การแพ้โหวตนายกฯ รอบแรกของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เป็นตัวเร่งให้การเมืองเข้าสู่ภาวะ สลับขั้ว และโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล ขณะที่การโหวตของ ส.ว. ก็เดินเกมงดออกเสียง และไม่เห็นชอบมากกว่าที่คาดคิด จึงเป็นอีกทางแยกสำคัญที่ "พิธา" และทีมงานต้องกลับไปตั้งหลักวางแผนใหม่ ซึ่งตัวแปรสำคัญคือ เกมนอกสภา ที่กดดันในการโหวตนายกฯ ครั้งถัดไป
ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชำนาญการ สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า วิเคราะห์กับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ว่า การที่พิธา แพ้โหวตในการเลือกนายกฯ เป็นไปตามคาด ที่มีสัญญาณทางการเมืองเตือนมาก่อนทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ส.ว. สายลุงตู่ และ ส.ส.สายลุงป้อม ต่างออกมาโหวตงดออกเสียง และไม่เห็นชอบเป็นไปตามคาด ที่น่าสนใจคือ ส.ว.ที่เห็นชอบโหวตให้มีปริมาณน้อยกว่าที่คาดคิด
สิ่งนี้แสดงให้เห็นตลอด ว่ากลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับก้าวไกล พร้อมจะไม่โหวตให้ หากไม่มีกระแสกดดันมาจากม็อบ ภายนอกสภา ซึ่งการโหวตพิธา รอบนี้ ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยก็ประเมินกันแล้วว่า ไม่น่าจะมีม็อบที่มีความรุนแรง เลยตัดสินใจนัดกันงดออกเสียง หรือบางกลุ่มหลีกเลี่ยง โดยการไม่เข้าประชุม ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนายทหาร และกลุ่มที่เคยออกมาประกาศว่าจะโหวตให้กับเสียงข้างมาก แต่วันนี้ตั้งแต่เช้า กลับมีโพยว่าต้องงดออกเสียง เลยตัดสินใจไม่มา
...
“การโหวตรอบนี้แสดงให้เห็นว่า กลุ่ม ส.ว. มีการจับตาความรุนแรงของม็อบภายนอกสภา ท่าทีตอนแรกก็มีแนวโน้วว่าจะเลื่อนการโหวต แต่พอเห็นว่าม็อบไม่มีความรุนแรง เลยคว่ำโหวตในสภาได้”
ที่น่าสนใจคือ เสียงของ ส.ว.ที่โหวตให้พิธา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ก้าวไกล เข้าไปเกลี้ยกล่อม แต่ ส.ว.ฝั่งที่พรรคร่วมเข้าไปเกลี้ยกล่อม มีโหวตค่อนข้างน้อย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า พรรคร่วมมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือหรือไม่ แต่อีกด้านหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า กลุ่มพรรคร่วมที่ผ่านมาก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ส.ว.มาโดยตลอด ดังนั้นการไปขอร้องให้โหวตให้ จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก
การแพ้โหวตครั้งแรกของคุณพิธา ต้องกลับมาตั้งหลักใหม่กับ 8 พรรคร่วม ซึ่งมีการนัดโหวตใหม่วันที่ 19 ก.ค.นี้ โดยการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 ก้าวไกล จะขอเสนอชื่อคุณพิธา อีกรอบ แต่พรรคร่วมจะมีการยื่นข้อเสนอว่า ต้องให้เสนอชื่ออีกกี่รอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจน
“เกมนี้ค่อนข้างชัดว่า ต้องการหยุดพิธาไว้ เพื่อให้เกิดรัฐบาลข้ามขั้ว ส่วนรัฐบาลที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำ ต้องตัดไป และมีแนวโน้มว่า มีการโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล แต่อย่าประมาทว่า บิ๊กป้อม จะก้าวเข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ ในเก้าอี้นายกฯ เพราะทางการเมืองฝั่งนั้นก็รอจังหวะอยู่ แต่การจับมือเป็นรัฐบาลข้ามขั้ว ต้องมีการโหวตนายกฯ ถึง 3 ครั้ง”
อีกด้านหนึ่ง หากมีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว พรรคเพื่อไทย มีแนวโน้มจะเป็นแกนนำ และจะจัดตั้งได้ภายในไม่กี่วัน แต่ก็ต้องไปดูว่า จะโดดเดี่ยวก้าวไกล ให้เป็นฝ่ายค้าน หรือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนเดิม แต่อาจไม่ใช่แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ขณะเดียวกัน น่าสนใจว่า การโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป ก้าวไกล จะมีการเดินเกม ด้วยการชุมนุมนอกสภา เพื่อกดดันการโหวตในสภา แต่ถ้าให้ประเมินในสภาวะตอนนี้ ม็อบจะไม่รุนแรงในเวลาอันรวดเร็ว แต่ต้องใช้เวลา ซึ่งจังหวะนี้ จะมีการชิงความได้เปรียบ โดยจัดตั้งรัฐบาลแบบสลับขั้นก็ได้.