- ฝีดาษลิงพบผู้ติดเชื้อรายแรกของอาเซียน ในประเทศสิงคโปร์ กำลังเข้าใกล้ไทยมากขึ้น ทำให้กรมควบคุมโรค เตรียมแผนรับมือ พร้อมสั่งวัคซีนรุ่นใหม่จากผู้ผลิตในต่างประเทศ เพื่อฉีดให้กับคนติดเชื้อ คนละ 2 โดส
- วัคซีนฝีดาษลิงรุ่นใหม่จากต่างประเทศ ยังมีข้อจำกัดเพราะผลิตน้อย ทำให้มีราคาที่สูง การสั่งจองต้องรอเวลา และต้องคำนึงถึงผลข้างเคียงกับประชาชน หากนำมาฉีดต้องเฉพาะผู้ติดเชื้อ ป้องกันไม่ให้มีอาการรุนแรง
- ไทยไม่ประมาทเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด มีการกักตัว 21 วันกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศแล้ว 10 ราย และหากมีการติดเชื้อในประเทศ จะต้องฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง เป็นอันดับแรก
โรคฝีดาษลิง กำลังแพร่กระจายในหลายประเทศทางยุโรป ซึ่งมีอาการรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์แอฟริกา ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ 1 ราย ในประเทศสิงคโปร์ ถือเป็นรายแรกของอาเซียน โดยเป็นพนักงานต้อนรับบนสายการบิน ส่วนไทยได้มีแผนเตรียมความพร้อมแล้ว หากมีการระบาดในประเทศ โดยเฉพาะการนำเข้าวัคซีนรุ่นใหม่ จากผู้ผลิตในต่างประเทศ รวมถึงการปัดฝุ่นวัคซีนไข้ทรพิษ ที่แช่แข็งเก็บไว้กว่า 40 ปี ออกมาใช้ตามความเหมาะสม โดยต้องประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
วัคซีนมีน้อย ต้องฉีดให้เฉพาะผู้ติดเชื้อเท่านั้น
“นพ.จักรรัฐ วิทยาวงศ์อานนท์” ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง ได้ขยายวงกว้างมากขึ้นในพื้นที่อเมริกาและยุโรป 45 ประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 20-30 ราย ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์แล้ว 1 ราย ขณะนี้หน่วยงานสาธารณสุขของไทย ได้เฝ้าระวังผู้ที่มีความเสี่ยง และเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์
...
สำหรับสายพันธุ์ฝีดาษลิงที่ระบาดในยุโรป มีความร้ายแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ที่แพร่กระจายอยู่ในแอฟริกา ขณะที่การติดเชื้อเป็นไปได้ยากกว่าการแพร่ระบาดของของโควิด-19 เพราะโรคฝีดาษลิง สามารถรับเชื้อจากผู้ป่วยด้วยการสัมผัสแผลบนตุ่มบนร่างกายผู้ป่วย หรือสัมผัสผ่านเยื่อบุบริเวณดวงตา เพราะจากการทดลองพบว่า แม้จะนั่งรถคันเดียวกับผู้ติดเชื้อ แต่ถ้าไม่ได้สัมผัสแผลบริเวณผิวหนังของผู้ป่วย ก็ไม่มีโอกาสติดเชื้อ
การนำวัคซีนฝีดาษมาใช้ในประเทศ ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า และการป้องกันในวงกว้างเป็นหลัก แต่ด้วยความที่โรคนี้แพร่กระจายยาก จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป ขณะเดียวกันวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง เป็นวัคซีนใหม่ยังมีราคาสูง เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศ มีการผลิตวัคซีนออกมาไม่มาก ดังนั้นการที่ไทยสั่งวัคซีน จะได้รับจำนวนจำกัด และต้องคำนึงถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หากมีการนำมาฉีดให้กับประชาชนในวงกว้าง
จากการประเมินสถานการณ์ หากมีการแพร่ระบาดในไทย มีแผนที่จะสั่งวัคซีนโรคฝีดาษลิงเข้ามา โดยจะฉีดให้กับคนที่มีอาการ เพื่อป้องกันอาการรุนแรง โดยต้องฉีดคนละ 2 โดส ขณะนี้กำลังเตรียมแผนที่จะประสานกับบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศ หากมีการแพร่ระบาดในประเทศไทย
ส่วนวัคซีนไข้ทรพิษ ที่แช่แข็งเก็บไว้กว่า 40 ปี มีการตรวจวัดประสิทธิภาพว่ายังสามารถใช้งานได้ แต่ต้องประเมินสถานการณ์อาการของผู้ป่วย หากไม่มีความจำเป็นก็จะไม่นำมาฉีด เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้
กักตัวกลุ่มเสี่ยง ไม่ให้แพร่เชื้อในประเทศ
ขณะนี้สิ่งที่สำคัญคือ ต้องป้องกันไม่ให้กลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างประเทศ มาแพร่กระจายเชื้อในประเทศไทย โดยขณะนี้มีการกักตัวกลุ่มเสี่ยงจำนวน 10 คน และผลการตรวจหาเชื้อพบว่าเป็นเพียงโรคเริมบนผิวหนังธรรมดาเท่านั้น
ด้านแนวทางการป้องกันในเบื้องต้น จะมีการแยกคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมากักตัวไว้ 21 วัน และหากมีการแพร่ระบาดที่รุนแรงในประเทศ จะต้องฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงก่อน ส่วนคนที่มีความเสี่ยงต่ำ อาจไม่ต้องกักตัว
แม้โรคฝีดาษลิงมีอาการไม่รุนแรง แต่ไม่ควรประมาท โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จะต้องทำการกักตัวทันที เพื่อไม่ให้เดินทางไปสถานที่อื่น ส่วนการฉีดวัคซีนในเด็ก ที่เป็นลักษณะเหมือนการปลูกฝีดาษในอดีต ยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มีความรุนแรง หรือแพร่กระจายในประเทศ
...
สำหรับประชาชนทั่วไป ไม่อยากให้ตื่นตระหนกกับการแพร่ระบาดของฝีดาษลิง และขณะนี้ทางกรมควบคุมโรค มีแนวทางป้องกันเตรียมพร้อมไว้แล้ว หากเกิดการแพร่ระบาดในประเทศ.
ผู้เขียน : ศราวุธ ดีหมื่นไวย์