เป็นข่าวใหญ่และวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง สำหรับ ดาราดัง “เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข” นักแสดงหนุ่มเจ้าของคาร์แคร์ กับคดีขโมยไฟหลวง หลังศาลฎีกาจังหวัดฉะเชิงเทรา อ่านคำพิพากษา ให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา และถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำกลางจังหวัดฉะเชิงเทราทันที
ในชั้นศาลนักแสดงหนุ่มให้การรับสารภาพ เป็นที่มาของการลดโทษจาก 5 ปี เหลือจำคุกเพียง 1 ปี
การขโมยไฟหลวง...ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่กลุ่มคนไทยบางกลุ่มยอมเสี่ยง เพราะไม่ยอมจ่ายเงินค่าไฟตามจริง เรื่องนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายชาติชาย ภุมรินทร์ รองผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ฝ่ายธุรกิจและการตลาด
นายชาติชาย ยอมรับว่า ที่ผ่านมา การขโมยไฟหลวงใช้มีมานานแล้ว โดยในช่วง 5 ปีย้อนหลัง พบว่ามีประชาชนขโมยไฟใช้เฉลี่ย 3,500 - 3,800 ราย ซึ่งเราได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการสอดส่องตรวจสอบมิเตอร์อยู่เนืองๆ
“ปัจจุบันเรามีผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 20 ล้านราย ทุกเดือนจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปจดหน่วย พิมพ์บิลให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งการจดหน่วยถือเป็นการตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าไปในตัว ถ้าหน่วยที่จด มีอัตราต่ำผิดปกติ เราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และเปรียบเทียบกับอัตราการใช้ย้อนหลัง หากมีความผิดปกติลดน้อยลงแบบผิดสังเกต เราก็จะเข้าตรวจสอบ”
...
นายชาติชาย ยังให้ข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2563 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2564 คือ ปี 2563 มีการดำเนินคดี ผู้ที่ลักใช้ไฟ 3,609 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 172.4 ล้านบาท และตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงไตรมาส 3 (เดือนมกราคม - กันยายน) มีผู้ลักลอบใช้ไฟ 2,945 ราย คิดเป็นมูลค่า 99.6 ล้านบาท
เมื่อถามว่าส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภาคไหน นายชาติชาย ตอบว่าเป็นพื้นที่ภาคกลาง และส่วนใหญ่เป็นบ้านที่อยู่อาศัย ไม่ใช่โรงงานอุตสาหกรรม ในเบื้องต้น มีการดำเนินคดีแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คดีแพ่ง ซึ่งมีการคำนวณค่าเสียหายคิดค่าไฟย้อนหลังตามจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไฟที่เคยใช้ นอกจากนี้ ยังมีส่วนค่าปรับอีก 10,000 บาท (เฉพาะรายย่อย)
เบื้องหลังคดี ดาราดังขโมยใช้ไฟหลวง
นายชาติชาย ยังกล่าวถึงกรณี นักแสดงหนุ่มคนดังว่า คดีนี้มีความผิดชัดเจนอยู่แล้ว เพราะมีการตัดไฟไปแล้ว เพราะค้างชำระค่าไฟ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบว่ายังมีการใช้ไฟส่องสว่างอย่างปกติ
“เมื่อไปตรวจอย่างละเอียดก็พบว่ามีการ “ลักลอบต่อสายตรง” เราจึงมีการดำเนินคดีในการลักใช้กระแสไฟฟ้า ซึ่งแบ่งออกเป็นทางแพ่ง และ อาญา”
การที่เป็นคดีอาญา และตั้งแต่ในอดีตเราก็มีการดำเนินคดีบุคคลที่กระทำผิด และมีโทษตัดสินจำคุกมาแล้ว โดยเฉพาะผู้ใช้ไฟรายใหญ่ๆ หรือ รายย่อยก็ตาม ซึ่งจะโทษหนักหรือเบามันขึ้นอยู่กับลักษณะความผิด
ส่วนถามว่ามันจะโทษหนักกว่าลักขโมยทั่วไปหรือไม่ นายชาติชาติ ระบุว่า น่าจะมีฐานความผิดเดียวกันทั่วไป เพราะฐานลักขโมยย่อมมีความผิดอาญาอยู่แล้ว แต่ของที่ขโมยไป มันคือ “ทรัพย์สินของประเทศชาติ”
ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมา เราพบว่ามีการลักขโมยไฟในหลายแบบ เช่น การต่อสายตรง หรือ ดัดแปลงมิเตอร์ให้เดินแบบผิดปกติ ซึ่งการใช้วิธีนี้ถือว่าเป็นการ “ละเมิดการใช้ไฟฟ้า” ซึ่งมีความผิดทางแพ่งและอาญา หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ให้แจ้งมาที่ 1129 หรือ กฟภ. ใกล้บ้านท่าน เราจะถือว่าท่านมีความสุจริตที่จะใช้ไฟฟ้า.
...
ผู้เขียน : อาสาม
กราฟิก : Varanya Phae-araya
อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