จากเฟื่องกลายฟุบ "ภูเก็ต" จังหวัดที่สร้างรายได้หลายแสนล้าน กลับฝันสลาย นักท่องเที่ยวหาย เที่ยวบินลด ธุรกิจปิดตัวจำนวนมาก บรรยากาศเงียบเหงามานานกว่า 1 ปี และในวันนี้ พวกเขาพร้อมที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง กับความหวังเดียว Phuket First October ที่รอคำตอบและความมั่นใจจากภาครัฐ...

บรรยากาศของ "ภูเก็ต" ในวันที่ "ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" ได้ลงไปเยี่ยมเยือน (12-14 มี.ค. 64) ยังคงเป็นไปแบบเงียบเหงา สนามบินไม่ขวักไขว่เหมือนเช่นเคย สังเกตเห็นการปิดตัวลงของธุรกิจและร้านค้าต่างๆ ที่เรียงรายตามข้างทางได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเพ่งสายตา แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (Covid-19) ในจังหวัดตอนนี้จะคลี่คลายแล้วก็ตาม

หากเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ก็อาจบอกได้ว่า "ภูเก็ต" นั้นบาดเจ็บสาหัสมากกว่าใครๆ

โดยคาดว่า เศรษฐกิจ "ภูเก็ต" ปี 2563 จะหดตัวถึง -62.2% ซึ่งในส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด หรือ "จีพีพี" (Gross Provincial Product: GPP) ณ เดือนสิงหาคม 2563 เป็นต้นมา มีการฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นลำดับ ก่อนจะกลับมาดิ่งหนักอีกครั้งในเดือนธันวาคม และในเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา อยู่ที่ -88.5% แม้การลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐจะกลับมาเป็นบวก แต่ก็มีหลายส่วนที่ยังติดลบหนักอยู่ เช่น ภาคบริการ -89.8%, การบริโภคภาคเอกชน -64.9% และการจ้างงาน -10.4% ซึ่งประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 ของ "ภูเก็ต" ที่จะมี "ภาคบริการ" เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ได้ว่าจะขยายตัว +4.1%

คำถาม คือ แล้วสถานการณ์ของ "ภูเก็ต" ในตอนนี้เป็นอย่างไร?

...

ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ มีโอกาสได้รับฟังเสียงสะท้อนจาก นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต และนายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ในการยืนยันว่า "ภูเก็ต" ณ เวลานี้ พร้อมแล้วกับการกลับมาเปิดประตูต้อนรับ "นักท่องเที่ยว" ที่จะมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง

"ภูเก็ตเข้าสู่ภาวะการผ่อนคลายที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว ซึ่งเราก็หาทางที่จะทำอย่างไร...ในเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ให้คนออกจากประเทศตัวเอง เราก็เลยเอาคนในประเทศก่อน และก็พยายามหาวิธีว่า จะทำอย่างไรที่จะเอานักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้"

ซึ่งในส่วน "นักท่องเที่ยวต่างชาติ" เวลานี้มี "ข้อจำกัด" โดยรองผู้ว่าฯ ภูเก็ต อธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อจำกัดของนักท่องเที่ยวต่างชาติ คือ การกักตัว 14 วัน ถามว่าแล้วใครจะมา แต่หากไม่กักตัว นักท่องเที่ยวต่างชาติมาแน่นอน ตอนนี้อยากจะโปรโมตนักท่องเที่ยวคนไทยให้มาภูเก็ต ช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด บรรยากาศก็ดี สิ่งแวดล้อม แล้วก็ชายหาด แหล่งท่องเที่ยวกำลังสะอาดบริสุทธิ์ คิดว่า 1 ตุลาคมนี้ คนจะเริ่มทยอยมา ตอนนี้ถ้านักท่องเที่ยวมาก็คงมาได้น้อย เพราะจะต้องมีกระบวนการกักตัว แต่ต่อไปถ้าไม่กักตัว เชื่อว่ามาเยอะแน่นอน

ขณะที่ ข้อคำถามที่เห็นตามโซเชียลมีเดียอยู่เนืองๆ ทั่วไปว่า ที่ผ่าน "ภูเก็ตไม่รับนักท่องเที่ยวไทย" ทางนายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ก็ยืนยันว่า ภูเก็ตไม่ได้ไม่รับคนไทย ถ้านำตัวเลขของปี 2562 มากางจะเห็นว่า นักท่องเที่ยว 14 ล้านคน มีคนไทย 4 ล้านคน และชาวต่างชาติ 10 ล้านคน แต่พอคลี่จำนวนต่างชาติออกมาอีกที จะพบว่า จีนเป็นอันดับ 1 ที่ 3 ล้านคน เพราะฉะนั้น ถ้าเอามาเรียงกันเป็นรายประเทศ คนไทยมาเยี่ยมเยือนภูเก็ตเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยจีน, รัสเซีย และอินเดีย

