• ประชากรวัยแรงงานจำนวนมากในประเทศไทย ย้ายถิ่นเพื่อหาโอกาสทางเศรษฐกิจ ทั้งเพื่อการศึกษาและการประกอบอาชีพ หลายคนย้ายถิ่นจากครอบครัวมาทำงานคนเดียวในถิ่นปลายทาง บางคนสร้างครอบครัวในถิ่นที่อยู่ใหม่ บางคนมีเป้าหมายเพื่อหารายได้ส่งกลับไปยังครอบครัวในถิ่นเดิมที่มีพ่อแม่และญาติพี่น้องอาศัยอยู่ แต่บางคน น่าจะโชคดีที่ได้ทำงานใกล้กับที่อยู่เดิมจึงไม่ต้องย้ายไปทำงานไกลบ้าน

  • เมื่อผ่านช่วงวัยแรงงานจนเข้าสู่วัยเกษียณอายุ พวกเขาหรือคนรุ่นใหม่ในยุคนี้จึงต้องเตรียมตัวด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งส่วนมากมีเป้าหมายชัดเจน และความหวังจะเป็นจริงได้ ต้องวางแผนเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ภายหลังประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 20% แต่คนวัยแรงงานมีแนวโน้มจะไม่มีลูกจากหลายสาเหตุที่ผู้นำและนักนโยบายควรทำความเข้าใจ

  • พวกเขาอาจขาดผู้ดูแลเมื่อเป็นผู้สูงอายุที่ร่างกายเสื่อมถอยจนไม่สามารถดูแลตนเองได้ สถานสงเคราะห์สำหรับผู้สูงอายุ กลายเป็นความหวังที่คนวัยแรงงานกลุ่มนี้ต้องการพึ่งพิง รัฐจึงควรเตรียมการให้มีสถานสงเคราะห์และผู้ดูแลอย่างเพียงพอ ให้เข้าถึงได้ ในอัตราที่จ่ายไหว เพื่อให้ประชากรทุกคนได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีตราบจนวาระท้ายของชีวิต

...

ความหวังคนวัยทำงาน แก่มาจะอยู่กับใคร ไปอยู่ไหน

เมื่อปลายปี 2564 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้สำรวจความต้องการถึงที่อยู่อาศัยที่คาดหวังเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ในโครงการวิจัยเรื่อง “ความคาดหวัง การวางแผน และการเตรียมตัวของประชากรวัยทำงานต่างรุ่นอายุ และรูปแบบการอยู่อาศัยต่อชีวิตในวัยสูงอายุ” พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1,734 คน ส่วนมากต้องการอยู่อาศัยในที่เดิม 56.1% รองลงมาต้องการอยู่อาศัยในที่ใหม่ของตนเองหรือของสมาชิกในครอบครัว 19.4%

อีก 13.8% ต้องการย้ายถิ่นไปกลับภูมิลำเนาเดิมหรือบ้านเกิด  5.7% ต้องการไปอยู่ในที่พักอาศัยหรือชุมชนที่สร้างขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Complex) 2.7% ต้องการย้ายถิ่นไปอยู่ต่างประเทศ 1.3% ต้องการไปอยู่สถานปฏิบัติธรรมหรือวัด และ 1.0% ต้องการไปอยู่ในสถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ

“รศ.ดร.จงจิตต์ ฤทธิรงค์” รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาคุณภาพหลักสูตร สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่ามีการเก็บข้อมูลคล้ายๆกันในเรื่องที่อยู่อาศัยกับกลุ่มวัยแรงงานอายุ 18-59 ปี ใน 2 คำถาม 1.ทางกายภาพ 2.จะอยู่กับใครและจะไปอยู่ที่ไหน ส่วนใหญ่บอกว่าจะอยู่ที่เดิม รองลงมาต้องการอยู่อาศัยในที่ใหม่ของตนเองหรือกับสมาชิกในครอบครัว นั่นหมายความว่าได้วางแผนแนวทางไว้แล้ว เมื่อเป็นผู้สูงอายุ รวมถึงการย้ายถิ่นกลับภูมิลำเนา เป็นอีกเทรนด์ที่วัยแรงงานหรือคนรุ่นใหม่จะกลับไปอยู่อาศัยในที่เดิม

“การอยากไปอยู่ในที่อื่นๆ อีก 8.6% คาดหวังจะให้สถานสงเคราะห์และบ้านพักคนชราดูแล ก็มีความน่าสนใจว่าทำไมไม่อยากอยู่บ้าน แต่การไม่มีใครดูแลก็น่าห่วง โดยเฉพาะคนเจน X และคนที่มีอายุมากขึ้นในกลุ่มเจน X กับเจน Y คาดหวังจะอยู่คนเดียวเพิ่มมากขึ้นตามอายุที่สูงขึ้น และขณะนี้คนเจน X ทยอยเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ คาดหวังจะอยู่คนเดียวมากถึง 23% ซึ่งน่าเป็นห่วง”

ผู้หญิงอยากอยู่คนเดียวมากสุด เมื่อเข้าสู่วัยไม้ใกล้ฝั่ง

ประมาณ 1 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการอยู่คนเดียวและในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง 60.9% โดยกลุ่มเจน Y และ Z คาดว่าจะอยู่คนเดียว เพราะไม่คาดหวังจะแต่งงาน ทำให้อยากอยู่คนเดียว และการอยู่คนเดียวน่าห่วงแน่นอน เมื่อร่างกายเริ่มเสื่อมถอย ขณะที่เพศทางเลือก กลุ่มเจน Y และเจน Z มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นจะอยู่คนเดียว 

