จากดราม่ายูทูบเบอร์ชื่อดังที่นำปูเสฉวนมาเลี้ยง จนทำให้คนรักสัตว์และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมหลายคนออกมาต่อต้านจนเป็นกระแสในโลกโซเชียล วันนี้เรามาทำความรู้จัก “ปูเสฉวน” ให้มากขึ้น ว่าเจ้าตัวน้อยนี้มีความสำคัญต่อท้องทะเลไทยและระบบนิเวศอย่างไรบ้าง
ปูเสฉวน นักทำความสะอาดชายหาดแห่งท้องทะเลไทย
จำได้ไหมว่า เคยเห็นปูเสฉวนบนชายหาดทั่วไปครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 20 ปี ที่เราเคยเห็นเจ้าสัตว์ตัวน้อยนี้อยู่บนชายหาดทั่วไปอย่างพัทยา หัวหิน ชะอำ ระยอง แต่ในปัจจุบันเราแทบไม่พบเจอปูเสฉวนบนชายหาดเหล่านั้นแล้ว เว้นเสียแต่ว่าเป็นชายหาดที่เงียบสงบ ยังมีความอุดมสมบูรณ์ และไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เรายังสามารถพบเจอปูเสฉวนได้อยู่
ปูเสฉวน แม้ว่าจะอยู่ในตระกูลเดียวกับปู หรือกุ้ง แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือไม่มีเปลือกแข็งคอยห่อหุ้มป้องกันร่างกาย จึงต้องอาศัยในเปลือกหอยเปล่า โผล่เฉพาะหัวและขา 2 คู่ออกจากเปลือก ส่วนขาอีก 2 คู่ใช้ยึดกับเปลือกหอย ทำหน้าที่เป็นนักทำความสะอาดชายหาด ด้วยการกินซากพืช ซากสัตว์เป็นอาหาร มักอาศัยอยู่ตามหาดทรายชายทะเล บางชนิดอาจอาศัยอยู่ในน้ำลึก แต่บางสกุลก็อาศัยอยู่แต่เฉพาะบนบก
ด้วยเหตุนี้ ปูเสฉวน จึงมีความสำคัญต่อระบบนิเวศในธรรมชาติเป็นอย่างมาก การที่ปูเสฉวนหายไป หรือสูญพันธุ์ จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหาร เพราะปูเสฉวนทำหน้าที่เป็นผู้กำจัดซากเน่าเปื่อย แบคทีเรีย และเชื้อโรคตามชายหาด
...
เปิดสาเหตุ ทำไม ปูเสฉวน จึงหายไป
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ ปูเสฉวน หายไปจากชายหาดทะเลไทย และลดลงอย่างน่าใจหาย ก็เพราะถูกจับไปเลี้ยง หรือจับไปขายทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งความจริงแล้วปูเสฉวนไม่สามารถนำมาเลี้ยง หรือเพาะพันธุ์ได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่บอบบางและมีความซับซ้อนต่อการขยายพันธุ์ อีกทั้งการเติบโตในแต่ละครั้งจะต้องลอกคราบและเปลี่ยนเปลือกหอยใหม่ที่พอดีกับขนาดร่างกาย จึงทำให้การเลี้ยงปูเสฉวนให้อยู่รอดเป็นไปได้ยาก สิ่งที่เหมาะสมที่สุดคือการปล่อยให้อาศัยอยู่ในธรรมชาตินั่นเอง
นอกจากนี้ เรื่องมลภาวะ ธรรมชาติทรุดโทรม มลพิษที่เพิ่มขึ้น น้ำเสีย ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง การสร้างเขื่อนกันคลื่น หรืออื่นๆ ที่ทำให้ระบบนิเวศเสียหาย ที่อยู่ปูเสฉวนถูกทำลาย สิ่งแวดล้อมแย่ ก็ทำให้ปูเสฉวนหายไปเช่นกัน
กฎหมายคุ้มครอง ปูเสฉวน ยังไม่มี
ด้วยความน่ารักของเจ้าปูเสฉวนจึงทำให้มีการลักลอบจับไปขายเป็นจำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศชายหาด ขณะที่ ปูเสฉวน ยังไม่อยู่ในรายชื่อพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 จึงไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย ยกเว้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หากพบว่ามีการจับปูเสฉวนในอุทยานฯ จะมีความผิด จำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท
ดังนั้น การอนุรักษ์ปูเสฉวนให้อยู่คู่กับท้องทะเลไทยจึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ช่วยกันสอดส่องดูแลและรักษาไม่ให้ปูเสฉวนลดจำนวนลงไปกว่านี้ เพราะการจับมาเลี้ยงก็เหมือนเป็นการฆ่าปูเสฉวนไปแล้ว จากเดิมที่มีอายุตามธรรมชาติได้ 30-60 ปี ก็อาจมีชีวิตเหลือแค่เพียงวันเดียว หรือไม่กี่ปี จากการเลี้ยงที่ไม่ถูกวิธี และไม่ถูกต้องตามธรรมชาติของปูเสฉวน