ใกล้ครบวาระ 4 ปีของรัฐบาลบิ๊กตู่ หลังเที่ยงคืนวันที่ 23 มี.ค. 2566 ต้องจับตาดูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจตัดสินใจจะทิ้งไพ่ใบใด ระหว่างยุบสภา หรืออยู่ครบเทอม เพื่อชิงความได้เปรียบก่อนเดินหน้าเลือกตั้งปี 2566 โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาการเข้าสังกัดพรรคการเมืองของ ส.ส. จะมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้
หากยุบสภา จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน และผู้สมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 30 วัน หรือเพียง 30 วันเท่านั้นนับถึงวันเลือกตั้ง จึงจะลงสมัคร ส.ส.ได้ นั่นหมายความว่า ส.ส. ไม่ต้องลาออกจากตำแหน่งก่อนยุบสภา หรือหากจะอยู่ครบเทอม การเลือกตั้งต้องดำเนินการภายใน 45 วัน ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง จะทำให้ ส.ส.ติดเงื่อนไขในการย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ เป็นเกมไม่ให้เลือดไหลออก
แผนบันได 4 ขั้น "บิ๊กตู่" ปูทางเป็นนายกฯ แบบยาวๆ
สุดท้ายแล้วการตัดสินใจขึ้นอยู่กับบิ๊กตู่ จะประเมินสถานการณ์ในการเดินหมากอันแยบยล เพื่อครองอำนาจต่อไป และจากการวิเคราะห์ของ "รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย" อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้น้ำหนักไปที่การยุบสภา 99.9% มากกว่าการอยู่ครบเทอม เพราะเชื่อว่าอย่างไรแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเลือกที่จะยุบสภา เป็นการยุบสภาในเชิงเทคนิค เพื่อเอื้อประโยชน์กับนักการเมืองจากหลายพรรค จะย้ายเข้ามาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ
อีกทั้งขณะนี้คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ดี ทำให้ไม่สามารถเดินตามแผนบันได 4 ขั้นได้ เริ่มตั้งแต่บันไดขั้นที่ 1 จากการออกแบบรัฐธรรมนูญ ปี 2560 บันไดขั้นที่ 2 ต้องรวบรวมกลุ่มก้อนทางการเมืองทั้งบ้านเล็กบ้านใหญ่ บันไดขั้นที่ 3 รวบรวมเสียงผู้แทนราษฎร ทั้งจากพรรคการเมืองต่างๆ และเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. และบันไดขั้นที่ 4 ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจัดตั้งรัฐบาลในการเดินหน้าต่อ เพื่อครองอำนาจยาว เพราะถ้าไม่ยุบสภาก็จะไม่ประสบความสำเร็จตั้งแต่แผนบันไดขั้นที่ 2 จะต้องรอ ส.ส.พื้นที่ภาคใต้ ย้ายเข้ามาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนวันที่ 20-21 มี.ค.นี้
...
“หากอยู่ครบเทอม ผู้สมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน ก่อนเลือกตั้ง จะทำให้ ส.ส.มีความเสี่ยงลงเลือกตั้งไม่ได้ และการอยู่ครบวาระ เพื่อตัดเกม ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร ก็ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยมีความได้เปรียบอาจแลนด์สไลด์ได้ตลอด พอเห็นกลุ่มสามมิตร ย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย ก็มี ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เข้ามาเป็นทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้เสียเปรียบ”
ขณะที่โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ จะต้องได้ ส.ส. 25 ที่นั่งขึ้นไป ก็จะสามารถเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ และหลังจากนั้นอาจใช้วิธีการดึงพรรคร่วมต่างๆ เข้ามา และใช้กลไก ส.ว. มาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามเกมของพรรครวมไทยสร้างชาติ และหากทำได้ตามแผนบันได 4 ขั้น ก็จะมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี
แม้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยสามารถนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ถึงแค่ปี 2568 แต่อาจได้เห็นการแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลบังคับอีกต่อไป และระหว่างนั้นอาจมีกระบวนการต่อรองกับพรรคฝ่ายค้าน เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาครองอำนาจได้ยาวๆ มากกว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
วันยุบสภา ไม่เกิน 21 มี.ค. สู่กำหนดเลือกตั้งเดือน พ.ค.
แต่หากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 ที่นั่ง จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรืออาจพลิกผันถูกตัดสินทางการเมือง ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามในเรื่องคุณสมบัติ จากคนที่ยื่นเรื่องร้องเรียน เช่น การลงไปหาเสียงในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ใช้ทรัพยากรของรัฐ และการขึ้นเงินเดือนให้ อบต. รวมถึงหน่วยงานอื่น ซึ่งบทบาทดูซ้ำซ้อนกับพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์
...
“อย่างไรแล้ว บิ๊กตู่ จะเลือกยุบสภาอย่างแน่นอน เพราะการอยู่ครบเทอม จะย้อนถอยหลังไป 180 วันตามกฎหมายเลือกตั้ง ให้ดูย้อนหลังพฤติการณ์ต่างๆ ในเรื่องสัญญว่าจะให้ จะมีผลต่อคะแนนเสียง ถือเป็นความเสี่ยงมากๆ และโอกาสในการเป็นนายกฯ ยัง 50 ต่อ 50 แต่อาจจะได้เป็นเพราะใช้เทคนิคทางการเมือง และอาศัยพรรคร่วมเดิม แม้กระทั่งการอาศัยงูเห่า แจกกล้วย ฝากเลี้ยง ให้มาช่วยหนุน”
หากประเมินศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ ในเรื่องจำนวน ส.ส. 200 กว่าที่นั่งของพรรคเพื่อไทย มีความเป็นไปได้ และเมื่อกลุ่มสามมิตรเข้ามาอีกก็จะมี 10 กว่าที่นั่ง อาจได้ถึง 250 ที่นั่ง ส่วนจะได้ 310 ที่นั่ง เป็นเรื่องยาก แม้จะได้แลนด์สไลด์ ก็ยังไม่แน่จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ แต่การที่กลุ่มสามมิตร เข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทย น่าจะมีการเอกซเรย์มาแล้ว เพราะ สมศักดิ์ เทพสุทิน เคยเป็น ส.ส.มา 14 สมัย น่าจะมองว่าพรรคเพื่อไทย มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล
...
ก่อนจะมีการกำหนดวันเลือกตั้ง ต้องจับตาดูสัปดาห์หน้าว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกยุบสภาในวันใด แต่คาดว่าวันที่ 20 มี.ค.นี้ ก่อน กกต.จะจัดให้มีเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 2566 หรือวันที่ 21 พ.ค. 2566 หรือหากยุบสภาวันที่ 21 มี.ค. ตรงกับวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่แปลกอาจมองเป็นสิ่งดีก็ได้ และกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 28 พ.ค. 2566 ซึ่งศึกเลือกตั้งสนามใหญ่ จะลงเอยอย่างไรต้องติดตามกันต่อไป.