ท่านรัฐมนตรี คิดอะไรอยู่...?

วลีข้างต้น มาจาก พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่กำลังคาใจเกี่ยวกับ การโยกย้าย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI สลับตำแหน่งกับ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ปฏิบัติหน้าที่ราชการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงนามในคำสั่งที่ 24/2566 เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และรักษาราชการแทน

สิ่งที่เกิดขึ้นพาหลายคนสงสัยว่า เพราะเหตุใดต้องย้ายบุคคลที่กำลังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม ประเด็นเรื่องความโปร่งใส เนื่องจาก ลูกน้องอดีตสังกัดถูกกล่าวหาประเด็นรับสินบนและชู้สาว ไปนั่งในตำแหน่ง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นองค์กรที่ต้องใช้ความโปร่งใสในการทำงานสูง

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสพูดคุยกับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า เรื่องนี้ในเชิงระบบ เวลาคนที่มีปัญหากำลังถูกตั้งกรรมการสอบ หรือกำลังจะถูกตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน หรือ องค์กรใด ก็ควรจะมี “ที่พัก”

...

“ไม่ใช่ว่า เอาไปไว้ที่อื่น แล้วไปมีปัญหาที่อื่นแทน นี่คือปัญหาแรกที่เห็นเลย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การโยกย้ายดังกล่าว มีประเด็นจากเรื่องข้างต้น”

หมอพรทิพย์ ยังกล่าวถึงประเด็นสำคัญต่อมาว่า “คนที่เป็นผู้บริหารองค์กร” ต้องนึกถึงการพัฒนาองค์กร เพื่อให้องค์กรเดินหน้าได้ดีที่สุด หน่วยงานใดที่เป็นหน่วยงานเฉพาะ อาทิ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หรือ จะเป็นหน่วยงานปราบยาเสพติด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความรู้เฉพาะ เป็นสิ่งที่ไม่ควร โดยเฉพาะเชิงระบบ ซึ่งกรณีบางคนนั้นถูกส่งเข้ามาโดยไม่มีความตั้งใจทำงาน

อย่างไรก็ตาม คนที่ถูกย้ายมานี้ อาจจะมีประวัติด้านการทำงานที่เคยเป็นคุณหมอมาก่อน แต่หากทบทวนเส้นทางการทำงานของเขา “รัฐมนตรี” ก็จะทราบว่า “เขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่”

หมอพรทิพย์ ย้ำว่า การที่เอาคนที่ไม่อยากจะอยู่ในหน่วยงาน กลับเข้ามาทำงานในหน่วยงาน คำถามคือ คุณไม่ให้ค่า คนที่ตั้งใจทำงานในหน่วยงานนั้นหรือ..?

“การแก้ปัญหาด้วยการให้พ้นจากที่หนึ่ง ไปอยู่อีกที่หนึ่ง แบบนี้ไม่ได้ การที่จะเอาคนที่มีปัญหาออกมาก่อน คิดแบบนี้ไม่ได้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นตามข่าว ถือว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมีการโยกย้าย กำลังสงสัยเรื่องลูกน้องรับเงิน หรือประเด็นด้านชู้สาว แต่ปรากฏว่า เอาคนที่กำลังถูกตั้งข้อสงสัยแบบนี้ไปวางที่หน่วยงานอื่น แบบนี้ก็ได้หรือ”

อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มองในเชิงภาพรวมว่า ภาครัฐควรจะมีพื้นที่ เพื่อ “รอ” เพราะตอนนี้เขายังไม่ได้ผิดอะไร แต่ก็ไม่ควรมีระบบแบบนี้

“งานด้านนิติวิทยาศาตร์ ถือเป็นหน่วยงานเฉพาะที่ต้องการคนที่รัก ตั้งใจมาพัฒนา ซึ่งหน่วยงานนี้จำเป็นต้องใช้ความโปร่งใสมาก เพราะเป็นเรื่องที่ต้องอำนวยความยุติธรรม ที่ผ่านมาก็มีผู้บริหารหลายคน มีการสั่งห้ามทำนู้นนี่ ซึ่งถือเป็นเรื่อง “ผิดวัตถุประสงค์” ที่เขาตั้งใจให้มีขึ้น ตามรัฐธรรมนูญ 2540”

หมอพรทิพย์ สะท้อนว่า ที่ผ่านมามีบางคนเข้ามาบริหาร แต่กลับพยายามใช้เงิน เน้นไปเรื่องการประชาสัมพันธ์ แต่กลับจะไปยุบหน่วยที่ผลักดันด้านการช่วยเหลือเรื่อง “คนหาย” แต่โชคดีที่ทางสำนักงาน ก.พ. ไม่ให้ยุบ และต่อมาได้มี พ.ร.บ.ห้ามทรมาน หรืออุ้มหาย จึงจำเป็นต้องมีงานแบบนี้ออกมา

นี่คือตัวอย่างของการได้ผู้บริหาร ไม่มีความรู้ ความศรัทธา ด้านการอำนวยความยุติธรรม ที่จำเป็นต้องมีความ “อิสระ” ซึ่งที่ผ่านมา สถาบันฯ หยุดเดินหน้ามาพักหนึ่งแล้ว และมาเจอปัญหาโควิดอีก

“สิ่งที่พยายามรักษามาตรฐาน กลับตกลงทั้งหมด เพราะขาดงบประมาณ ฉะนั้นจึงไม่อาจพูดถึงการอำนวยความยุติธรรมอย่างไรถึงจะเต็มที่”

พญ.คุณหญิง พรทิพย์ กล่าวย้ำทิ้งท้ายว่า การที่ได้คนที่ไม่ได้รักงานด้านนี้ จะส่งผลต่อการต่อสู้ในงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ให้สามารถเดินหน้าได้

“สิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจนอยู่แล้ว ว่าย้ายคนที่มีปัญหาเข้ามา ฉะนั้น เมื่อถามว่าเหมาะสมหรือไม่ คงต้องถาม รัฐมนตรี ว่าท่านคิดอะไร..” คุณหญิงหมอพรทิพย์ กล่าว

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

...

อ่านบทความน่าสนใจ