ตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึง ณ เวลานี้ เรียกว่า “ฟ้าเปิด” คนทำมาหากิน กลับมามีโอกาส “ลืมตาอ้าปาก” อีกครั้ง หลังโควิด-19 ไวรัสร้ายทำลายร่างกายผู้คน แถมทุบกิจการคนทำมาหากินจนบอบช้ำ ขณะที่ “แรงงาน” ก็ขาดแคลนเงินจากการ “ตกงาน” ต้องดิ้นรนต่อสู้ บางคนต้องเสี่ยงโชคไปทำงานต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี เมื่อเร็วๆ นี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเตือน “ผีน้อย” หรือ แรงงานผิดกฎหมายที่ทำงานในประเทศ “เกาหลีใต้” ให้รีบไปรายงานตัวเพื่อ “สมัครใจ” เดินทางกลับไทย ก่อนวันที่ 28 ก.พ.นี้ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือผ่านออนไลน์ที่ www.hikorea.go.kr พร้อมกับเอกสารประกอบ คือ พาสปอร์ต ใบแจ้งการเดินทาง และบัตรโดยสารเครื่องบิน ก่อนจะ “กวาดล้าง” จริงจัง โดยมี “ค่าปรับ” สูงถึง 30 ล้านวอน หรือ 8 แสนบาท

...


เบื้องหลังจากประเด็นนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับ นายโอวาท ทองบ่อมะกรูด ผอ.กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ทางเกาหลีใต้เขาประกาศ “กวาดล้าง” แรงงานเถื่อนที่หลบหนีเข้าเมือง และวีซ่าขาด ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 โดยเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านี้มารายงานตัวเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี โดยมีผลตั้งแต่ 7 พ.ย. 65 - 28 ก.พ. 66

หลังจากเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป หากตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานเถื่อน จะดำเนินคดีด้วยการปรับ 30 ล้านวอน แต่...หากยอมกลับในช่วงนี้ จะยังมีสิทธิเดินทางกลับไปทำงานที่เกาหลีอีกครั้ง

เมื่อถามว่า การเปิดโอกาสลักษณะนี้ เหมือนเป็นการ “เช็กรายชื่อ” หรือไม่ นายโอวาท ยอมรับตรงๆ ว่า อาจจะเป็น “เช่นนั้น”

แต่...จากข้อมูลพบว่า มีคนไทยทำงานในเกาหลีประมาณ 180,000 คน แบ่งเป็นแรงงานถูกกฎหมาย 40,000 คน และคนที่อยู่โดยมี “วีซ่า” เกินกำหนด 140,000 คน

“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลไทยรู้สึกกังวล หรือคนที่ยังไม่รับรู้ข่าวสาร แล้วเกิดหลังวันที่ 28 ก.พ. มีการ “กวาดล้าง” จริง บุคคลเหล่านี้จะถูกดำเนินคดี”

ผอ.กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ เผยว่า ตัวเลขคนไทยที่วีซ่า เกินแล้วขอลงทะเบียนกลับประเทศ จนถึงวันนี้ (6 ก.พ.) มีประมาณ 2,600 กว่าคนเท่านั้น! (ข้อมูลกระทรวงการต่างประเทศ) กลับมาจริงๆ มากกว่า 2,000 คน

สาเหตุ “ผีน้อย” มากมายใน “เกาหลีใต้”

นายโอวาท อธิบายว่า สาเหตุที่ “ผีน้อย” ในเกาหลีใต้มีจำนวนมาก เพราะประเทศเขาปล่อย “ฟรีวีซ่า” อยู่ได้ 90 วัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ประเทศไทยทำข้อตกลงกับหลายๆ ประเทศ เมื่อเข้าประเทศได้ ก็ใช้วิธีการโดดทัวร์ หรือไปอยู่กับญาติๆ ที่เคยเข้ามาก่อน จากนั้นก็ฝากงานต่อๆ กัน

“งานที่ไปทำส่วนมากจะเป็นลักษณะ โรงงาน เกษตรกรรม ปศุสัตว์ งานก่อสร้าง โดยมีรายได้ประมาณ 40,000-50,000 บาท จึงกลายเป็นแรงจูงใจให้คนไทยหนีไปทำงานที่เกาหลีใต้จำนวนมาก”

เกาหลีใต้ ต้องการแรงงานถูกกฎหมาย 15,000 อัตรา 

นายโอวาท เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการเปิดประเทศปลายปีที่แล้ว หลายชาติ เริ่มกลับมารับแรงงานต่างชาติมากขึ้น ยกตัวอย่าง “เกาหลีใต้” กำลังกลายเป็น “สังคมผู้สูงอายุ” ประเทศเขาต้องการแรงงานประมาณ 360,000 คน ทุกประเภทกิจการ โดยเฉพาะงาน 3D หรืองานหนัก เสี่ยง อันตราย คนเกาหลีจะไม่ทำแล้ว ก็จะเลือกใช้แรงงานต่างชาติ

...

