หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศเกาหลีใต้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพุ่งทะยานขึ้นอย่างน่าตกตะลึงถึง 621,328 คน และเสียชีวิตมากถึง 429 ศพ ในวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา และแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในเกาหลีใต้หลังจากนั้น จะค่อยๆ ลดระดับลงจนอยู่ในระดับ 200,000 คนต่อวันได้อีกครั้ง
แต่ สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (Korea Disease Control and Prevention Agency) หรือ KDCA ยอมรับว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ลดลงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการทดสอบหาผู้ติดเชื้อลดลง จึงยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ภายในสัปดาห์นี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะมีแนวโน้มจะลดลงได้จริงหรือไม่?
โดยนักวิชาการด้านสาธารณสุขของเกาหลีใต้ ประเมินว่ามากกว่า 26% ของจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุด เป็นการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 ซึ่งสูงกว่าสัดส่วน 17% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
...
สำหรับกรณีการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเกาหลีใต้ นั้น ณ วันที่ 20 มี.ค. 2022 ทาง KDCA รายงานว่า จากจำนวนผู้เสียชีวิต 327 ศพ ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดลำดับที่ 2 รองจากตัวเลขการเสียชีวิตต่อวันสูงสุด 429 ศพ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2022 นั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 66.4% ส่วนผู้สูงอายุที่มีอายุ 60-70 ปี อยู่ที่ 8.3% และ 21.4% ตามลำดับ
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในเกาหลีใต้รุนแรงขึ้น :
1.ประเมินสายพันธุ์โอมิครอนผิดพลาด
รัฐบาลเกาหลีใต้ เริ่มค่อยๆ ลดระดับการคุมเข้มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมลงเพื่อเปิดทางไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลเกาหลีใต้มองว่า “สายพันธุ์โอมิครอน” ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา
นอกจากนี้ จำนวนประชากรเกาหลีใต้ที่ได้รับวัคซีนครบสูตรแล้ว ยังสูงถึง 44.46 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน หรือคิดเป็น 86.6% และอีกมากกว่า 32.37 ล้านคน หรือ 63.1% ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว เป็นผลให้อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ของเกาหลีใต้ในช่วงที่ผ่านมายังอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.14% ด้วย
โดยกระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ ประเมินสถานการณ์ก่อนหน้าเอาไว้ว่า คลื่นการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่นำโดยสายพันธุ์โอมิครอน จะทำให้มีผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดที่ 370,000 คน ในราวช่วงกลางเดือนมีนาคม จากนั้นจะค่อยๆ ลดลง แต่แล้วเมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายวันพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องเกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ มันจึงนำมาสู่ระบบสาธารณสุขในประเทศเข้าสู่ภาวะตึงเครียดขึ้นทันที โดยเฉพาะกลุ่มบรรดานักรบด่านหน้าอย่างหมอและพยาบาลที่อ่อนล้าเต็มที จากการรับมือกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาก่อนหน้านี้
2.ระบบสาธารณสุขเริ่มผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาด
ฝ่ายสาธารณสุขในประเทศของเกาหลีใต้ ผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโดยเฉพาะการให้ผู้มีอาการป่วยเล็กน้อยและปานกลาง ถูกขอให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และเมื่อครบกำหนดสามารถออกจากบ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจหรือแสดงผลการตรวจ PCR เพื่อหวังเร่งจัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์และการให้บริการที่มีจำกัด ไปมุ่งเน้นการดูแลกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคร่วมเป็นลำดับแรกแทน
...
3. การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้
การรณรงค์หาเสียงและการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ก่อนหน้านี้ ได้กลายเป็นการเปิดช่องให้ข้อจำกัดมาตรการควบคุมต่างๆ ถูกทลายลง โดยเฉพาะเมื่อการเมืองภายในของเกาหลีใต้ ได้พุ่งความสนใจไปที่ผลการเลือกตั้งมากกว่าการจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของโอมิครอน หนำซ้ำเมื่อการเมืองภายในเกิดความเปลี่ยนแปลง ความเข้มแข็งในการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันก็ยิ่งอ่อนแอลงไปตามลำดับ
ทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันจึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกาหลีใต้อย่างรุนแรงว่า ประเมินความรุนแรงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนผิดพลาด จนกระทั่งผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มต่างๆ เร็วเกินไป
หากแต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือภายในสัปดาห์นี้ จะมีการผ่อนปรนมาตรการ Social Distancing เพิ่มเติม เช่น การขยายระยะเวลาเคอร์ฟิวร้านอาหารออกไปเป็นเวลา 23.00 น. และเพิ่มจำนวนการรวมตัวในสถานที่สาธารณะจาก 6 คน เป็น 8 คน เพื่อหวังช่วยธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก อาจจะยิ่งเป็นการทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่
...
นอกจากนี้ การที่ “ยูน ซอค ยอล” (Yoon Suk-yeol) ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ ซึ่งเตรียมเข้าสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ได้เคยให้คำมั่นในช่วงการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ว่า จะมีการทยอยยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเนื่องจากส่งผลลบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำใหม่ถอดด้ามของเกาหลีใต้ยังได้แสดงท่าทีอันเด่นชัดในประเด็นนี้ ขณะลงพื้นที่เยี่ยมชมตลาดสดแห่งในกรุงโซล ด้วยการให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือธุรกิจท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดต่างๆ จากการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเต็มที่ นั่นจึงทำให้มีแนวโน้มสูงว่า เกาหลีใต้จะเดินหน้าลดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดมากขึ้นในเร็วๆ นี้ ถึงแม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านอย่างหนักจากแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญก็ตาม
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟฟิกโดย Varanya Phae-araya