• กลายเป็นความหลอนเกี่ยวข้องกับเรื่องลี้ลับ กรณีสาววัย 28 ปี ไปทำบุญวันเกิด แจกของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่วัดใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท และได้ถ่ายภาพกับเพื่อนๆ บริเวณใต้ต้นกร่างยักษ์

  • เมื่อกลับไปถึงบ้าน เอาภาพถ่ายจากมือถือมาส่องดู ถึงกับขนหัวลุกซู่ เพราะใบหน้าของเธอ กลับกลายเป็นหน้าหญิงชรา ที่ไม่ใช่หน้าตัวเอง

  • ขณะที่นั่งครุ่นคิด จึงเชื่อว่าเป็นวิญญาณเดินตามขึ้นรถไปด้วย เพราะตอนจะกลับบ้านได้เรียกพี่ที่มาด้วยกันขึ้นรถ แบบลอยๆ ไม่ได้เรียกชื่อ และเห็นภาพถ่ายกดติดวิญญาณผี ซึ่งตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอ

เรื่องชวนขนหัวลุกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ต.ค. บวกกับคำบอกเล่าของชาวบ้านในพื้นที่ ยิ่งสร้างความหลอนมากขึ้น น่าจะเป็นวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นกร่างยักษ์ ขึ้นอยู่บริเวณทางสามแพร่งภายในวัด และที่ผ่านมาเคยมีคนเจอสิ่งที่มองไม่เห็นมาแล้วหลายคน

ไม่เชื่อก็อย่าลบลู่ ในที่สุดหญิงสาวรายนี้ ได้รีบเดินทางไปทำพิธีขอขมา บอกกล่าวกับวิญญาณที่เชื่อว่าสิงสถิตอยู่ที่ต้นกร่างยักษ์ เพราะขณะดูทีวีอยู่ในบ้านกับลูก จู่ๆ ทีวีก็เปลี่ยนช่องเอง จนจอกลายเป็นสีขาวดำ ยิ่งทำให้รู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น

...

ยิ่งสืบเสาะหาข้อมูลยิ่งสร้างความสยอง เพราะชาวบ้านเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว เคยมีหญิงชรารายหนึ่งโดนทำร้ายเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นกร่าง เป็นเหตุให้หญิงสาวต้องเรียกวิญญาณหญิงชรากลับขึ้นรถมาด้วย เพื่อไปส่งที่วัด พร้อมกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญไปให้

ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ ในสิ่งที่มองไม่เห็น แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน และคนไม่เคยเจออาจไม่เชื่อ แต่เมื่อเจอดีเข้าแล้วกับตัวเอง อาจขนหัวลุกเกิดความหวาดกลัว ต้องรีบไปทำบุญที่วัดให้พระรดน้ำมนต์ ปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไป ตามความเชื่อแต่ละคน

แต่ในแง่หลักการทางวิทยาศาสตร์ “รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์” หรือ อาจาร์ยอ๊อด ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้วิเคราะห์จากภาพถ่ายที่เห็น และชี้ว่าเป็นการครอปมาจากภาพถ่ายจริง ซึ่งมีบุคคลในภาพ 3 คนนั่งอยู่ท้ายกระบะ และมีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง ในเรื่องสภาพแสง โดยภาพของหญิงสาวที่อ้างว่าติดวิญญาณหญิงชรา นั่งอยู่ในด้านที่มีแสงแดด

ส่วนอีก 2 คนที่ร่วมถ่ายรูปด้วยกันนั่งอยู่ในที่ร่ม จึงไม่มีอะไรมากอย่างที่หลายคนสงสัย หรือหวาดกลัว แต่เป็นความผิดพลาดของเอไอของกล้องล้วนๆ ที่พยายามปรับจูนสภาพแสง หรือทำฟิลเตอร์ให้หน้าเนียนเท่ากันทุกคน แต่ไม่สามารถปรับฝั่งซ้ายขวาได้

เพราะคนอีกฝั่งนั่งอยู่ในร่ม มีแสงน้อย ส่วนอีกคนนั่งอยู่กลางแดดที่แสงจ้า ทำให้กล้องปรับจูนไปที่คนอยู่ตรงกลาง จนทำให้คนที่นั่งอยู่กลางแสงแดด กลายเป็นภาพที่ออกมาในลักษณะเป็นสีซีดๆ ดูได้จากสีเสื้อนั้นซีดมาก เพราะระบบเอไอของกล้องทำงานตามภาพ

“เมื่อสีซีดแล้วถ่ายเป็นเลนส์ไวด์ ก็เลยทำให้ดูอวบๆ อ้วนๆ โดยผิวหน้าที่น่าจะขาว กลายเป็นสีคล้ำ ทำให้หน้าคล้ายๆ กับคนแก่ และถ้าดูลักษณะรอยยิ้มของน้องคนนั้นก็คือตัวของน้องเอง ที่ยิ้มตรงมุมปากด้านซ้าย สรุปเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับเอไอของกล้องเฉยๆ”.

...

ผู้เขียน : ปูรณิมา