เป็นความหวังผสมปนเปกับความกังวลของใครหลายคน หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อ่านแถลงการณ์เปิดประเทศออกอากาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2564

สรุปใจความสำคัญประการหนึ่งในแถลงการณ์ฯ นายกรัฐมนตรีคือ กำหนดวันที่ 1 พฤศจิกายน เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำในการระบาดของโควิด-19 โดยไม่ต้องกักตัว และเบื้องต้นยกตัวอย่างมา 5 ประเทศ เช่น จีน สิงคโปร์ อังกฤษ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา แต่เงื่อนไขที่สำคัญคือ ฉีดวัคซีนครบโดส และมีหลักฐานแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จากประเทศต้นทาง

พล.อ.ประยุทธ์ อ่านเอกสารแถลงการณ์จบไปแล้ว แยกย้ายกันเข้านอน ท่ามกลางความสงสัยและกังวลว่า ประเทศไทยพร้อมจริงหรือในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เพราะจำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสของคนไทย ตามประเภทวัคซีนที่รัฐบาลไทยซื้อมาให้คนไทยฉีดจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม ยังฉีดได้เพียง 23,796,497 คน คิดเป็น 33 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชากรเท่านั้น ขณะที่การเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ต้อง 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร เพื่อรับมือกรณีหากเกิดการระบาดรอบใหม่ จำนวนผู้ป่วยหนักจะไม่ล้นเตียงโรงพยาบาล

แต่หลายคนบอกว่า ไม่พร้อมแต่ก็ต้องพร้อม เพราะเงินทองหายาก กำลังจะอดตายแล้ว และการเปิดประเทศเพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาน่าจะช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวมีรายได้กันบ้าง

หลายคนจึงหวังเต็มที่กับการเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายนนี้ และมองไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีน เพราะก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนมากที่สุด และยังมีผลสำรวจมากมายที่พบว่า หากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 คลี่คลายแล้ว ชาวจีนเตรียมวางแผนไปเที่ยวในประเทศย่านเอเชียแปซิฟิกมากที่สุด แม้จะยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเดินทางกันได้เมื่อไหร่

...

เรียกได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมรับนักท่องเที่ยวดังประเทศที่ระบุตัวอย่างชื่อประเทศไว้ รวมทั้งจีน แต่ในความเป็นจริงแล้วนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนอาจยังไม่พร้อม

คำเฉลยเรื่องนี้ ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (Association of Thai Travel Agents หรือ ATTA) เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ตอนนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนอาจยังไม่พร้อมเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย เพราะยังเข้มงวดกับการเดินทาง เมื่อเดินทางออกนอกประเทศ มาเที่ยวพอกลับไป ต้องกักตัวอีก 21 วัน ดังนั้นเงื่อนไขนี้ของทางการจีนจึงยังยากสำหรับไทยที่จะคาดหวังการได้นักท่องเที่ยวจากจีนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ คงต้องรอลุ้นว่าทางการจีนจะประกาศผ่อนคลายตอนไหน โดยหวังว่าจะไม่เกินต้นปีหน้า


หากพิจารณายอดการฉีดวัคซีนครบโดสของประชากรจีน พบว่า เกินกว่า 1 พันล้านคนแล้ว คิดเป็นเกินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร และยอดการติดเชื้อใหม่เฉลี่ยอยู่ในระดับหลักสิบรายเท่านั้น

แต่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังพอมีหวังจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา เมื่อดูตัวเลขจำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบโดสของประเทศที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุถึงนอกจากจีน นั้นต่างฉีดกันจำนวนประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา 66 เปอรเซ็นต์, อังกฤษ 67 เปอร์เซ็นต์, เยอรมนี 68 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีเงื่อนไขการกลับแล้วกักตัวเหมือนอย่างประเทศจีน.