Nutty Where are you ?

ตอนนี้ผู้เสียหายจำนวนมากกำลังตามหาตัว นัทธมณ คงจักร์ หรือ นัตตี้ ลีอาห์ ยูทูบเบอร์เจ้าของช่อง Nutty’s Diary ที่มีผู้ติดตามกว่า 8 แสนคน และใน IG กว่า 3 แสนคน ถึงกับลงขันตั้งค่าหัวถึง 2 ล้านบาท 

จาก เน็ตไอดอล, โซเชียลแคม เดบิวต์จะเป็นศิลปินที่เกาหลี มีความสามารถในการร้องและเต้น ก่อนจะไต่ระดับเป็น “เซียน” เทรดหุ้น ผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง หาเงินล้านได้ภายในไม่กี่นาที...

นี่คือภาพลักษณ์ของสาววัย 29 ที่เวลานี้ถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีรายงานว่า มูลค่าที่มีการฉ้อโกงนั้นอาจจะสูงถึง 2 พันล้านบาท และคาดว่าเจ้าตัวอาจจะหลบหนีไปต่างประเทศแล้วโดยช่องทางธรรมชาติ

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในกองบัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.บสท.) ว่า มีการออกหมายจับ “นัตตี้” และผู้จัดการส่วนตัว ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา

ตอนนี้มีการรวบรวมผู้เสียหายไว้ 102 คน ซึ่งมูลค่าความเสียหาย ณ เวลานี้ประมาณ 30 ล้านบาท และเวลานี้มีการทยอยแจ้งความเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนประเด็นว่า ความเสียหายจะสูงถึง 2 พันล้านหรือไม่ คงต้องทยอยตรวจสอบ แต่สำหรับผู้เสียหายที่มาแจ้งกับ บช.บสท. มีมูลค่าหลักแสนถึงหลักล้านบาท ส่วนคนที่เสียหายถึง 15 ล้านตามข่าวนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของ สอท.

...

เนื่องจากมีผู้เสียหายเยอะ ทราบว่าบางส่วนมีการคืนเงินให้ไปบ้างแล้ว แต่บางส่วนก็ไม่ได้ จึงมีการแจ้งความเกิดขึ้น

สิ่งที่เจ้าหน้าที่กำลังทำ คือ การตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตอนนี้มีการไล่เช็กเงินในบัญชีของ “นัตตี้” ซึ่งทราบว่ามี 5 บัญชี ตรวจสอบได้แล้ว 3 บัญชี มีเงินรวมกันอยู่ที่ประมาณ 173,000 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ กำลังมีการตรวจสอบ

ส่วนจะมีบัญชีมากกว่านี้หรือไม่ และอีก 2 บัญชีที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ มีเงินอยู่เท่าไรนั้น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการประสานกับทางธนาคาร

พฤติกรรม “นัตตี้” กับเส้นทางชีวิต จนโดนข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”

1.สร้างโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือ
2.สร้างหลักฐานการเทรดให้ดูแล้วได้เงินจริง
3.จูงใจด้วยส่วนแบ่ง ตามอัตราส่วน เช่น 30% หรือ 40% ของเงินลงทุน ซึ่งในช่วง 3-4 เดือนแรกอาจจะได้เงินจริง แต่หลังจากนั้นก็เริ่มไม่ได้เงิน ซึ่งเป็นแบบนี้ประมาณ 91 รายที่เข้ามาแจ้งความ

นัตตี้ เริ่มต้นด้วยการเป็น “เน็ตไอดอล” มานาน จากนั้นก็พยายามอัปเกรดตัวเองว่าเป็นคนที่มีความชำนาญด้านการเทรดหุ้น โดยเริ่มโชว์การเทรดหุ้นตั้งแต่ประมาณปี 2562 ซึ่งมีการปล่อยคลิปออกมาว่า หาเงิน 4 ล้านบาท ได้ภายใน 16 นาที จากนั้นก็มีการปล่อยคลิปซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ให้แม่ ด้วยเงินสด 3 ล้าน

ประเด็นเรื่องการเทรดหุ้น และหลอกลวงประชาชน ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่มีคนทำกันมาแล้ว วิธีการดังกล่าวถือว่าคล้าย “แชร์ลูกโซ่” แปลงร่าง โดยเอาเงินคนที่หลงเชื่อมาลงทุน มาหมุนเวียนให้กัน คนที่เข้ามาทีหลังก็จะกลายเป็นเงินที่ให้กับคนที่มาลงทุนก่อน

หากมีการลงทุนจริง คงไม่มีใครกล้าการันตีให้ผลตอบแทนมากมายเท่านี้ ถึงทำได้จริง ก็จะไม่สามารถได้เงินทุกเดือน ที่สำคัญ คือ เงินเข้ามา หากมีการนำไปใช้ส่วนตัว ลูกโซ่ที่ต่อไว้ก็จะเริ่มขาด และจะไม่มีเงินหมุนกลับมา ซึ่งมันก็คือแชร์ลูกโซ่ดีๆ นี่เอง เพียงแต่มีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นการหลอกลงทุน

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่า ช่วงแรกน่าจะมีการเทรดจริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งการเทรดลักษณะนี้มันสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้น คริปโต หรือทองคำ ในประเด็นนี้คงต้องให้ผู้ต้องหาเข้ามาชี้แจงเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งทางตำรวจก็พร้อมเปิดโอกาสให้อยู่แล้ว

เส้นทางของคดี...


คดีนี้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยมี บช.สอท.5 เป็นผู้รับผิดชอบ ตอนนี้กำลังตามตัวอยู่ เพราะมีรายงานว่าหนีไปต่างประเทศ ก็ได้มีการประสานกับ ตม. เพื่อตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าไม่ได้ออกไปจากประเทศอย่างถูกต้อง ส่วนจะไปในช่องทางธรรมชาติหรือไม่ ก็คงต้องตามตัวอีกครั้ง

ขณะที่ผู้เสียหายที่มีมากขึ้น และพยายามในทุกช่องทาง เช่น บางส่วนมีทนายเป็นคนรวบรวม บางส่วนไปแจ้งความกับกองปราบ หรือกองบัญชาการสอบสวนกลาง หน่วยงานเหล่านี้ก็มีอำนาจในการทำคดีได้ เพราะยังถือเป็นต่างกรรมต่างวาระ แต่หากมีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายที่เข้าเกณฑ์ ที่จะเป็นคดีพิเศษ คดีนี้ก็อาจจะส่งไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ ซึ่งเวลานี้มีการประสานกับหลายหน่วยงาน เพื่อร่วมกันทำคดี.

...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun

อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