สิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ พยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากจ่ายภาษีด้วยวิธีต่างๆ อาจเป็นวิธีคิดที่ง่ายเกินไป มองว่าใครต่อใครก็ทำ แต่หากโดนสรรพากรจับได้ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จะโดนภาษีย้อนหลังพร้อมค่าปรับและดอกเบี้ย สูงถึง 4 เท่าของภาษีที่ต้องจ่าย อย่างล่าสุดกรณีแม่ของน้องแมงปอ ไลฟ์สดขายสินค้าหาเงินดูแลลูกสาวที่ป่วยติดเตียง และได้ถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 3 ปี

อาจด้วยภาระหนักอึ้งในการทำมาหากิน จนไม่ได้จัดการเรื่องยื่นภาษีและไม่เคยทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้รู้ถึงต้นทุนค่าใช้จ่าย ทำให้เจอภาษีย้อนหลังแบบทวีคูณมากถึง 12 ล้านบาท จากยอดขายตั้งแต่ปี 2563 จนถึง 2565 มีเงินในบัญชี 80 ล้านบาทจากการประเมินของสรรพพากร ทำให้แม่ของน้องแมงปอ ซึ่งปัจจุบันอายุ 54 ปี ร้องไห้อย่างหมดกำลังใจขณะกำลังไลฟ์สด เกรงว่าจะโดนยึดทรัพย์ไม่เหลืออะไร หากเลยกำหนดวันนัดจ่ายในวันที่ 15 ธ.ค. 2565 นี้

กรณีแม่น้องแมงปอ ถือเป็นบทเรียนที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ อย่าได้ชะล่าใจเด็ดขาด และอย่ากลัวในการยื่นภาษี ปีละ 2 ครั้ง ในช่วงต้นปี และกลางปี เพราะเมื่อคำนวณจากต้นทุนและกำไรแล้ว อาจไม่ต้องจ่ายสักบาทก็ได้ หรือใครมีปัญหาสามารถติดต่อขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่สรรพากรที่จะให้คำแนะนำ ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีค้าขาย สามารถลดหย่อนต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง แต่ต้องทำบัญชี เก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายไว้ใช้ในการยื่น หรือหากไม่มีหลักฐาน สามารถลดหย่อนแบบเหมาในอัตรา 60% ไม่เกินนี้

แม่ของน้องแมงปอ ขายสินค้าทางออนไลน์ หาเงินเลี้ยงดูลูกที่ป่วยติดเตียง
แม่ของน้องแมงปอ ขายสินค้าทางออนไลน์ หาเงินเลี้ยงดูลูกที่ป่วยติดเตียง

...

เพื่อย้ำเตือนไปยังคนทำอาชีพขายของออนไลน์ “ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์” ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภาษีอากร และ CEO iTAX ระบุว่า ถ้าว่าตามกฎหมายสำหรับผู้ค้าขายออนไลน์ มีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีมูลค่าเพิ่ม เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยหลักการของภาษีเงินได้ฯ จะต้องเสียภาษีเมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องจ่าย หากมียอดขายเกิน 6 หมื่นบาทตามปีปฏิทิน ส่วนจะจ่ายภาษีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกำไร หากมียอดขายมาก แต่กำไรไม่มาก หรือกำไรทั้งปีไม่เกิน 2 แสนบาท ก็ไม่ต้องเสียภาษี

ในกรณีของแม่น้องแมงปอ ไม่เคยจดบันทึกทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย มีการนำเงินไปซื้อที่ และรักษาลูกๆ จนกลายเป็นบัญชีเงินหมุน ซึ่งเป็นปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากว่ามีต้นทุน และรายได้เท่าไร หากสมมติว่าแม่น้องแมงปอ มีหลักฐานแสดงได้ว่าขายของ 60 บาท จากต้นทุน 50 บาท หากพิสูจน์ได้สามารถนำมาเป็นหลักฐานไปยื่นกับสรรพากร ในการหักค่าใช้จ่ายตามจริง