"ระยะห่างระหว่างคนไทย 4 ล้านคน กับคนจีน 3 ล้านคน นี่ห่างกันล้านคนเลย ไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้น อาจจะมีความคิดหรือ Mindset บางอย่างที่ต้องเปลี่ยนให้ถูกต้องว่า เรารับคนไทยมาโดยตลอด และคนไทยเป็นผู้เยี่ยมเยือนอันดับ 1 ของภูเก็ตมาโดยตลอดเช่นกัน"

ทั้งนี้ หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ "เดือนตุลาคม" นี้ จะเป็นการกลับมาของ "ภูเก็ต" ในฐานะจังหวัดแสนล้านอีกครั้งอย่างแน่นอน

เพราะ "เดือนตุลาคม" ที่พูดถึงนี้จะเป็นการเดินเครื่องยุทธศาสตร์แห่งความหวังที่เรียกว่า Phuket First October ที่ "ภูเก็ต" หมายมั่นปั้นมือว่านี่จะทำให้พวกเขาสามารถฟื้นขึ้นมาได้

...

Phuket First October เป้าที่หวังไว้ของภูเก็ต

นายภูมิกิตติ์ อธิบายว่า ถ้านำปี 2562 เป็นตัวตั้ง ซึ่งมีตัวเลขนักท่องเที่ยว 14 ล้านคน เป็นคนไทย 4 ล้านคน คนต่างชาติ 10 ล้านคน ในนี้มีจีนอยู่ 3 ล้านคน, รัสเซีย 8 แสนคน, อินเดีย 3 แสนคน ที่เหลือลงมาเป็น 2 แสนปลายๆ แต่ทีนี้ 10 ล้านคนที่เป็นคนต่างชาติ สร้างเม็ดเงิน 4.1 แสนล้านบาท ส่วนคนไทย 4 ล้านคน สร้างเม็ดเงิน 5 หมื่นล้านบาท สมมติว่าไม่มีต่างชาติเข้ามา อย่างเก่งที่สุด คือ การรักษาฐานคนไทยให้อยู่ที่ 4 ล้านคน ก็คือ 5 หมื่นล้านบาทอย่างที่เคยได้มา ความยากลำบากก็เกิดขึ้น เราพบว่า คนไทยก็ไม่ได้มาภูเก็ต 4 ล้านคน เราได้ตัวเลขปี 2563 มาสักประมาณ 2.8 ล้านคน ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว

โดยกรณีที่ดีที่สุด (Best Case) ของ "ภูเก็ต" หลังจากวิกฤติโควิด-19 ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 เฉลี่ยนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าภูเก็ตเดือนละ 1.8 แสนคน ซึ่งจากที่หวังว่า เดือนมกราคมจะแตะ 2 แสนคน ก็ฝันสลายเรียบร้อย แล้วตั้งแต่นั้นมาหัวก็ดิ่งลง

"คนถามผมว่า ภูเก็ตจะฟื้นเมื่อไหร่ ผมบอกว่า 1 มีนาคมไม่เร็วกว่านั้น แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เราพบว่า สัญญาณการจอง (Booking) เริ่มเข้ามาแล้ว แม้ว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกันยังไม่ผ่าน ครม. แต่ช่วงสงกรานต์ยอด Booking ค่อนข้างดี ที่ว่าค่อนข้างดีอย่าเทียบกับอดีต ค่อนข้างดีในภาวะแบบนี้ ผมรู้สึกมันดีขึ้น คนเริ่มเดินทางเข้ามา เป็นความพยายามของหลายคนที่อยากจะช่วยให้ภูเก็ตเดินต่อไปให้ได้"

...

