นับถอยหลังเหลืออีกไม่กี่วันกับการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกก็จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการประชุม “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก” หรือ "เอเปก" (APEC 2022 Thailand) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และแน่นอนว่าในฐานะเจ้าภาพ ไทยเราก็ต้องจัดหนักจัดเต็ม นอกจากประเด็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในมิติต่างๆ ที่บรรดาผู้นำชาติสมาชิกจะหารือกัน ไทยเรายังให้ความสำคัญกับเรื่องของหน้าตาและภาพลักษณ์ของประเทศ ที่เรียกได้ว่าไม่ยอมน้อยหน้า เตรียมการเรื่องนี้มาตั้งแต่ไก่โห่ โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่การประชุม ถึงขนาดที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นตรวจการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุด้วยตัวเอง 

“ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์” พาลงพื้นที่สำรวจความพร้อมของการเตรียมการต้อนรับผู้นำประเทศเขตเศรษฐกิจเอเปก โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญๆ ที่ใช้จัดประชุม อย่าง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และพื้นที่โดยรอบ นับว่าเป็นหน้าตาสำคัญของประเทศ เพราะถูกใช้เป็นศูนย์กลางในการประชุมครั้งนี้ จะมีผู้นำประเทศ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และผู้ติดตาม จาก 21 เขตเศรษฐกิจ เกือบหมื่นชีวิต จะหลั่งไหลมาที่นี่

...

อย่างที่ทราบกันดี "ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" มีการปิดปรับปรุงครั้งใหญ่มาตั้งแต่ เดือนเมษายน 2562 และกลับมาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมื่อ 12 กันยายน 2565 ด้วยพื้นที่รองรับการจัดงานขนาดใหญ่กว่า 300,000 ตารางเมตร ทำให้ที่นี่ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของการประชุมครั้งนี้ เราจึงได้เห็นภาพของการเตรียมสถานที่ ทั้งในส่วนของนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาการประชุม และการเตรียมการของเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัย เรียกได้ว่าจะเดินไปที่มุมไหนของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็จะพบกับเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราดูแลรักษาความปลอดภัยทุกจุด

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจสำหรับคนกรุงเทพฯ ก็คือ การที่การไฟฟ้านครหลวง รื้อถอนเสาไฟฟ้าที่จากเดิมตั้งเรียงรายเป็นสง่าอยู่ด้านหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฝั่งถนนรัชดาภิเษก ระยะทางกว่า 500 เมตร ก็สามารถรื้อถอนออกไปก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่วัน เพื่อเป็นการปรับทัศนียภาพ 

โดยหลังจากการรื้อถอนเสาไฟฟ้าออกไปแล้ว ก็มีการนำปูนมาเทปิดหลุมที่เกิดจากการรื้อถอนเสาไฟ เพื่อให้เรียบเสมอกับฟุตปาท แต่เมื่อมองไปยังถนนฝั่งตรงข้ามศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็ยังมีสายไฟฟ้า และเสาไฟฟ้าตั้งตระหง่านอยู่เช่นเดิม

“ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์” ยังเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ก็พบกับเจ้าหน้าที่ของ กทม. ที่นำเอาปูนมาเทปะหลุมขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ที่อยู่บนฟุตปาท เพื่อให้เรียบเสมอกัน

นอกจาก ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พื้นที่หลักของการประชุมเอเปก ยังมีพื้นที่โดยรอบที่จะใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางของเหล่าผู้นำประเทศที่เข้าร่วมประชุม ทั้งถนนราชดำริ ถนนวิทยุ ถนนเพลินจิต ถนนสุขุมวิท ถนนสาทร และถนนพระราม 4 ซึ่งเส้นทางเหล่านี้จะมีการปิดการจราจรในช่วงการประชุม นอกจากจะเป็นเส้นทางที่รถขบวนของผู้นำประเทศชาติสมาชิกเอเปกจะใช้สัญจรแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมหลายแห่ง ซึ่งใช้เป็นที่พักรับรองผู้เข้าร่วมประชุม จึงได้เห็นการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กับโรงแรม มีการตั้งจุดตรวจ ติดตั้งกล้องวงจรปิด และวางกำลังตำรวจเป็นระยะตลอดแนวถนน

...

“ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์” ลองสำรวจตามเส้นทางดังกล่าว โดยเริ่มจากหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก ไปจนถึง แยกราชประสงค์ พบว่ามีการเตรียมพร้อมกันหลายจุด โดยเฉพาะการปรับทัศนียภาพสองข้างทาง มีการประดับธงสัญลักษณ์การประชุมเอเปกตลอดทั้งสาย แต่ที่สะดุดตาก็คงจะเป็นที่แยกชิดลม มีการนำสีมาทาทับบนทางม้าลายให้มีความชัดเจนและสวยงาม ซึ่งจุดนี้ก็ถูกนำไปแชร์บนโซเชียลมีเดียจนกลายเป็นกระแสดังมาแล้ว

นอกจากถนนพื้นราบแล้ว บนทางด่วนก็ไม่แพ้กัน โดย "นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข" ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. ระบุถึงความพร้อมในการรองรับการเดินทางของผู้นำประเทศที่จะใช้ทางด่วนในการเดินทาง ทั้งการเตรียมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การกู้ภัย ปรับปรุงซ่อมแซมผิวถนน และดูแลความสะอาดของจุดพักรถ และห้องน้ำ ที่ผู้นำและผู้เข้าร่วมประชุมจะสัญจรผ่าน

...

จะเห็นว่ายิ่งใกล้วันเริ่มประชุมเอเปก ก็จะได้เห็นถึงความพร้อมและการเตรียมตัวของไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมที่คืบหน้าไปเรื่อยๆ แต่ละหน่วยงานก็ต่างตื่นตัว เร่งรัดให้งานส่วนของตัวเองออกมาดูดีที่สุด ทั้งการปรับปรุงทัศนียภาพ เข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยกันอย่างยกใหญ่ ถือเป็นการ "แต่งหน้า ทาปาก บ้านเมืองให้สวยงาม" รอต้อนรับผู้มาเยือน แต่ก็ต้องรอวัดผลหลังการประชุมกันอีกทีว่า จะประทับใจผู้มาเยือนหรือไม่?.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง