ชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน อาจจากลาโลกไปกะทันหันไม่มีใครรู้ล่วงหน้า และควรทำพินัยกรรมเอาไว้ แม้กฎหมายไม่ได้บังคับ แต่เพื่อเตรียมพร้อมในการยกสมบัติทรัพย์สิน หรือมอบสิทธิ์อันใดให้กับใครก็สามารถทำได้

เรื่องของการทำ "พินัยกรรม" เป็นที่สนใจขึ้นมา เมื่อ “หญิงลี ศรีจุมพล” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ออกมาอัดคลิปแจกแจงสมบัติที่มีอยู่ และหากเสียชีวิตไปก่อนมีทายาท จะยกทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท ให้เป็นของสาธารณกุศล โดยส่งต่อหน้าที่ให้ “ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง เป็นผู้จัดการ

ในกรณีของ “หญิงลี” จะถือว่าเป็นการทำพินัยกรรมโดยสมบูรณ์หรือไม่ ด้าน "ทนายเจมส์" นิติธร แก้วโต ผู้ได้รับฉายา “ทนายซุป'ตาร์” ไขข้อข้องใจประเด็นนี้ กับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า การที่ “หญิงลี” อัดคลิปจะยกทรัพย์สินให้ใคร เป็นการทำพินัยกรรมไม่สมบูรณ์ เป็นการสั่งเสียก่อนตาย ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย เพราะไม่ได้เข้าลักษณะทั้ง 5 รูปแบบในการทำพินัยกรรมตามกฎหมาย แม้มีคนรับรู้ได้เห็นคลิป หรือส่งต่อให้ใครเป็นผู้จัดการก็ตาม

...

ทำไม? การทำพินัยกรรมของ “หญิงลี” ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากกฎหมายกำหนดการทำพินัยกรรมไว้ 5 รูปแบบ คือ 1.เขียนเองด้วยลายมือตัวเองทั้งฉบับ ไม่จำเป็นต้องมีพยาน 2.พิมพ์พินัยกรรมเองในกระดาษ ต้องมีคนเซ็นเป็นพยานอย่างน้อย 2 คน 3.พินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง ต้องไปทำที่เขตหรืออำเภอ มีพยานอย่างน้อย 2 คน

4.พินัยกรรมแบบเอกสารลับ ต้องไปทำที่เขตหรืออำเภอ มีพยานอย่างน้อย 2 คน และ 5.พินัยกรรมทำด้วยวาจา กรณีมีพฤติการณ์พิเศษ เช่น ประสบอุบัติเหตุใกล้ตาย สามารถอัดคลิปด้วยวาจา แต่ต้องมีพยานอย่างน้อย 2 คน ในที่เกิดเหตุ และพยานต้องไปแจ้งต่อที่เขตหรืออำเภอโดยไม่ชักช้า ซึ่งหมายความว่าต้องรีบไป เพื่อเอาข้อความจากผู้ทำพินัยกรรมไปบอกเจ้าหน้าที่รัฐให้จดข้อความ และพยาน 2 คนต้องลงลายมือชื่อไว้

ในกรณีของ “หญิงลี” แม้ใกล้เคียงกับรูปแบบที่ 5 มีการอัดคลิปด้วยวาจา แต่ไม่ได้อยู่ในกรณีพฤติการณ์พิเศษ ซึ่งกฎหมายได้ป้องกันเอาไว้ไม่ให้เกิดช่องโหว่ เพราะอาจมีคนเอาปืนมาจ่อหัวให้พูดก็ได้ และขณะพูดอัดคลิปในกรณีปกติ ต้องมีพยานอย่างน้อย 2 คน เพื่อยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีอาการป่วย และปราศจากการข่มขู่หลอกลวง

“ทนายซุป'ตาร์” ยกตัวอย่างการทำพินัยกรรมในโรงพยาบาล ซึ่งบางคนทำไป 4 วันแล้วตาย จะมีอะไรมายืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะ ดังนั้นต้องมีแพทย์มาเป็นพยาน หรือคนธรรมดาก็ได้ แต่เป็นแพทย์จะดีที่สุด เพื่อป้องกันการคลางแคลงใจ หรือหากทำพินัยกรรมวันนี้ และพรุ่งนี้ตาย อาจสร้างความสงสัยคลางแคลงใจให้กับคนในครอบครัวก็ได้

กรณีพินัยกรรมไม่สมบูรณ์ เมื่อเสียชีวิตไป ทรัพย์สมบัติก็ตกเป็นของทายาทโดยธรรมตามปกติอยู่แล้ว เช่น ลูก หรือหากไม่มีลูก ก็ตกเป็นของพ่อแม่ หรือไม่มีพ่อแม่ ก็ตกเป็นของพี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน เรียงลำดับจากใกล้ชิดสนิทที่สุด

“การอัดคลิปของหญิงลี ก็อยู่ที่ว่าทายาทผู้รับมรดกจะทำตาม หรือไม่ทำตามก็ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของเขา อยู่ที่การตัดสินใจของผู้รับมรดก เพราะเป็นการสั่งเสียก่อนตาย ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย”.