“เพื่อไทยจะเป็น ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก ให้ก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาล” 

นี่คือ คำยืนยันจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ขอทำตามมารยาททางการเมือง แต่สถานการณ์ ใช่ว่าจะเป็นเรื่อง แน่นอนว่า “ก้าวไกล” โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศได้โดยง่าย 

ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็พูดผ่าน คลับเฮาส์ แสดงความยินดีกับ “ก้าวไกล” โดยมีบางท่อนบางตอน ทักษิณ มองว่า ที่ผ่านมา มีการทำ IO ว่าเพื่อไทยคุยกับลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และตอนนี้ยังมี IO ออกมาอีกว่า เพื่อไทย จะไปตั้งรัฐบาลแข่งกับก้าวไกล ทั้งที่ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร และ คุณเศรษฐา แคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อน หรือ หัวหน้าเพื่อไทย ก็ยืนยันแล้วว่าจะสนับสนุนก้าวไกล ตั้งรัฐบาล 

อย่างไรก็ดี หากสังเกตปฏิกิริยาของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน คำยืนยันเกือบทุกพรรค มักมีสร้อยข้อความตามมา...

นี่แหละ คือเกมชิง “อำนาจ” เพราะมัน หอมหวาน ใครๆ ก็อยากครอบครอง 

กับการตั้งรัฐบาลของ “ก้าวไกล” ว่าที่นายกฯ ที่ชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จะได้ไป “ตลอดรอดฝั่ง” หรือไม่ มาฟังกูรูการเมืองไทยอย่าง อ.สุขุม นวลสกุล วิเคราะห์กัน..

...

อาจารย์สุขุม มองว่า ตอนนี้การตั้งรัฐบาลอยู่ที่ความร่วมมือของ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ ส.ส. จากพรรคอื่นที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล แต่ควรปลดแอก จากอำนาจนอกระบบเสียที ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย หรือ ประชาธิปัตย์ ส่วนตัวคือ ผมอยากจะเห็นตรงนั้น ไม่ใช่ว่าจะคุยแต่เงื่อนไข ในการร่วมรัฐบาล ซึ่งเสียงที่มี และรวบรวมได้ในเวลานี้ คือ 310 เสียงก็สูงอยู่แล้ว 

“ก่อนหน้านี้เคยรวมกันที่จะลงคะแนนตัดอำนาจ ส.ว. อยู่แล้ว ฉะนั้น ถึงเวลาตรงนี้เป็นเวลาที่จะแสดงตัวตนถึง “อุดมการณ์” ออกมาบ้าง นอกเหนือจากเรื่องนโยบาย นี่คือเรื่องของบ้านเมืองที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนหลักเกณฑ์ เข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่อง การลดราวาศอก แต่คือเรื่องจุดยืนประชาธิปไตย”

เมื่อถามว่า การแสดงจุดยืนในแต่ละพรรค “ชัดเจน” หรือยัง อาจารย์สุขุม ตอบทันทีว่า “ไม่ชัดเจน ตอนนี้ยังมีการสงวนท่าที ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องเรียกร้อง ในขณะที่ “เพื่อไทย” เองก็กำลังรอจังหวะอยู่ ฉะนั้น หากทุกฝ่ายร่วมมือ “ก้าวไกล” ก็จะไปได้ โดยเฉพาะพรรคที่ไม่ได้ “ผูกเสี่ยว” ไว้ เพราะหากพรรคอื่นร่วมด้วย “อำนาจต่อรอง” ของเพื่อไทยก็จะลดลง 

เมื่อถามว่า มีกระแส “สุภาพบุรุษประชาธิปไตย” กูรูการเมือง บอกว่า สมัยอดีตก็เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น คือ ในสมัย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ในปี 2518 พรรคกิจสังคม ยกมือให้แต่ไม่ร่วมรัฐบาล 

เวลานี้ “ลุงตู่” ถอนตัวแล้ว... อ.สุขุม ตอบว่า ท่านก็แสดงออกว่าเป็น “สุภาพบุรุษ” ยอมรับความจริง ถึงสู้ไป มันจะกลายเป็นเรื่องที่ “บิดเบี้ยว” 

แบบนี้เรียกว่า “ถอนฟืนออกจากไฟ” หรือไม่ อาจารย์สุขุม ยอมรับว่าก็มีส่วน เพราะหากท่านปักหลักสู้ อาจจะมีคนเข้ามาร่วมพลิกเกมได้ ฉะนั้น การพูดของท่านแบบนี้ถือว่าโอเค 

แปลว่าการไม่มีลุงตู่ ก็มีโอกาสสลับขั้วได้ไหม? กูรูการเมือง ตอบว่า ตอนนี้เรียกว่า “เป็นอิสระจากขั้วแล้ว เพราะผลเลือกตั้งเป็นแบบนี้ และตอนนี้ก็มีการทวนคำพูดว่า พรรคของบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม ควรจะยอมรับ ตนเป็นฝ่ายแพ้ และต้องมาเป็นฝ่ายค้าน

แต่กรณีรัฐบาลใหม่ จะดึงพรรครัฐบาลเก่าเข้าร่วม มันก็โอเค หากไม่มีการตั้งเงื่อนไขอะไรมาก 

แต่ทาง “ก้าวไกล” ก็ตั้งเงื่อนไขไว้สูง อ.สุขุม ตอบว่า เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับคะแนน หากคะแนนสูงมากไป ก็จะกลายเป็น “เผด็จการรัฐสภา” เพราะมากไปก็จะกลายเป็นไม่ถ่วงดุล

...

ไขรหัสคำพูด “ทักษิณ” อาจารย์สุขุม มองว่าเป็นอย่างไรบ้าง กูรูการเมืองตอบว่า ทักษิณพูดวันนี้ยังไม่มีอะไรมาก แต่...ถ้าวันหนึ่ง ก้าวไกล ทำไม่ได้ ก็อาจจะเกิดการพลิกเกมได้ 

มีอะไรที่เป็นนัยยะ สำคัญ อาจารย์สุขุม ตอบว่า ตอนนี้ยังไม่มี เพราะเป็นแค่เพิ่งเริ่มต้น ว่าใครผิดใครถูก เหมือนสิ่งที่ ส.ว. ที่ตั้งแง่ว่าเลือกผิดแต่ตั้งต้น ส.ว. ควรจะเปิดโอกาสมากกว่านี้ อย่าเป็นเพียง ลูกผู้ชายแต่คำพูด 

เมื่อถามว่า ช่วงที่หาเสียงก็ค่อนข้างใช้ถ้อยคำรุนแรง การจะเชิญให้ฝ่ายตรงข้ามมาโหวตให้ อาจารย์สุขุม ตอบว่า เรื่องแบบนี้เหมือนตอนที่คุณ “บรรหาร ศิลปอาชา” พูด หากผูกใจเจ็บ บ้านเมืองก็เดินไม่ได้ ตอนนั้น คุณบรรหารถูกถล่มอย่างหนัก ถึงครอบครัว 

เมื่อถามว่า ท่าทีของก้าวไกล ที่ค่อนข้างแข็งกร้าว มีผลต่อการตั้งรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน อาจารย์สุขุม เชื่อว่ามีผลเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็อยากให้ตั้งรัฐบาลได้ เพราะภาพที่ออกมาครั้งนี้ คือให้คนเลือกว่า พรรคฝ่ายรัฐบาลเดิม กับ ฝ่ายค้าน ซึ่งผลออกมาแบบนี้แล้ว คือเขาอยากให้ฝ่ายค้านได้แสดงบทบาท...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่น่าสนใจ 

...