แม้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะจบฤดูกาลที่แล้ว (2021-2022) ด้วยความน่าผิดหวัง ไร้แชมป์ใดๆ ติดไม้ติดมือ และทำได้เพียง อันดับ 6 ของตาราง จนพลาดโควตาไปเล่นแชมเปียนส์ลีก รวมถึงยังพ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับสำคัญอย่าง "ลิเวอร์พูล" แบบหมดรูป ด้วยประตูรวมสองนัดในลีกถึง 9-0
หากแต่ฟอร์มส่วนตัวของ "คริสเตียโน โรนัลโด" ที่ลงเล่นให้กับ "สโมสรปิศาจแดง" กลับยังคงเปล่งปลั่งเช่นเดิม ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะอายุอานามมากถึง 36 ปี (ปัจจุบัน 37 ปี) เข้าไปแล้วก็ตาม โดยฤดูกาลที่ผ่านมา CR7 กดไปถึง 24 ประตู จากการลงเล่นให้กับปิศาจแดงรวม 37 นัด และเป็นดาวซัลโวสูงสุดของแมนฯยูไนเต็ดในทุกรายการที่ลงแข่งขัน
ซึ่งตัวเลขการทำประตูที่ว่านี้ คงเป็นเครื่องที่สามารถการันตีได้ว่า “คริสเตียโน โรนัลโด” ยังคงเป็นนักเตะในระดับท็อป และมีความสำคัญต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มกระท่อนกระแท่นเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาขนาดไหน?
...
ฉะนั้นในเมื่อมีกระแสข่าวออกมาว่า ยอดนักเตะสัญชาติโปรตุกีส เจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย ร้องขอย้ายออกจากโรงละครแห่งความฝัน ในวันนี้ “เรา” มาลองประเมินกันดูสิว่า หาก แมนยูฯ ไร้ซึ่ง “โรนัลโด” แล้ว มันจะเกิดผลกระทบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในด้านใดกันบ้าง?
ผลงานที่โรนัลโด ทำให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (2021-2022)
สถิติการลงเล่นของโรนัลโด :
ลงเล่นรวม 37 นัด แบ่งเป็น พรีเมียร์ลีก 30 นัด ลงเป็น 11 แรก 27 นัด สำรอง 3 นัด (รวมเวลาอยู่ในสนาม 2,459 นาที) ยิง 18 ประตู 3 แอสซิสต์ , แชมเปียนส์ลีก 6 นัด (รวมเวลาอยู่ในสนาม 522 นาที) ยิง 6 ประตู, เอฟเอคัพ 1 นัด (รวมเวลาอยู่ในสนาม 120 นาที)
5 อันดับดาวซัลโวของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2021-22 :
1.คริสเตียโน โรนัลโด 24 ประตู
2.บรูโน แฟร์นันด์ส 10 ประตู
3.เมสัน กรีนวูด 6 ประตู
4.เจดอน ซานโช 5 ประตู
5.มาร์คัส แรชฟอร์ด 5 ประตู
หากกองหน้ายูไนเต็ด ไม่มี โรนัลโด :
18 ประตูที่โรนัลโดยิงได้ในลีก ทำให้ยูไนเต็ดคว้าชัยชนะได้มากถึง 14 นัด จากทั้งหมด 16 นัด ในลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นมันจึงนำมาซึ่งคำถามสำคัญที่ว่า หากปิศาจแดง สูญเสีย โรนัลโด ในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ กองหน้าที่เหลือในทีมเพียง 2 คน อย่าง "มาร์คัส แรชฟอร์ด" และ "อองโตนี มาร์กซิยาล" จะสามารถทดแทนได้หรือไม่ งั้น “เรา” ไปดูผลงานของทั้งคู่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมากัน
...
1. มาร์คัส แรชฟอร์ด :
ยังคงอยู่ในสถานะนักเตะดาวรุ่งที่รอแจ้งเกิดต่อไป หลังฤดูกาลที่แล้วลงเล่นในทุกรายการรวม 31 นัด ยิง 5 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ (รวมระยะเวลาในสนาม 1,582 นาที) โดยหากนับเฉพาะผลงานในลีก ยิงได้เพียง 4 ประตู จากการลงเล่น 25 นัด (1,233 นาที) ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ 13 นัด สำรอง 12 นัด
...
