่เกรงใจคุณ หากคุณไม่รับ เอาจริงเอาจัง ใครจะกล้ายุ่งกับคุณ เพราะเราทำถูกต้อง 

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่น่าสนใจ 

...