แต่...การจะขอวีซ่าเพื่อทำงานถูกกฎหมาย ก็เป็นเรื่องที่ยาก อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกันหลายครั้ง ไทยจึงขอให้เกาหลีใต้รับแรงงานไทยมากขึ้น โดยในปี 2566 จะรับแรงงานไทยถูกกฎหมายไปทำงานที่เกาหลี จำนวน 15,000 คน โดยแบ่งประเภทตามวีซ่า ดังนี้

- วีซ่า E9 แรงงานไร้ฝีมือ จำนวน 5,000 คน
- วีซ่า E8 แรงงานเกษตรตามฤดูกาล จำนวน 5,000 คน
- วีซ่า E7 แรงงานฝีมือลักษณะเฉพาะ จำนวน 5,000 คน

“ทางเกาหลีเขาขาดแรงงานกว่า 3 แสนคน ที่ผ่านมาจึงทำ MOU กับ 16 ประเทศ เพื่อรับแรงงานเข้าไปทำงานประเภทต่างๆ รวมไปถึงแรงงานไทย โดยเฉพาะแรงงานไร้ฝีมือ โรงงานอุตสาหกรรม เขาต้องการเยอะ แต่งานฝีมือ โดยเฉพาะช่างเชื่อม งานอู่ต่อเรือ ก็ถือว่าเป็นที่ต้องการ”

3 แหล่งขุดทอง “แรงงานไทย” รายได้ดี!

ทีมข่าวฯ ถามว่า ประเทศอะไรที่ “ไทย” ส่งออกแรงงานมากที่สุด และรายได้เป็นอย่างไร นายโอวาท เผยว่า กระทรวงแรงงานมีเป้าหมายในปี 2566 จะส่งออก “แรงงาน” ไทยไปทำงานต่างประเทศ 50,000 คน โดยในไตรมาสแรก (ตุลาคม 2565 - มกราคม 2566) มีการส่งไปแล้วเกือบ 20,000 คน โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเทศหลัก ได้แก่

1.ไต้หวัน : ทำงานโรงงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง เกษตร มีรายได้ ประมาณ 39,000 บาท/เดือน อยู่ได้นานถึง 12 ปี เพราะไต้หวันขาดแคลนแรงงาน จึงมีการแก้ระเบียบต่างๆ เพื่อรองรับ ตอนนี้มีแรงงานในระบบ 50,000 คน

2.อิสราเอล : ทำงานภาคเกษตร ปศุสัตว์ เป็นการทำงานในลักษณะรัฐต่อรัฐ ทำงาน 3 ปี 5 เดือน ค่าจ้างเฉลี่ย 50,000 บาท/เดือน ตอนนี้มีแรงงานในระบบ 27,000 คน

3.เกาหลีใต้ : แรงงานภาคเกษตร ก่อสร้าง และช่างฝีมือ หากเป็นช่างฝีมือจะมีรายได้มากกว่า 70,000 บาท แรงงานไร้ฝีมือ 40,000-50,000 บาท มีแรงงานในระบบ 40,000 คน

...

สำหรับนโยบายการส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ ของ ก.แรงงาน ระบุว่า หากจะส่งแรงงานไปต้องได้เงินมากกว่าในประเทศไทยอย่างน้อย 2 เท่า ยกตัวอย่าง ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เดือนละ 9,000-10,000 บาท ฉะนั้นการไปทำงานต่างประเทศจึงต้องได้เงินมากกว่า 20,000 บาท

“อยากฝากถึงกลุ่ม “ผีน้อย” ที่อยู่ในเกาหลีใต้ ช่วงนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้กลับมาประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย โดยไม่มีความผิด ถึงแม้กลับมาไทยตอนนี้ อาจจะมีรายได้ไม่มาก แต่ก็มีงานรออยู่มากมาย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ฉะนั้นจึงอยากฝากเตือนว่า หลังกุมภาพันธ์นี้หากมีการจับกุม ท่านจะถูกปรับถึง 800,000 บาท” ผอ.กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน กล่าวทิ้งท้าย.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

กราฟิก : Varanya Phae-araya

อ่านบทความที่น่าสนใจ 

...