2. อองโตนี มาร์กซิยาล :
ฟอร์มหลุดจนได้ลงเล่นในทุกรายการรวม 23 นัด ยิง 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ โดยในช่วงตลาดนักเตะฤดูหนาว ถูกสโมสรเซบีญา ใน ลาลีกา ยืมตัวไป อย่างไรก็ดีนอกจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บแล้วผลงานยังน่าผิดหวังด้วย เพราะจากทั้งหมด 16 นัดที่เหลือในลาลีกา ได้ลงเล่นได้เพียง 9 นัด แถมในจำนวนนี้ยังเป็นตัวจริงแค่ 7 นัด (รวมระยะเวลาในสนาม 495 นาที) และ "ไม่มีสกอร์" ส่วน 8 นัดที่ลงให้แมนยูฯในลีก (รวมระยะเวลาในสนาม 210 นาที) ยิงได้แค่ 1 ประตู
...อีกหนึ่งคนที่อยากพูดถึง เมสัน กรีนวูด :
ศูนย์หน้าดาวรุ่งมากพรสวรรค์ของอังกฤษที่น่าจับตามองที่สุดในทศวรรษนี้ เท้าซ้ายและขวายิงประตูได้เฉียบคมดุจมีดโกน หากแต่...อนาคตของเขากำลังตกอยู่ภายใต้เครื่องหมายคำถาม หลังพาตัวเองเข้าสู่ความเสื่อมทรามด้วยเรื่องนอกสนามไปอย่างน่าเสียดาย (ที่สุด) และในฤดูกาลนี้ (2022-2023) มันคงเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นเขาลงสนาม
...
ซึ่งจากสถิติของทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์กซิยาล จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ยังห่างไกลจากจุดที่ “โรนัลโด” ทำให้กับปิศาจแดงอยู่หลายขุม ด้วยเหตุนี้ หาก “CR7” เกิดโบกมือลาขึ้นมาจริงๆ “เอริค เทน ฮาก” กุนซือปิศาจแดง อาจต้องหว่านเงินก้อนโตในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ เพื่อหาทาง “ถมช่องว่างขนาดมหึมา” ที่ขาดหายไปนี้อย่างแน่นอน
หากแต่...ศูนย์หน้าระดับท็อปในตลาดนักเตะที่ฝีเท้าทัดเทียมหรือใกล้เคียงกับ โรนัลโด ยังเหลือใครที่น่าสนใจอีกหรือ? ในเมื่อ "เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์" และ "ดาร์วิน นูเญซ" สองหัวหอกวัยรุ่นพลังทำลายล้างสูง โดนทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ทุ่มเงินซื้อไปร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว
เอริค เทน ฮาก :
นายใหญ่คนใหม่ ณ โอลด์แทรฟเฟิร์ด ยืนยันว่า โรนัลโด จะยังคงเป็นคนสำคัญของยูไนเต็ดยุคใหม่ภายใต้การกุมบังเหียนของเขา หากแต่นักวิเคราะห์ลูกหนังในต่างประเทศส่วนหนึ่ง “ไม่คิดเช่นนั้น” นั่นเป็นเพราะ พวกเขาไม่เชื่อว่า โรนัลโด จะสามารถเข้ากับแผนการเล่นแบบ Total Football ที่ “เทน ฮาก” กำลังนำมาติดตั้งให้กับลูกทีมที่กำลังซ้อมปรีซีซันที่แคร์ริงตันในเวลานี้ได้
การเคลื่อนที่, ความเร็ว, และเข้ากดดันคู่ต่อสู้ด้วยเพรสซิง, ซึ่งการเล่นแบบนี้ต้องใช้พลังงานสูง ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับ โรนัลโด ที่วัยล่วงเลยถึง 37 ปีแล้ว นอกจากนี้ การจากลาของโรนัลโด จะทำให้เงินค่าเหนื่อยในทีมจะลดลงถึง 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งช่องว่างที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้ กุนซือหนุ่ม สามารถหว่านเงินซื้อนักเตะหนุ่มที่ตรงกับ “วิถีการเล่นแบบใหม่” ที่ตัวเองกำลังวางรากฐานให้กับทีมปิศาจแดงได้อย่างสบายๆ
