“KOTA BOOM” คือ ปรากฏการณ์ “ความเปล่งประกาย” ที่เกิดขึ้นกับ “โคตะ มิอุระ” ที่ “คาซูยูกิ มิยาตะ” (Kazuyuki Miyata) อดีตนักมวยปล้ำทีมชาติญี่ปุ่นที่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็น ประธานของ BRAVE Gym และต้นสังกัดของ นักชก MMA วัย 20 ปี เป็นผู้ให้คำจำกัดความ ถึงแม้ว่า...การเผชิญหน้ากับ “บัวขาว บัญชาเมฆ” สุดยอดนักชกไทย บนเวทีมวยราชดำเนิน จะทำให้ “ดาวรุ่งพุ่งแรงผู้นี้” ต้องเผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้ในแบบชนิดที่เรียกว่า “สู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง” ก็ตาม
“ผมขอโทษ ที่ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของบัวขาวได้เลย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย อย่างที่เห็นมันเป็นไฟต์ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเรื่องระดับความสามารถกับบัวขาวได้อย่างชัดเจน” โคตะ มิอุระ กล่าวยอมรับกลางเวทีอย่างจริงใจ
...
แต่ถึงกระนั้น กระแสการตอบรับ “เจ้าชายคนใหม่แห่งวงการ MMA” อันท่วมท้นโดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย (ล่าสุดยอด followers ใน อินสตาแกรม สิ้นสุดวันที่ 21 ส.ค.) พุ่งขึ้นถึง 723,000 followers แล้ว) โดยเฉพาะ สาวๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังทำให้เส้นทางที่ “โคตะ มิอุระ” กำลังมุ่งหน้าไปสู่การ “เปล่งประกาย” ได้ด้วยตัวของเขาเอง” โดยไม่จำเป็นอาศัยชื่อเสียงของ “คาซึโยชิ มิอุระ” ผู้เป็นพ่อ กำลังเข้าสู่บทเริ่มต้นที่น่าจับตามอง
หากแต่ปรากฏการณ์ความเปล่งประกายที่เกิดขึ้น ได้ทำให้อีกหนึ่งทายาทของ “วีรบุรุษแห่งวงการฟุตบอลญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นพี่ชายของ “โคตะ มิอุระ” นามว่า “เรียวตะ มิอุระ” กำลังกลายเป็นที่น่าสนใจขึ้นมาไปโดยปริยาย
เรียวตะ มิอุระ (Ryota Miura) :
“เรียวตะ มิอุระ” ปัจจุบัน อายุ 25 ปี ลูกชายคนโตของ King Kazu และพี่ชายของ “โคตะ มิอุระ” ปัจจุบันเป็นนักแสดงในสังกัดของ "TopCoat" บริษัทเอเจนซีชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ที่มีนักแสดงระดับ Big Name ของญี่ปุ่นอย่าง Nozomi Sasaki , Masaki Suda , Junko Tamaki , Tori Mutsuzaka อยู่ในสังกัด แถมยังเคยเดบิวต์บทเล็กๆ ในซีรีส์ La Grand Maison Tokyo ที่มีนักแสดงที่สุดโด่งดังของญี่ปุ่นอย่าง "ทาคุยะ คิมูระ" (Takuya Kimura) นำแสดง ตั้งแต่ปี 2019
โดยลูกชายคนโตของตำนานลูกหนังญี่ปุ่น เข้าสู่ระบบการศึกษาของสถาบันวาเซดะ ซึ่งถือเป็นสถาบันการศึกษาเอกชนอันมีชื่อเสียงทั้งในเรื่องวิชาการและกีฬาของประเทศญี่ปุ่น มาตั้งแต่ระดับประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย และมหาวิทยาลัย ได้ตัดสินใจละทิ้งวงการฟุตบอลหลังจากเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลที่ยังไม่ชัดเจนมากนัก อย่างไรก็ดี "ริซาโกะ มิอุระ" อดีตนางแบบและนักแสดงชื่อดังผู้เป็นมารดา ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้ในบล็อกส่วนตัวของเธอว่า “แม้เรียวตะจะรีไทร์ทีมฟุตบอลแล้ว แต่เขายังคงเล่นฟุตบอล (เป็นงานอดิเรก) ต่อไป”
...
ทั้งๆ ที่...ชาวญี่ปุ่นเคยตั้งความหวังเอาไว้ว่าบางที “ทายาทคนโต” ของ King Kazu อาจเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อโดยการเบนเข็มเข้าสู่วงการฟุตบอลก็ตาม เนื่องจากเคยมีรายงานว่า “เรียวตะ มิอุระ” ชื่นชอบการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่วัยเยาว์ อีกทั้งในตอนที่อายุ 15 ปี เคยตัดสินใจเดินตามแนวทางของผู้เป็นบิดา ด้วยการเดินทางไปบราซิลเพื่อฝึกฝนการเล่นฟุตบอลในช่วงปิดเทอม รวมถึงตอนที่อายุได้ 17 ปี เคยลงเล่นให้กับสโมสรสมัครเล่นแห่งหนึ่งในโตเกียวก็ตาม
โดย “เรียวตะ” ซึ่งเริ่มเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังมาตั้งแต่ช่วงเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เคยให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่ทำให้เขาอยากเล่นฟุตบอล นั้น มาจากอิทธิพลของมังงะฟุตบอลคือเพื่อนชื่อดัง อย่าง “กัปตันซึบาสะ” เพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีพ่อที่เป็นวีรบุรุษของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น แต่มังงะเรื่องนี้สร้างความประทับใจเรื่องฟุตบอลให้กับเขาได้มากกว่า และ King Kazu เองก็ไม่เคยพยายามบังคับให้เขาเล่นฟุตบอลด้วย
โดยสื่อในญี่ปุ่น รายงานว่าในช่วงแรกที่เข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยวาเซดะ “เรียวตะ มิอุระ” ได้สมัครเข้าชมรมฟุตบอลก่อนที่จะลาออกในเวลาต่อมา และละทิ้งวงการฟุตบอลไว้เบื้องหลังตลอดกาลด้วยวัยเพียง 18 ปี โดยให้เหตุผลเพียงว่า “ต้องการเรียนด้านการแสดงเพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่วงการบันเทิง” ตามรอยทางของผู้เป็นแม่
...
“เรียวตะ มิอุระ” ให้เหตุผลถึงการตัดสินใจเพื่อมุ่งหน้าไปสู่การเป็นนักแสดงว่า “ครอบครัวของเราชื่นชอบการดูทีวีมาก และพวกเรามักจะชอบนั่งล้อมวงในห้องนั่งเล่นเพื่อดูรายการทีวีเดียวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา”
หลังจากเข้าสังกัด TopCoat แล้ว “เรียวตะ มิอุระ” มีผลงานในวงการบันเทิงของญี่ปุ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ส่วนใหญ่ยังเป็นเพียงบทสมทบเล็กๆ ก็ตาม แต่ก็เช่นเดียวกับน้องชายต้องประสบพบเจอ “รัศมีความเจิดจ้าของผู้เป็นบิดา” ยังคงทำให้ นักแสดงหนุ่มผู้นี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างสนุกปากอย่างต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆว่า “การได้รับโอกาสในวงการบันเทิง” เป็นเพราะชื่อเสียงของ King Kazu แม้ว่าตัวเขาเองจะพยายามอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองก็ตาม
โดย “โคตะ มิอุระ” เคยพูดถึงความพยายามปีนป่ายสู่ความสำเร็จในฐานะนักแสดงของพี่ชายเอาไว้ว่า “ผมเห็นพี่ชาย (เรียวตะ) ต้องใช้ความอดทนและทำงานอย่างหนักเพื่อท่องจำบทและฝึกฝนวิธีการแสดง ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พยายามบอกกับใครว่าต้องทำงานหนักแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ใกล้เขาจะสัมผัสได้ว่าเขาไม่เคยละความพยายามเพื่อทำมันให้สำเร็จ เมื่อผมเห็นพี่ทำแบบนั้น ผมจึงบอกกับตัวเองว่า ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ ฉะนั้นผมจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะอยู่กับกำปั้นของผมต่อไป (หัวเราะ)”
...
หาก “คุณ” ได้อ่านมาถึงบรรทัดนี้ รวมถึง บทความที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ โคตะ มิอุระ กับความพยายามก้าวพ้น King Kazu จะเห็นได้ว่า สำหรับ “ครอบครัวมิอุระ” แล้วสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ “ฟุตบอล” จะกลายเป็น “ประเด็นร้อน” ให้กับทุกคนในครอบครัวได้อยู่เสมอ การถูกจับจ้องจนบางครั้งอาจเกินพอดี ทำให้คนในครอบครัว King Kazu จำต้องเป็นแบกรับ “ผลลัพธ์” จากความเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลของประเทศญี่ปุ่นเช่นนี้อยู่ตลอดไป
ถึงแม้ว่า...พวกเขาจะพยายามอย่างสุดตัวเพื่อสลัดทิ้ง “เงาแห่งความยิ่งใหญ่ของ King Kazu” อย่างเต็มที่ ด้วยการปลีกตัวเองออกจากวงการฟุตบอลแล้วก็ตาม แต่ทั้ง “คำถาม” และ “การถูกเรียกขาน” จากทั้งชาวญี่ปุ่นและสื่อมวลชน ก็ยังเต็มไปด้วยคำพูดที่มีชื่อของ “คาซึโยชิ มิอุระ” เข้ามาเกี่ยวข้องได้อยู่เสมอๆ อย่างไรก็ดี ในเมื่อ “โคตะ” เริ่มมีเค้าลางไปสู่การเริ่มต้นที่ดีได้ “เรา” ก็คงต้องพยายามเอาใจช่วย “เรียวตะ” ด้วยเช่นกันว่า สักวันหนึ่ง...ชายผู้นี้จะสามารถพุ่งไปสู่จุดที่ตัวเองปรารถนาได้สำเร็จเช่นกัน!
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง