ขอบคุณภาพและคลิปจาก TIKTOK @NBT2HD.PRD
ถ้าใครเห็นภาพนักท่องราตรีคนไทยมารวมตัวดื่มสังสรรค์ที่ถนนข้าวสาร เมื่อคืนวันที่เสาร์ที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ต้องร้องโอ้โห...เพราะเห็นมีการดื่มกิน เต้นกันอย่างสนุกสนานอย่างแน่นขนัด จนหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์และหวั่นเกรงว่าอาจจะเป็น “คลัสเตอร์” ใหม่อีกครั้ง
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสได้ลงพื้นที่สำรวจถนนข้าวสารในค่ำคืนวันที่ 15 พ.ย. และพูดคุยกับ นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ซึ่งยอมรับว่า ภาพคนเยอะมากนั้น คือ คนไทยได้เดินทางมาเที่ยว ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทางที่เราปรับ อยาก “Walking Street” ให้เป็น “Entertainment Street” เพราะการจะเป็นถนนคนเดินได้ ต้องเป็นวันที่นักท่องเที่ยวกลับมา การปรับตรงนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
...
“วันนี้นักท่องเที่ยวที่กลับมาเป็นคนไทยเป็นหลัก เพราะมีการอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มได้ถึง 3 ทุ่ม ผมเชื่อว่าคนไทยอั้นกันมานาน อยากจะดื่มฉลองบ้าง ก็เลยเป็นภาพคนมาเดินถนนข้าวสารค่อนข้างเยอะ”
เบื้องหลังก่อนเข้า ตั้งจุดคัดกรอง โชว์พาสปอร์ตวัคซีน ใครฉีดแค่เข็มเดียวต้องตรวจ ATK จ่าย 100 บาท
นายสง่า เผยว่า มาตรการความปลอดภัยของถนนข้าวสาร จะมีการจำกัดการเข้าออกหัวและท้ายถนน ใครที่ได้รับวัคซีน 2-3 เข็ม เราก็จะมีแสตมป์ที่แขนเพื่อให้เข้าได้ ส่วนใครที่ได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียว เราก็ให้ตรวจ ATK ซึ่งผู้ที่จะเข้ามา ต้องเสียค่าใช้จ่าย 100 บาท ซึ่งชุดตรวจเราซื้อมาในราคา 50 บาท ส่วนเงินอีกส่วนหนึ่ง เราจะแบ่งให้กับเจ้าหน้าที่ที่มาทำงาน ซึ่งมีพยาบาลวิชาชีพและอาสา โดยมีรถพยาบาลรอเลย
“จากการตรวจ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่เปิดประเทศ) เราเจอผู้ติดโควิดแล้ว 5 เคส เราก็ส่งแพทย์ทันที”
นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ยืนยันว่า สิ่งที่เราพยายามทำ คือ การช่วยภาครัฐอย่างเต็มที่ในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ส่วนหนึ่ง เราก็อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเราบ้าง เพราะสิ่งที่เราทำ คือ การช่วยเหลือกันเอง โดยกำลังของอาสาสมัครที่เราหามาเอง เราอยากได้กำลังคนเพิ่ม เช่น อาสาสมัครแพทย์ ซึ่งเรากำลังจะหารือกับ ผอ.เขต และเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลสถานที่มากขึ้น
รับกลัว “คลัสเตอร์” ใหม่ พยายามป้องกันให้ดีที่สุด
ทีมข่าวฯ ถามว่าวันนั้น ที่อยู่ในคลิปเผยแพร่ มีตัวเลขนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน นายสง่า เปิดเผยว่า จากการนับคร่าวๆ น่าจะมีประมาณ 3,000-4,000 คน เพราะเฉพาะคนที่ตรวจ ATK ประมาณวันละ 500 คน (ไม่รวมคนฉีดวัคซีน 2-3 เข็ม)
...
จำนวนนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ กลัวจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ที่ข้าวสาร นายสง่า ตอบทันควันเลยว่า “กลัวครับ ไม่ใช่ผมกลัวคนเดียว ผู้ประกอบการที่ถนนข้าวสารทุกคนกลัวหมด เราไม่อยากให้เกิด หรือ ล็อกดาวน์อีกรอบ แต่เราก็เข้าใจว่าทุกคนก็เหนื่อยมาทั้งปี เพราะขายของไม่ได้เลย เพิ่งมาเปิดขายเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต้องการเงินสดเข้ามาช่วยธุรกิจ
“เราพยายามป้องกันอย่างเต็มที่ ให้ทุกคนอยู่ในกรอบที่กำหนด เราพยายามบอกว่าอย่าให้ลุกขึ้นมาเต้น หรือ แออัดเกินไป แต่จากคลิปดังกล่าว คือ เราคุมไม่อยู่ ส่วนหนึ่งเพราะตรงนั้นเป็นถนนสาธารณะ”
ศบค. เลื่อน เปิดผับบาร์ 16 ม.ค. กับความรู้สึกคนกลางคืน
นายสง่า ยอมรับว่า เราเข้าใจเหตุผลของ ศบค. ที่ประกาศเลื่อนออกไป เพราะตัวเลขก็ยังไม่ได้ลดลงมาแบบมีนัย แต่สิ่งที่ ศบค. ไม่เคยออกมาพูดเลยว่า จะมีมาตรการช่วยเหลือคนกลางคืนอย่างพวกเราอย่างไร
...
“พูดอย่างเดียวคือ ปิดๆ เลื่อนๆ แต่ไม่เคยบอกเลยว่าจะช่วยอะไรบ้าง ไม่เคยออกมาพูดเลย (เน้นเสียงย้ำ) ภาครัฐเองควรทำงานเป็นทีมนะ หากมีการเสนอมาตรการนี้ อีกทีมก็ควรคิดว่าจะช่วยเขาอย่างไรด้วย อย่างน้อยช่วยผู้ประกอบการแก้ปัญหาบ้าง อย่าลืมนะครับ ว่า ศบค. รับเงินเดือนเต็ม 100% และเป็นเงินภาษีด้วย แต่ไม่เคยคิดจะช่วยอะไรเลย”
ซึ่งส่วนตัวเราพูดคุยกับคนที่ดูสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต ทุกคนเดือดร้อนหมด หมดเงินไปเยอะ ปีนี้ขายของแค่เดือนเดียว โดยผู้ประกอบการทุกคนหมดไปกับเงินเดือนพนักงานและค่าเช่าอย่างมหาศาล ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากได้ “ความรับผิดชอบ” จากภาครัฐ เช่น การลดการเก็บภาษีต่างๆ ภาษีป้าย ภาษีที่โรงเรือน แบบนี้จะเว้นให้เขาได้หรือไม่...
...
เมื่อถามว่าเวลานี้ คนต่างชาติที่เข้าประเทศไทย มาพักใน ถ.ข้าวสาร บ้างหรือไม่ นายกถนนข้าวสาร เผยว่า คนต่างชาติเข้าพักแค่ 5% ผู้ประกอบการบางส่วนยัง
สภาพต่างชาติที่เดินทางมาพักแรมที่ ถ.ข้าวสาร เวลานี้ยังน้อยอยู่ เรียกว่ามีไม่ถึง 5% ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการจะเข้าโครงการ SHA หรือ SHA+ กันหมดแล้วก็ตาม แต่ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาบ้างหากเฉลี่ยจากสายตา คิดว่าน่าจะเข้ามาพักวันละ 40-50 คน เปรียบเทียบกับสมัยก่อนไม่ได้เลย ที่วันละเกือบหมื่นคน หลายๆ โรงแรมเวลานี้ยังปิดตัวอยู่ เพราะไม่คุ้มที่จะเปิดรับ
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