อย่างไรก็ดี ในมุมกลับกัน นักวิเคราะห์ลูกหนังอีกส่วนหนึ่ง “คัดค้าน” ความเห็นดังกล่าวเนื่องจากเชื่อว่า หาก เอริค เทน ฮาก ทำเช่นนั้นจะเท่ากับเป็นการ “บ่มเพาะการต่อต้านจากภายใน” เพราะโรนัลโด ถือเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างสูงในห้องแต่งตัว อีกทั้งพลพรรค Red Army มีหรือที่จะยอมให้สโมสรสูญเสียสตาร์ดังผู้นี้ออกไปง่ายๆ และนั้นย่อมนำมาซึ่งแรงกดดัน และความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นแบบไม่ควรเกิดขึ้นกับ “ผู้มาใหม่”
ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญมากไปกว่านั้นคือ ในฤดูกาลที่ผ่านมา มีนักเตะแมนยูฯ คนไหน ที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ชนะ รวมถึงรีดประสิทธิภาพความทุ่มเทให้สมกับการสวมชุดยูนิฟอร์มปิศาจสามง่าม ได้มากเท่ากับ CR7 ผู้นี้อีกหรือ?
ส่วนในประเด็นเรื่องค่าเหนื่อยมหาศาลของ โรนัลโด สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือในฤดูกาลนี้แมนยูฯยุคใหม่ ได้จัดการรีดไขมันส่วนเกินออกไปจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้รวมกันแล้วถึง 13 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้ คือ นักเตะที่ค่าเหนื่อยแสนแพงแต่ติดเล่นโซเชียลมากกว่าตั้งใจเล่นบอล อย่าง “พอล ป็อกบา” รวมอยู่ด้วย ฉะนั้นเพดานค่าเหนื่อยสำหรับ “นักเตะลอตใหม่” ที่กำลังจะเข้ามาเสริมทีม ยังมีที่ว่างเหลือให้ถลุงได้อีกมากมาย
เงิน เงิน เงิน และ เงิน :
ปี 2021 ที่ผ่านมา ทันทีที่เหล่า Red Army รู้ถึงการหวนคืนถิ่นโอลด์แทรฟเฟิร์ด ยอดขายเสื้อหมายเลข 7 ประทับชื่อ Ronaldo ถูกสั่งซื้อล่วงหน้าบนหน้าเว็บไซต์ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พุ่งทะลุ 32.5 ล้านปอนด์ทันทีภายใน 12 ชั่วโมงแรกของการสั่งซื้อ ซึ่งถือเป็นยอดขายเสื้อที่ขายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ อีกทั้งยังทำให้เกิดปรากฏการณ์ การค้นหา “Ronaldo 7 Shirt” ในโลกออนไลน์ เพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงตลาดซัมเมอร์ในฤดูกาลก่อนหน้านั้นถึง 600% จนกระทั่งทำให้ยอดขายเสื้อหมายเลข 7 ของโรนัลโด ทั่วโลก พุ่งทะลุถึง 187.1 ล้านปอนด์ ซึ่งสูงกว่า คู่ปรับตลอดกาลของเขา อย่าง ลิโอเนล เมสซี ที่ทำยอดขายเสื้อหลังย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน เพียง 103.8 ล้านปอนด์
เพียงแค่นี้...คงไม่ต้องบอกแล้วมั้งว่า ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด จะทำเงินจากยอดขายสารพัดสินค้าที่แปะยี่ห้อ CR7 ได้มากมายขนาดไหน ซึ่งตัวเลขที่ว่านี้ ยังไม่นับรวม “พลังแม่เหล็กของโรนัลโด” ในการรีดเงินจากบรรดาสปอนเซอร์ต่างๆ รวมถึงยอดขายตั๋วในสนามโอลด์แทรฟเฟิร์ดตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำไป!
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก : Theerapong C.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :