ข่าวใหญ่ตามที่กกต.ออกมาแย้ม จะเป็นเรื่องใดในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 2566 อาจทำให้บางพรรคการเมืองใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เสี่ยงโดนยุบพรรคหรือไม่ แม้กกต.ได้ออกมาย้ำแล้วไม่มีสัญญาณในเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และขอสัญญาด้วยตำแหน่ง จากการระบุของ ปกรณ์ มหรรณพ หนึ่งในกกต. ที่กำลังหมดวาระในอีกไม่นาน

กกต.ประกาศจะมีข่าวใหญ่จะเกี่ยวกับยุบพรรคการเมืองหรือไม่?
กกต.ประกาศจะมีข่าวใหญ่จะเกี่ยวกับยุบพรรคการเมืองหรือไม่?

ย้อนไปในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคไทยรักษาชาติ เคยถูกยุบพรรคมาแล้วในช่วง 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หากก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 มีการยุบพรรค เท่ากับพรรคนั้นจบเกมในสนามเลือกตั้งไปโดยปริยาย แต่หากถูกยุบพรรคหลังเลือกตั้งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างกรณีพรรคอนาคตใหม่ ทางตัวส.ส. สามารถย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ได้ ยกเว้นกรรมการบริหารของพรรคที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง

...

แล้วอะไรคือข่าวใหญ่ในอีก 1-2 วัน จะต้องลุ้นกัน และจากการวิเคราะห์ของ “รศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์” คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มองว่า ข่าวใหญ่จะต้องเป็นประเด็นสำคัญอย่างแน่นอน เพราะกกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใส และการที่ปกรณ์ มหรรณพ หนึ่งในกกต. ออกมาประกาศจะมีข่าวใหญ่จะต้องมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมาก หากนับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ไปอีก 1-2 วัน หากไม่มีอะไรออกมา จะทำให้กกต.ไม่มีความน่าเชื่อถือ

“เชื่อว่ากกต.น่าจะมีหลักฐาน เกี่ยวกับการฝ่าฝืน 10 ข้อห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือทำผิดกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ หากไม่มีข่าวใหญ่ ก็จะขาดความน่าเชื่อถือ เมื่อกกต.พูดออกมาแล้ว ถ้า 2 วันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ก็จะเกิดคำถามจากสื่อและประชาชนในเรื่องความเป็นกลาง และเท่ากับว่ากกต.ละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง เสียเอง”

ในกรณีหากมีข่าวใหญ่จริง ซึ่งข่าวใหญ่ที่ว่านี้ต้องเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง หรือการแข่งขันหาเสียงของพรรคการเมือง และแน่นอนหากมีการฝ่าฝืนกฎกติกาในการหาเสียง สามารถอนุมานได้ว่าต้องเป็นการกระทำของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ต้องเป็นพรรคขนาดใหญ่ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่และข่าวสำคัญ จากการฝ่าฝืนข้อห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือทำผิดกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ จะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายด้วยการลงโทษ

บิ๊กเซอร์ไพรส์ หรือพรรคใหญ่โดนยุบ หลังเลือกตั้ง

แม้กกต.ออกมาประกาศว่าช่วงนี้ไม่มีการยุบพรรคก่อนการเลือกตั้ง อย่างแน่นอน แต่บอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อาจจะเห็นการยุบพรรคหลังการเลือกตั้งก็ได้และต้องเป็นพรรคขนาดใหญ่ จนมาถึงคำถามที่ว่าน่าจะเป็นพรรคการเมืองใด และก็คงมีพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคที่มีคะแนนนิยม อาจฝ่าฝืนกฎกกต. จนสะดุดขาตัวเอง หรืออาจเป็นพรรคภูมิใจไทย และคิดว่ากกต.ต้องเจอหลักฐาน หรือประเด็นอะไรบางอย่างที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบของกกต. อาจไม่รุนแรงถึงขั้นยุบพรรคก็ได้

“ตอนนี้อาจไม่ยุบเป็นเรื่องของระยะเวลาไม่เพียงพอ แต่ต่อไปช่วงหลังเลือกตั้ง ก็ไม่แน่จะถูกยุบพรรค ถามว่าถ้าเกิดขึ้นจริงๆ จะทำให้พรรคใหญ่สะดุด เพราะเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล สมมติว่าพรรคการเมือง A จะได้เสียงข้างมาก สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แล้วเกิดปัญหา ก็จะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล จนเกิดบิ๊กเซอร์ไพรส์ในทันที”

ข่าวใหญ่กกต. อาจทำให้สูตรจัดตั้งรัฐบาลพลิกโผ

...

การออกมาประกาศของกกต.เหมือนเป็นการบอกอะไรบางอย่างจากการส่งสัญญาณ และข่าวใหญ่ข่าวสำคัญที่ว่าต้องเกี่ยวข้องกันพรรคใหญ่ ไม่พ้น 3 พรรคการเมือง ระหว่างพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล หรือภูมิใจไทย ซึ่งไม่ใช่พรรคเล็กอย่างแน่นอน อีกทั้งการจัดการเลือกตั้ง แม้จะเป็นแบบวิธีประชาธิปไตยว่าด้วยการเลือกตั้ง แต่ในเชิงกลไกนั้นไม่ใช่ เพราะคนกลุ่มหนึ่งสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ เป็นการบั่นทอนความเป็นประชาธิปไตย

สิ่งที่กกต.จะออกมาพูดในอีก 1-2 วัน อาจทำให้เกิดการพลิกโผ จนไม่มีใครคาดคิด คาดฝันมาก่อน และที่สำคัญที่สุดมีการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ เหมือนการเลือกตั้งปี 2540 ทำให้พรรคการเมืองที่พยายามฝ่าฟันกลไกเหล่านี้ ทั้งเงื่อนไขรัฐธรรมนูญปี 2560 และจากกกต. เพื่อเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยิ่งกกต.ออกมาพูด ยิ่งทำให้คนในสังคมอยากจะรู้ว่ามีอะไรเด็ดๆ หรือถ้าไม่มีอะไร จะต้องเตรียมรับกระแสที่จะออกมา ถ้าไม่มีก็ไม่ควรพูด เหมือนส่งสัญญาณไปแล้ว

“หากข่าวใหญ่มีจริง อาจทำให้สูตรการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะต้องคิดกันใหม่ จากการส่งสัญญาณของกกต. และคิดว่าพรรคการเมือง ก็คงเร่งหาข่าวว่าอะไรเป็นข่าวใหญ่ของกกต. เพื่อเตรียมรับมือ คิดว่าขณะนี้พรรคใหญ่คงรู้แล้ว จนอาจตั้งตัวไม่ติด ทุกอย่างเป็นไปได้หมดสำหรับการเมืองไทย และข่าวใหญ่ข่าวสำคัญจะต้องเกี่ยวข้องกับพรรคใหญ่เท่านั้น ไม่ใช่พรรคขนาดกลาง หรือพรรคเล็ก”.

...