“แต่เมื่อแม่น้องแมงปอ ไม่ได้ยื่นภาษี ทางสรรพากรก็ต้องประเมินเงินเข้า ดูว่าเงินเข้าอย่างไร และจากยอดกดไลค์ หรือมีการประเมินต้นทุน ถ้าไม่ทำบัญชีต้นทุน ก็แปลว่าเราขายได้ 40% ทั้งๆ ที่การทำบัญชีเป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อไม่ทำบัญชีมานานๆ ก็จะโดนภาษีย้อนหลัง หรือถ้าสะสมมานาน จะประเมินภาษีย้อนหลังได้ไกลสุด 10 ปี ส่วนกรณีแม่น้องแมงปอ บอกว่ามีค่ารักษาลูกสาว จะขอลดค่าภาษีนั้น ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ แต่จะเข้าโหมดค่าลดหย่อนภาษีเงินได้ฯ”

เมื่อกลายเป็นหนี้ จากภาษีที่ค้างอยู่ จะมาพร้อมกับค่าปรับจากการไม่จ่ายภาษีตรงเวลา คิดเป็น 2 เท่าของภาษีที่ค้างจ่าย และตลอดเวลาที่ไม่จ่ายจะถูกคิดดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน หรือ 1 ปี ประมาณ 18% ยกตัวอย่างถ้าค้าง 100 บาท ก็เท่ากับ 400 บาท และการขายสินค้า จะมีเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ฯ โดยกรณียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาท มีเวลา 30 วัน ต้องไปจดภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นเมื่อขายสินค้า จะต้องบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ไปด้วย เพื่อไปจ่ายสรรพากร ซึ่งคนขายออนไลน์หลายคนไม่ได้ทำ ทั้งที่มีกำไรน้อยมาก

“อาจได้กำไร 5 บาท จากที่ขายไป 100 บาท ก็ต้องควักเองจ่ายสรรพากร 6 บาทกว่าในทุกครั้งที่ขายได้ จนขาดทุนไปเรื่อยๆ เป็นส่ิงที่คนขายของไม่ได้คิดว่าต้องโดนค่าแวต ถ้าค้างจ่าย กรณียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาท ก็จะสะสมไปเรื่อยๆ เหมือนแม่น้องแมงปอ เจอทั้งแวต ภาษีเงินได้ฯ และโดนบวกเพิ่ม คาดว่า 3-4 ล้านบาทที่ค้างไม่ได้จ่าย จนกระโดดมาเป็น 12 ล้านบาท”

แม้มีการติดค้างค่าภาษี แต่ทางสรรพากรมีเกณฑ์อยู่สามารถโต้แย้งได้ หากทำผิดครั้งแรกและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สามารถงดไม่เก็บเบี้ยปรับก็ได้ และค่าภาษีสามารถผ่อนจ่ายได้ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว เพราะฉะนั้นคนขายออนไลน์ อย่าพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี อีกทั้งเงินที่ซื้อขายมีการเข้าบัญชีธนาคารอย่างเดียว ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจน แตกต่างกับคนขายของออฟไลน์ รับเป็นเงินสด จึงอยากให้คนขายออนไลน์ทำสิ่งที่ถูกต้อง หรือมีปัญหาสามารถคุยกับสรรพากรได้

...

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ตั้งใจเข้าระบบภาษีให้ถูกต้อง แต่ยังไม่มีความรู้เรื่องภาษี และไม่ต้องการมีปัญหาภาษีย้อนหลังในอนาคต สามารถเข้าร่วมโครงการแพลตฟอร์ม “iTAX bnk” ซึ่งริเริ่มเมื่อ 3 ปีก่อนร่วมกับกรมสรรพากรและธนาคารกรุงไทย ด้วยการเปิดบัญชีกรุงไทย แยกออกมาจากบัญชีส่วนตัว โดยเงินที่จ่ายเข้ามาทุกครั้งจะมีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย จากการคำนวนต้นทุนสินค้าโดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นหลักฐานนำไปยื่นภาษีได้ สามารถลงทะเบียน https://www.itax.in.th/bnk เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองผู้ร่วมโครงการ และจะแจ้งผลภายในวันที่ 22 ธ.ค. 2565 เพื่อแจ้งขั้นตอนการเปิดบัญชีต่อไป.