"เมื่อถึงวันนั้นใครจะดูแล ทำให้มีกระบวนการเตรียมพร้อมคาดหวังจะอยู่สถานที่สำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร หรือ Senior Complex มีหมอ พยาบาลคอยดูแล มีกิจกรรมให้ทำ หรือเจน Z บางคนรู้สึกว่าสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ก็อยากมาอยู่ในสถานที่ ซึ่งสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เพราะเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมาก บางคนรู้สึกทางเลือกนี้เวิร์กมาก แค่มีเงินก็พอ แม้ไม่มีลูก ไม่มีครอบครัว”

เรื่องที่อยู่อาศัยเกี่ยวข้องกับด้านการเงิน ต้องเริ่มเก็บเงินในวัยทำงาน นำเงินไปลงทุนทำให้เงินพอกพูนมากขึ้น เพราะฉะนั้นต้องวางแผนในการใช้จ่ายเมื่อเป็นผู้สูงอายุ

...

เงินสำคัญต่อบั้นปลายชีวิต ต้องปรับปรุงที่อยู่ไม่ให้ลื่นล้ม

นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องเงินก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่สถานที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุก็ต้องมีความเหมาะสม ไม่ให้ลื่นล้มจนต้องติดเตียง หรือเสียชีวิต จะต้องมีราวจับขึ้นบันได มีการปรับสภาพทางสถาปัตย์ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จะต้องวางแผนและต้องตระหนักในการเตรียมพร้อมก่อนถึงวัยเกษียณ

กรณีคนบางส่วนคาดหวังไปอยู่วัดหรือสถานปฏิบัติธรรม คาดว่าตั้งใจปฏิบัติธรรมในช่วงท้ายของชีวิต เป็นการเตรียมพร้อมก่อนการเสียชีวิต หรืออีกเหตุผลอาจมีส่วนหนึ่งหวังพึ่งวัด เพื่อให้คนดูแล แต่ด้วยความเป็นวัดมีพระภิกษุ ซึ่งเป็นผู้ชาย ซึ่งแตกต่างกับผู้หญิงไม่สามารถทำได้

ส่วนกรณีเพศทางเลือก ก็น่าห่วงเมื่อเข้าสู่วัยผู้สูงอายุเพราะใช้ร่างกายหักโหมมานาน เช่นเดียวกับเพศปกติหลายๆ คน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่เพศทางเลือก มีข้อจำกัดในการสร้างครอบครัว ทำให้ตระหนักดีในการเตรียมพร้อมและวางแผนให้มากที่สุด

อีกกลุ่มที่ต้องการย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จากการสัมภาษณ์พบว่ากลุ่มเจน Y อายุปลายๆ และเจน Z น่าเป็นกลุ่มที่อยากลองหาโอกาสโดยการเก็บเงินไปอยู่ต่างประเทศ เพราะเห็นญาติไปอยู่ต่างประเทศ แต่เป็นแค่ความหวังอยากจะไปประเทศที่มีสวัสดิการที่ดี และมีช่องทางหารายได้

...

กลุ่มเจน Z อยากอยู่สถานที่ดูแลผู้สูงวัยแบบครบวงจร

ในการเตรียมพร้อมเรื่องที่อยู่อาศัยของคนแต่ละกลุ่มอายุ หรือการที่เด็กรุ่นใหม่ต้องการไปอยู่สถานที่สำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร หรือ Senior Complex ซึ่งในประเด็นนโยบายตามการนำเสนอของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จะต้องมีคนมาดูแลระหว่างภาครัฐหรือเอกชน และมีข้อสรุปว่าทั้งภาครัฐและเอกชน จะต้องดูแลร่วมกัน

เพราะรัฐอาจไม่มีกำลังมากพอในการดูแล จะต้องพึ่งเอกชน ในการสร้างที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ ให้สอดคล้องกับความต้องการ หากให้เอกชนดำเนินการอย่างเดียว ก็จะมีราคาแพง ทำให้คนเข้าไม่ถึง และภาครัฐ อาจต้องสนับสนุน ให้การช่วยเหลือบริการต่างๆใน Senior Complex

“เชื่อว่าความต้องการเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุในอนาคต จะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มเจน Z มีมากถึง 15% ต้องการจะอยู่ใน Senior Complex ทางภาครัฐต้องศึกษาเรื่องความต้องการของประชาชนในแต่ละเจน เพื่อการวางแผนล่วงหน้าใน 10 ปี หรือ 20 ปี ข้างหน้า เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการ และทุกคนจ่ายได้ไหว เพราะขณะนี้เจน X กำลังจะทยอยเป็นประชากรสูงอายุ ส่วนมากต้องการอยู่ในที่เดิม หากให้อยู่ได้อย่างปลอดภัย ควรต้องสำรวจพื้นที่ในบ้านให้สามารถอาศัยอยู่ได้ ไม่ให้ผู้สูงอายุเหล่านี้หกล้ม เกิดอุบัติเหตุ และไม่สร้างภาระกับคนในครอบครัว ในการดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งเยอะมาก หากเทียบกับการลงทุนปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม”

...

ผู้เขียน : ปูรณิมา