คว่ำบาตรทองรัสเซีย เบรกสงครามยูเครน ไร้ผล จับตาราคาพุ่งแรงไม่หยุด

ทันทีที่กลุ่มประเทศ G7 สั่งห้ามนำเข้าทองคำจากรัสเซีย หวังกดดันให้รัสเซียหยุดโจมตียูเครนหลังพบว่าทองคำรัสเซีย มีการซื้อขายเพิ่มขึ้น จากการเลี่ยงผลกระทบจากการถูกคว่ำบาตรของชาติยุโรป และตัวเลขการส่งออกทองคำรัสเซีย มีมูลค่า 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 ถือเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 2 ซึ่งการโต้ตอบกันระหว่างชาติพันธมิตรกับรัสเซียครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำของไทย

ทองคำรัสเซีย ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอื่น

สำหรับผู้ค้าทองคำไทยอย่าง “ภัทริน วชิรคพรรณ” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ จำกัด วิเคราะห์ว่า จากการคว่ำบาตรทองคำของรัสเซีย มีกระทบต่อราคาค่อนข้างน้อย เนื่องจากรัสเซียส่งออกทองประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโลก เป็นปริมาณไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ขณะเดียวกันตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา อังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ สั่งห้ามนำเข้าทองจากรัสเซียมาก่อนแล้ว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองในภาพรวม

หากมองถึงแนวโน้มตลาดในระยะสั้น อาจทำให้ทองมีราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณทองคำแท่งในตลาดลดลง ส่วนระยะยาวยังมีหลายประเทศพร้อมรับซื้อทองคำจากรัสเซีย เช่น จีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีแนวโน้มว่า บางประเทศที่รับซื้อทองจากรัสเซีย จะนำทองที่ได้ไปหลอมเพื่อตีตราว่า เป็นทองที่ขุดได้ภายในประเทศตนเอง เพื่อทำการส่งขายต่อทำกำไร ทำให้การคว่ำบาตรของกลุ่มประเทศ G7 ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองในตลาดโลก

ด้านผู้ค้าทองในประเทศไทย ไม่มีความหวั่นวิตกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และอาจเป็นเรื่องดีในระยะสั้นที่ทองจะปรับราคาสูงขึ้น ส่วนทองรูปพรรณที่นำมาจำหน่ายในภาพรวมของตลาดยังมีปริมาณที่เพียงพอ เพราะทองคำจากแอฟริกาและออสเตรเลีย ยังเป็นแหล่งใหญ่ที่นำมาจำหน่ายในไทย

สำหรับนักลงทุน การซื้อทองคำแท่งไว้ในระยะยาวยังสามารถทำกำไรได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน ขณะที่นักลงทุนระยะสั้นควรรอดูจังหวะของตลาด เนื่องจากภาวะเงินบาท ตอนนี้ส่งผลต่อราคาทอง แต่คาดว่าจะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ

ยืนยันทองคำ ยังน่าลงทุนในระยะยาว

ด้วยราคาทองคำในตลาดโลกมีความผันผวนน้อย ทำให้การคว่ำบาตรรัสเซียครั้งนี้มีผลกระทบน้อย ในความเห็นของ “รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ” คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ประเมินว่า นอกจากสงครามการสู้รบในยูเครนแล้ว ยังมีสงครามการต่อสู้ด้านเงินตรา ที่รัสเซียและจีน พยายามรักษาเสถียรภาพทางการเงินโดยอิงกับมูลค่าของทองคำ และสกัดกั้นดอลลาร์สหรัฐ ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ประเทศคู่ค้ากับจีนหลายประเทศเริ่มซื้อขายกันด้วยเงินหยวนแทนเงินดอลลาร์

การที่กลุ่มประเทศ G7 จะทำให้ตลาดทองคำของรัสเซียไร้ค่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีจีนและอินเดีย ที่พร้อมจะซื้อทองคำจากรัสเซีย ซึ่งประเทศเหล่านี้มีการใช้ทองคำในปริมาณมาก เพื่อนำไปทำเป็นเครื่องประดับ และส่วนประกอบของอุตสาหกรรมการผลิต เช่น โทรศัพท์มือถือ

ทองคำเป็นสินค้าที่มีสภาพคล่องสูง สามารถนำไปขายในหลายประเทศทั่วโลก การคว่ำบาตรครั้งนี้จึงส่งผลกระทบระยะสั้น สำหรับนักลงทุนไทยยังสามารถซื้อเพื่อการลงทุนได้ในสภาวะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งราคาทองคำจะไม่ผันผวนสูงเหมือนตลาดหุ้นหรือคริปโต จึงเหมาะกับการลงทุนในระยะยาวมากที่สุด

ด้านข้อมูลจากการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ กล่าวถึงการคว่ำบาตรครั้งนี้ว่า ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทองคำสำคัญของโลก ทำให้การคว่ำบาตรของอังกฤษ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อรัสเซีย การสั่งห้ามนำเข้าทองคำครั้งนี้ มีผลกับทองคำที่ขุดได้ใหม่หรือสกัดใหม่ แต่ไม่มีผลกระทบกับทองคำที่เป็นของรัสเซีย ที่ได้ส่งออกมาก่อนหน้านี้

สำหรับกลุ่มประเทศ G7 (Group of Seven) ประกอบไปด้วยสมาชิก 7 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น อิตาลี และแคนาดา