และ "เครื่องมือ" หนึ่งที่จะทำ "ภูเก็ต" เดินต่อไปได้ คือ "การไม่ต้องกักตัว" เหมือนเช่นที่รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต บอกไปในตอนต้น

"เราขอให้ 1 ตุลาคมนี้ นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัวได้ไหม เพราะถ้าภูเก็ตหายไป 1 ซีซัน ก็จะหายไปอีก 1 ปี นั่นจึงเป็นที่มาของยุทธศาสตร์ภูเก็ต ที่เรียกว่า Phuket First October ซึ่งเราก็ถามรัฐบาลไป 5 ข้อ และได้คำตอบมาแล้วในบางกรณี"

นายภูมิกิตติ์ ขยายความว่า "การกักตัว" กับ "การท่องเที่ยว" ไม่สามารถเกื้อหนุนกันได้เลยในทุกมิติ โดยเฉพาะ "ภูเก็ต" เพราะอัตราการพักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 วัน พอมีการกักตัว 14 วัน จะเอาอะไรไปเที่ยว ไม่มีทางเลย เมื่อก่อนเราไม่เคยมีประเด็นกับเรื่องนี้ เข้าใจดีว่า ไม่มีอะไรทำให้ไม่ต้องกักตัวได้ แต่ตอนนี้มี "วัคซีน" แล้ว เลยมีการหารือกันว่า ถ้าคนมาต้องฉีด แล้วเราเองก็ฉีดด้วย ตามทฤษฎีที่บอกว่า ฉีด 70% ของประชากรเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ทุกคนก็มองว่าเข้าท่า มองเห็นทางรอดแล้ว

ส่วน 5 ข้อที่ทาง "ภูเก็ต" ถามทางรัฐบาลมีอะไรบ้างนั้น และได้คำตอบอย่างไรบ้าง? นายภูมิกิตติ์ ตอบไล่เรียงดังนี้

...

     คำถามข้อที่ 1 นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัวเป็นไปได้หรือไม่?

คำตอบ คือ "เป็นไปได้"

     คำถามข้อที่ 1.1 วัคซีนนั้นต้องเป็นยี่ห้ออะไร?

เพราะในวันนี้ ประเทศไทยรับเฉพาะวัคซีนซิโนแวค กับแอสตราเซเนกา แต่โลกใบนี้มีมากกว่านั้นเยอะ สมมติ... คนรัสเซียฉีดสปุตนิกมา แล้วเราจะรับรองเขาไหมว่า เขาได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ในส่วนนี้ "ยังไม่ได้คำตอบ"

     คำถามข้อที่ 2 ภาครัฐจะให้วัคซีนแก่ใครบ้างในภูเก็ต?

ตอนนี้มีความชัดเจนแล้วว่า เราจะได้วัคซีนจากซิโนแวค 6.8 หมื่นโดส สำหรับประชากร 3.4 หมื่นคน อันนี้ชัดเฉพาะวัคซีนซิโนแวค ส่วนวัคซีนแอสตราเซเนกาได้ตัวเลขกลมๆ มาว่า เดือนมิถุนายน จะจ่าย 5.9 ล้านโดส แต่จะจ่ายให้ภูเก็ตเท่าไรยังไม่รู้ แล้วเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะได้อีก 9.5 ล้านโดส แต่ภูเก็ตได้เท่าไรก็ยังไม่รู้

     คำถามข้อที่ 3 ขอให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีสิทธิ์ซื้อวัคซีนเอง?

ชัดแล้วว่า "ห้ามซื้อ" แต่การห้ามซื้อตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ใช่คำสั่งของกระทรวงมหาดไทย แต่เป็นการเผยแพร่ข้อวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน

     คำถามข้อที่ 4 ขอให้องค์การอาหารและยา (อย.) เร่งขึ้นทะเบียนวัคซีน?

     คำถามข้อที่ 5 เอกชนมีสิทธิ์จะซื้อวัคซีนเองหรือไม่?

"คำตอบที่ผมได้ยินกับหู 2 ข้างของตัวเอง ในที่ประชุมใหญ่เมื่อวันพุธ (10 มี.ค.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประกาศว่า นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม แล้วจะไม่ได้รับการกักตัวตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป อันนี้ชัดเจน"

ขณะที่ นายธนูศักดิ์ สะท้อนว่า วิกฤติโควิด-19 เกิดแรงกดดันต่อภาคท่องเที่ยวมากที่สุด โรงแรมปิดทันที สาหัสมากในความรู้สึก อยู่ๆ เงินหายทันทีเลย โดย 1 มีนาคม 2563 ตกงาน 1.9 แสนคน รัฐบาลจ่ายเงินประกันสังคมไม่ทัน ใช้เวลาจ่ายเงินปีนึง แล้วสุดท้ายคนหายไปจากเกาะอีกเท่าไร บางคนกลับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ แล้ววันนี้ "ป่าตอง" กลายเป็นเมืองที่ไม่มีแสงสี ซึ่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) สำรวจรายได้ของประชากรบนเกาะภูเก็ต พบว่า ต่ำกว่าอันดับความยากจนของประเทศ โดยความยากจนของประเทศเฉลี่ยรายได้ประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน ของภูเก็ตเหลือ 1,972 บาทต่อเดือน จากที่ "ภูเก็ต" เคยมีรายได้ที่ทำงานกันหนักมาตลอดปี 4 แสนล้านบาท ภูเก็ตไม่ได้ใช้คนเดียว แต่ได้งบแค่ตามรายหัวประชากร ซึ่งคนภูเก็ตลงทะเบียนอยู่ 4.17 แสนคน มีประชากรแฝงเกือบล้านคน

"ภูเก็ตพร้อมจะเป็นเมืองปั๊มเงินต่อไป แต่ขอให้เอานโยบายที่เราทำกันมา ทำเลยอย่ารอได้ไหม ภูเก็ตเป็นตัวแทนประเทศได้ ทำไมภูเก็ตถึงคิดจะเปิดเมืองให้ได้ 1 ตุลาคม เพราะภูเก็ตมีถนนเส้นเดียวเข้าเกาะ สนามบินเดียว โรงแรมเยอะ เมืองพร้อมรับคนได้ ถ้าเราสามารถไม่กักตัวได้ และฉีดวัคซีนคนภูเก็ตครบ วันนี้คนภูเก็ตอาสาที่จะไปต่อ อาสาที่จะขับเคลื่อนประเทศให้ก่อนคนอื่น"

นายภูมิกิตติ์ เสริมว่า เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่อง "ความหวัง" ถ้าวันนี้คนไม่มีความหวัง ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นเลย อนาคตไม่มีแล้ว ซึ่ง Phuket First October ต้องจุดความหวังให้คนเดินต่อให้ได้ พอคนมีความหวัง ถ้าเรารู้ว่า 1 ตุลาคม เปิดไม่กักตัว เรื่องกลับมาเปิดไม่ยาก คนมีความหวังเรื่องการกลับมาก็ไม่ยาก แล้ววันนี้ธนาคารก็โทรหาแล้ว เปิดแน่นะ ไม่กักตัวแน่นะ ที่ผ่านมาไม่กล้าปล่อย เพราะไม่รู้จะคืนเมื่อไร โอกาสจะเดินต่อยังไง

เช่นเดียวกับ นายธนูศักดิ์ ที่กล่าวทิ้งท้ายถึง Phuket First October ว่า มีการพูดเมื่อเดือนมกราคม พูดให้รัฐบาลเตรียมตัวล่วงหน้าเกือบ 9 เดือน ให้รัฐบาลไปเตรียมแผนในการเปิดให้ภูเก็ต 9 เดือน เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเราต้องการความหวัง พอมีความหวังพี่ๆ น้องๆ คนภูเก็ตเขาก็จะไปซ่อมเรือ เขาก็จะไปขัดบ้าน เตรียมพร้อมสร้างโรงแรม เตรียมโรงแรม หรือไปกู้มาซ่อมแพ หรือขัดรถให้ใหม่ เตรียมรอ แต่ถ้าวันนี้เดือนตุลาคมจะเปิดแล้วมาบอกเดือนกันยายน ก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว มันก็ไม่มีทางจะไปหาคน

"ถ้ารู้ว่าเปิด แผนมาแน่นอน วิธีการรับสมัครเข้ามาใหม่ จะต้องเชิญเขากลับมา เรียกลูกน้องเก่ากลับมา หรือลงทุนเอาเงินไปทำรถ เรือ เตรียมความพร้อมที่จะไปต่อ ตอนนี้ทราบไหมครับว่า 1 แสนกว่าห้อง เปิดอยู่ประมาณ 1 หมื่นกว่าห้อง แล้วจะทำอะไรได้ ต้องมีแผนครับ เราต้องไม่ทำแบบเดิม เราต้องไม่ทำเมื่อถึงเวลาแล้วค่อยทำ หรือมีปัญหาแล้วค่อยทำ เราต้องทำก่อนทุกอย่างมันจะเกิดปัญหา"

ก่อนที่ยุทธศาสตร์แห่งความหวัง (ครั้งสุดท้าย) ของ "ภูเก็ต" อย่าง Phuket First October จะได้ทำตามฝัน ในระหว่างนี้ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่คนไทยจะเดินทางไปเยี่ยมเยือนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ เพราะจากที่ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ได้ไปสัมผัสมาด้วยสายตาตัวเอง บอกได้เลยว่า ยามนี้ "ภูเก็ต" งดงามมากจริงๆ.

ข่าวน่าสนใจ:

ข้อมูลอ้างอิง:

  • รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังจังหวัดภูเก็ต ประจำเดือนมกราคม 2564 โดยสำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต
  • รายงานประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ไตรมาสที่ 4/2563 โดยสำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต