เชื่อว่าหลายๆ คนยังคงปวดหัวกับปัญหา SMS ป่วน ชวนเล่นพนัน หรือปล่อยกู้ออนไลน์ ถึงแม้ที่ผ่านมาภาครัฐหลายหน่วยงาน ทั้ง กสทช. ที่ขู่โอเปอร์เรเตอร์อย่างค่ายมือถือให้ควบคุมดูแลแล้ว แต่ดูเหมือนก็ยังแก้ไม่ได้ซะทีเดียว
นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว เวลานี้ยังมี “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่เริ่มกลับมาระบาดอีกครั้ง คราวนี้คือหนักหน่วงกว่าเดิม ด้วยการตัดต่อเสียงตำรวจ และปลอมไอดีไลน์ เพื่อใช้ล่อลวงประชาชน
เพื่อเตือนและป้องกันเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท. โดยได้แชร์เล่ห์เหลี่ยมของแก๊งโจรเหล่านี้
2 รูปแบบ SMS หลอกลวง ปล่อยกู้ ชวนเล่นพนัน
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ บอกว่า สำหรับปัญหา SMS ที่ส่งมาหลอกลวงประชาชนมี 2 รูปแบบ
รูปแบบที่ 1 SMS ปล่อยกู้
1.ก่อนจะกู้ เราจำเป็นต้องอนุญาตให้เข้าถึงรายชื่อในโทรศัพท์เสียก่อน ถ้าเรากดอนุญาต รายชื่อเพื่อนและเบอร์ของเพื่อนเราทั้งหมดจะถูกเอาไป
2.ประชาชนจะถูกปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าความเป็นจริง ยกตัวอย่าง กู้เงิน 10,000 เราจะโดนหักเงินไปแล้ว 30-40% คือเรากู้ 1 หมื่น เราได้แค่ 6-7 พัน คือหักเงินก่อน
3.สิ่งที่เราจะเจอหลังจากนี้หากไม่ได้จ่ายเงินคืน ก็จะโทรไปขู่ทำร้ายร่างกาย ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย หากไม่ได้ พวกนี้ก็จะเอารายชื่อจากมือถือเรา โทรหาเพื่อนๆ เราที่มีรายชื่ออยู่ หรือส่ง SMS ไปทวง พวกนี้จะโทรขู่ อ้างว่าถ้าไม่ใช้หนี้ให้จะติดเครดิตบูโร
“ปัญหาที่ตามมา คือ นอกจากคนที่กู้จะเดือดร้อนแล้ว เพื่อนๆ ในรายชื่อที่อยู่ในโทรศัพท์ก็ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ด้วยเหตุนี้ สตช. จึงมีนโยบายให้เร่งปราบปราม” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว
...
ทั้งนี้ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงานได้ประสานกำลังจับกุม แก๊งเงินกู้เหล่านี้ โดยเชื่อมโยงไปยังนายทุนคนจีน โดยจ้างคนไทยมาทำหน้าที่ขู่และหลอกลวงเป้าหมาย โดยพบเส้นทางเงินและเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท
รูปแบบที่ 2 SMS ชวนเล่นพนัน
รอง ผบก.ปอท. เผยว่า รูปแบบนี้จะเบาหน่อย คือ ใครจะเล่นก็กดเข้าไป ใครไม่เล่นก็ไม่ต้องกด ซึ่งหากคนทั่วไปไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ก็ขอให้กดลบทิ้งไปได้เลย
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรลวง หลอกโอนเงิน กลับมาระบาด
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เผยว่า ปัญหา SMS ทั้ง 2 รูปแบบถือว่าเริ่มซาลงไปแล้ว เพราะที่ผ่านมาเริ่มมีการจัดการมากขึ้น โดย กสทช.ประสานกับโอเปอร์เรเตอร์ค่ายมือถือ
“แต่ที่หนักหน่วงกว่าคือแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินไปตรวจสอบ โดยเฉพาะการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ มีการจับกุมยาเสพติด โดยอาศัยเรื่องที่ประชาชนตกใจกลัว มิหนำซ้ำมันยังเอาคลิปเสียงผม ที่ผมให้สัมภาษณ์เพื่อเตือนภัยประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ แต่พวกนี้เอามาตัดต่อ นำมาหลอกลวงประชาชน ทำเหมือนว่าตำรวจไปขู่ประชาชน” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว
มิหนำซ้ำยังมีกระบวนการหลอกลวงซ้ำ หลังปล่อยเสียงตำรวจไปแล้ว ยังแอดไลน์ไปหา อ้างเป็นหน่วยงานรัฐที่จะเข้ามาช่วยเหลือ...
ที่สำคัญ โฆษก ปอท. ได้ฝากเตือนประชาชนทุกคนให้หมั่นติดตามข่าวสารอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้เทคนิคของพวกโจรมาป้องกันและรับมือ เพราะพวกโจรมันก็มีการพัฒนารูปแบบ เราจึงต้องรู้เท่าทัน
ที่ผ่านมามีคนถามเข้ามาเยอะมาก ว่าถ้ากดลิงค์ SMS ไปแล้ว เงินในบัญชีจะหายไหม ข้อมูลเราจะโดนขโมยไหม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ตอบว่า ยังไม่ได้ครับ เขาจะได้ข้อมูลเราไปก็ต่อเมื่อเราเข้าไปกรอกข้อมูล เพราะ 2 กรณี SMS กู้เงินกับพนัน คือ เราสมัครใจกรอกข้อมูล ที่ผ่านมามีการเผยแพร่ข่าวปลอม ว่ากดเข้าไปแล้วเงินหายหมดบัญชี
ส่วนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาขู่จะต้องทำยังไง โฆษก ปอท. ตอบว่า “สิ่งแรกคือต้องตั้งสติก่อน เรื่องต่อมาคือเราต้องรู้ว่าหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงาน ไม่มีนโยบายให้ประชาชน หรือผู้ต้องสงสัย โอนเงินมาให้หน่วยงานตรวจสอบ เพราะหน่วยงานมีอำนาจทางกฎหมายในการยึด อายัดบัญชีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องติดต่อกับเจ้าของบัญชี เพราะหน่วยงานรัฐสามารถประสานงานกับธนาคารได้อยู่แล้ว”.
...
ผู้เขียน : อาสาม
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