อนาคตของนักเตะหมายเลขหนึ่งของประเทศไทยอย่าง "ชนาธิป สรงกระสินธ์" รวมถึงนักเตะแห่งความหวัง "สุภโชค สารชาติ" เริ่มตกอยู่ภายใต้เครื่องหมายคำถาม หลังทั้งคู่ไม่สามารถเฉิดฉายบนศึกเจลีกได้อย่างที่ควรจะเป็น โดยในรายของ "สุภโชค" นั้น แม้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าพอใจ แต่กลับได้รับโอกาสในการลงเล่นเพียงประมาณ 10 กว่านาทีต่อนัดเท่านั้น ในขณะที่ "เจ ชนาธิป" กลับหนักกว่า สถานการณ์ล่าสุดคือ นอกจากจะตกไปเป็นตัวสำรองแล้ว บางนัดยังถึงกับไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรองอีกด้วย คำถามคือ...อะไรคือปัญหาของ 2 สุดยอดนักเตะไทยในการลงเล่นบนศึกเจลีกกันแน่? แรงกดดัน, ปรับตัวไม่ได้, เพื่อนไม่ส่งบอล หรือได้เล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดกันแน่ ในวันนี้ "คำถาม" เหล่านั้นจะได้รับ "คำตอบ" จาก "วิทยา เลาหกุล" หรือ "เฮงซัง" ผู้คร่ำหวอดวงการฟุตบอลแดนปลาดิบให้หายคาใจ

วิทยา เลาหกุล
วิทยา เลาหกุล" ผู้คร่ำหวอดวงการฟุตบอลเจลีก

...

เจลีก กับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ :

“ผลงานคือคำตอบ คนที่ดีที่สุดคือคนที่ได้ลงไปเล่น”

วิถีของมืออาชีพ คือ เมื่อได้รับโอกาสต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และคนที่ดีที่สุดคือคนที่ผู้จัดการทีมเลือกลงไปเล่นในสนาม เพราะฉะนั้นนักเตะคนไหนที่ไม่ได้ลงไปเล่น ก็คือไม่ใช่ผู้เล่นที่ดีที่สุด

นักเตะญี่ปุ่นกับนักเตะไทย :

“ฟุตบอลอาชีพสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างผู้เล่นด้วยกัน”

ความไว้วางใจระหว่างเพื่อนร่วมทีมโดยเฉพาะผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกัน (มิดฟิลด์) คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งอาจด้วยเพราะเหตุนี้ ชนาธิป จึงต้องนั่งสำรองไปก่อน ส่วน สุภโชค ได้รับโอกาสในการลงเล่นอย่างจำกัด

ชนาธิป กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล :

“เขาเล่นง่ายเกินไป ไม่กล้าที่จะเสี่ยง ลูกส่งแบบทะลุทะลวงหายไปหมด”

ปัญหาของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในเวลานี้คือเล่นแบบ Play Safe มากเกินไป การพาบอลเลี้ยงทะลุทะลวง การเปลี่ยนจังหวะเกม หรือแม้กระทั่งการจ่ายบอลแบบ Killer Pass ซึ่งเคยเป็นจุดเด่นในสมัยเล่นให้กับคอนซาโดเล ซัปโปโร มันหายไปหมด เมื่อเขาสวมได้ชุดยูนิฟอร์มคาวาซากิ ฟรอนตาเล สิ่งเหล่านี้มันสะท้อนว่า ชนาธิป น่าจะยังไม่ค่อยมีความมั่นใจสักเท่าไหร่ในเรื่องการได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ความมั่นใจหายไปจาก ชนาธิป :

“เมื่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว ห้ามลงไปเล่นในสนามด้วยความสงสัย”

ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะถูกจับไปเล่นเป็นปีกซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยถนัดนักของชนาธิปในช่วงแรก อีกทั้งเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนจบ 90 นาที ในหลายๆ แมตช์ติดต่อกัน มันเลยอาจทำให้ตัวเขาเริ่มลงไปเล่นในสนามด้วยความสงสัยในเพื่อนร่วมทีมและตำแหน่งการเล่น รวมถึงเพราะอะไรจึงต้องมาเป็นตัวสำรองเพิ่มมากขึ้นๆ ทุกที

ปริศนาการถูกเปลี่ยนตัวออกทุกๆ 60 นาที ของ ชนาธิป :

“สำหรับฟุตบอลอาชีพเมื่อลงไปในสนามแล้ว จะเล่นได้นานมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่า คุณจะสามารถสร้างโอกาสให้กับทีมได้มากน้อยแค่ไหน?”

ฟอร์มการเล่นของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล ในช่วงหลังๆ ที่ไม่มี ชนาธิป จะเห็นได้ชัดว่า Combination เก่าๆ ที่ทีมจะเล่นกดดันในแดนคู่ต่อสู้เพื่อทำลายแนวรับ จนกระทั่งส่งให้ทีมกลายเป็นมหาอำนาจของเจลีกมันคืนกลับมาทันที ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่โอกาสสำหรับ ชนาธิป ในการลงเล่นมันจึงเริ่มที่จะน้อยลง นอกเสียจาก ชนาธิป จะสามารถปรับตัว จนได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมทีมอีกครั้ง

...

ฝึกซ้อม ฝึกซ้อม และฝึกซ้อม ให้หนักมากกว่าเดิม :

สำหรับสถานการณ์ถูกจับไปนั่งข้างสนามในฐานะตัวสำรอง หรือ แม้กระทั่งไม่มีชื่อเป็นตัวสำรอง สิ่งที่ ชนาธิป ต้องทำคือ ฝึกซ้อมให้หนักขึ้นกว่าเดิมเพื่อรอโอกาสในฐานะมืออาชีพ ห้ามไปบ่นกับสื่อ หรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมทีมอย่างเด็ดขาด ก้มหน้าก้มตาฝึกให้หนักขึ้นไปอย่างเดียว แล้วเดี๋ยวเขาก็จะกลับมาได้เอง ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ของชนาธิป คือ ซ้อมให้หนัก เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการลงสนามอยู่เสมอ และเมื่อได้รับโอกาสต้องใช้ให้คุ้มค่า ด้วยการที่จะเล่นและแสดงจุดเด่นของตัวเองออกมาให้เห็นให้ได้ เพราะหากยังขืนไม่แสดงจุดเด่นของตัวเองออกมาให้เขา ชนาธิป ก็จะไม่มีโอกาสได้เล่นอยู่ต่อไป

โทรุ โอนิกิ กุนซือคาวาซากิ ฟรอนตาเล :

“ไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนในโลกเปลี่ยนทีม ในเมื่อทีมยังคงเล่นได้ดีและเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง”

ผู้จัดการทีมทุกคนจะมองที่ผลงานของนักเตะเป็นหลัก ในเมื่อผลงานดี ผู้เล่นลงตัว เขาจะใช้ผู้เล่นชุดนั้นต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อทีมสามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องเปลี่ยนทีม ฉะนั้น ชนาธิป จึงยังต้องฝึกซ้อมให้หนักเพื่อรอโอกาสต่อไป รวมถึงต้องวิเคราะห์ให้ได้ด้วยว่า ผู้จัดการทีมต้องการอะไร และตัวเขาเองควรจะต้องปรับการเล่นอย่างไร

...

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ถูกขึ้นบัญชีขาย? :

“อึม...ไม่แน่ครับผม!”

นักฟุตบอลในระดับอาชีพทั่วโลกมีอย่างหนึ่งที่เหมือนๆ กัน คือ หากไม่มีโอกาสได้ลงเล่น เขาก็คงต้องไปหาที่เล่นใหม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น แน่นอนว่าย่อมต้องมีหลายๆ สโมสรในเจลีก ต้องการตัว ชนาธิป แน่นอน ซึ่งหากใครยังจำกันได้ กรณีของ ธีราทร บุญมาทัน กับ สโมสรวิสเซล โกเบ ที่พอไปเล่นแล้วไม่คลิกกัน ก็น่าจะเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดี

สุภโชค สารชาติ กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร :

“ต้องทำงานให้หนักกว่านี้ เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับผู้จัดการทีม”

กรณีของสุภโชค ยังคงต้องพยายามทำงานให้หนักกว่านี้ และรอโอกาสต่อไป เพื่อสร้างความไว้วางใจกับผู้จัดการทีมและเพื่อนร่วมทีมให้ได้มากกว่านี้ เพราะสำหรับที่ญี่ปุ่น ทุกคนต้องเป็นมืออาชีพ

สิ่งที่ สุภโชค ยังขาดสำหรับฟุตบอลเจลีก :

“ต้องเปลี่ยนจากรุกเป็นรับ และรับเป็นรุกให้ดีกว่านี้”

...

สิ่งที่ สุภโชค ยังขาดสำหรับฟุตบอลเจลีกคือ Reaction กับเกมให้รวดเร็วกว่านี้ ซึ่งหากเขาสามารถปรับในจุดนี้ได้ โอกาสที่จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมได้มีอย่างแน่นอน

อนาคต สุภโชค กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร :

“หากอยู่ต่อ ปีหน้ามีโอกาสเป็นตัวจริง”

ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า หาก สุภโชค ยอมอยู่กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ต่อไป ปีหน้าน่าจะมีโอกาสได้ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่ปัญหาในตอนนี้คือ หาก คอนซาโดเล ซัปโปโร จะขอยืมตัวต่ออีก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าจะไม่ยอมให้ยืมตัวอีกแล้ว ขณะเดียวกัน หากผลงานในไทยลีกของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปีนี้ออกมาไม่ดี ก็ย่อมมีโอกาสสูงที่จะดึงตัว สุภโชค เอาไว้ใช้งานด้วย

แต่ในความเห็นส่วนตัวอยากให้ สุภโชค ลงเล่นในเจลีกต่อไปมากกว่า เพราะแม้จะไม่ได้อยู่กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร แต่ก็ยังมีอีกหลายๆ ทีมในเจลีก ที่ให้ความสนใจในตัว สุภโชค

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :