ความคืบหน้าการทวงคืนพลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยที่มอบให้แก่ประเทศศรีลังกาเมื่อปี 2544 แต่กลับได้รับการดูแลไม่เหมาะสม ถูกล่ามโซ่ทั้งขาหน้า-ขาหลัง และนำไปเดินแห่หารายได้ให้กับวัดเฉลี่ยปีละ 30 ครั้ง จนขาหน้าด้านซ้ายเสีย เดินกะเผลก งอเข่าไม่ได้ มีฝีขนาดใหญ่บริเวณหลังสองข้าง “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ได้เปิดประเด็นจนพบว่า มีการรายงานการรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยทีมแพทย์ศรีลังกาที่ไม่มีความเชี่ยวชาญสัตว์ใหญ่ ล่าสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมประเมินร่างกายอีกรอบ ก่อนวางแผนนำกลับมารักษาในไทยไม่เกินต้นปีหน้า
ข้อมูลจากเอกสารรายงานการตรวจร่างกายของ พลายศักดิ์สุรินทร์ ผ่านการประเมินของทีมทำงานไทยพบว่า มีสภาพน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีแผลบริเวณผิวชั้นนอกหลายแห่ง การถูกล่ามโซ่ไว้ตลอดเวลาทำให้มีแผลบริเวณขาทั้งสองข้าง ส่วนควาญช้างที่ดูแลอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา ทำให้การทำหน้าที่บกพร่อง
แต่ก่อนจะย้าย พลายศักดิ์สุรินทร์ มาไว้ที่สวนสัตว์ในเมืองโคลัมโบ การดูแลรักษาอาการบาดเจ็บจะใช้สัตวแพทย์ท้องถิ่นที่มีประสบการณ์รักษาสัตว์ขนาดเล็ก ทำให้ขาดความเชี่ยวชาญในการรักษาช้างที่เป็นสัตว์ขนาดใหญ่
...
ล่าสุด “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” สอบถามไปยัง “วราวุธ ศิลปอาชา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ชี้แจงว่า กรณีของ พลายศักดิ์สุรินทร์ ที่ไทยมอบให้ศรีลังกาตั้งแต่ปี 2544 เบื้องต้นได้ส่งทีมแพทย์จากไทยเข้าไปตรวจสอบแล้ว 2 ครั้ง จนมีการลงความเห็นของคณะกรรมการถึงแนวทางการนำ พลายศักดิ์สุรินทร์ ที่มีงายาว 50 ซม. กลับมารักษาอาการบาดเจ็บที่ไทย
จากการเดินทางเข้าไปประเมินล่าสุดของทีมสัตว์แพทย์ พบว่า พลายศักดิ์สุรินทร์ มีสภาพร่างกายทรุดโทรม แต่การนำกลับมารักษาที่ไทยต้องประเมินสภาพร่างกายของช้างอย่างละเอียด เพราะแผนในการนำกลับมาจะใช้การขนส่งโดยเครื่องบินที่มีระยะเวลาเดินทางสั้นกว่าทางเรือ รวมถึงการเตรียมพร้อมทีมงานในการดูแลช้างในระหว่างขนส่งไม่ให้มีอาการบาดเจ็บ หรือซ้ำเติมการบาดเจ็บที่มีอยู่
ส่วนพื้นที่ในการรักษาพยาบาล พลายศักดิ์สุรินทร์ หลังกลับมารักษาตัวที่ไทย กระทรวงฯ ได้เตรียมจัดสถานที่และทีมแพทย์เพื่อดูแลและทำการรักษาในระยะยาว คาดว่าการประสานงานเพื่อขอส่งตัวกลับ ช้าที่สุดจะถึงไทยช่วงต้นปี 2566
เบื้องต้นมีการเจรจาทางการทูตกับศรีลังกา และได้รับการยืนยันว่าไม่ขัดข้องในการนำ พลายศักดิ์สุรินทร์ กลับมารักษาที่ประเทศไทย จึงอยากให้คนไทยที่เป็นห่วงเรื่องสวัสดิภาพของช้างไทยในต่างแดน เชื่อมั่นว่ากระทรวงฯ จะพยายามนำกลับมารักษาอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อสุขภาพที่ดีของช้างไทย และไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพอันแน่นแฟ้นของไทยและศรีลังกา
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปถึงการส่งมอบ พลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยให้กับศรีลังกา เกิดขึ้นเมื่อปี 2544 เมื่อนายกรัฐมนตรีขณะนั้นเห็นชอบในหลักการที่รัฐบาลไทยส่งมอบลูกช้าง 2 เชือกให้กับศรีลังกา โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบ
จากนั้นมีการส่งมอบช้างพลาย 2 เชือก คือ 1.ช้างพลายศรีณรงค์ อายุ 5 ปี 6 เดือน มีความสูง 177 ซม. น้ำหนัก 1,158 กก. งายาว 45 ซม. 2.ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ อายุ 7 ปี มีความสูง 190 ซม. มีน้ำหนัก 1,372 กก. งายาว 50 ซม.
การส่งมอบช้างพลายในครั้งนั้นมีอธิบดีกรมป่าไม้ (ขณะนั้น) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาลไทย และเอกอัครราชทูตไทยประจำศรีลังกา ส่งมอบเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2544 ณ ทำเนียบประธานาธิบดีศรีลังกา
จนล่าสุด “Voice For Elephants Sri Lanka” องค์กรดำเนินการเพื่อพิทักษ์สิทธิสัตว์ในประเทศศรีลังกา เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลไทยเรียกคืนพลายศักดิ์สุรินทร์ เพราะเป็นห่วงเรื่งสวัสดิภาพการดูแล ท่ามกลางความไม่พร้อมด้านการรักษาช้างและการเลี้ยงดู เนื่องจากขณะนี้ศรีลังกาประสบกับปัญหาเศรษฐกิจภายในอย่างหนัก.