สถานการณ์การระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อโควิดในประเทศไทย มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหลักร้อยต่อวัน สร้างความกังวลให้กับผู้คนทั่วไป ต้องระมัดระวังและป้องกันตัวเอง ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีประชาชนส่วนหนึ่งได้ใช้สิทธิจองห้องพักผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และชำระเงินไปแล้ว ต้องการเลื่อนการเดินทาง และบางส่วนต้องการเงินคืน ได้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่?

 

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงเพื่อคลายข้อสงสัยผ่าน “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงหลักเกณฑ์ และพยายามพูดคุยกับผู้ประกอบการ ให้ผู้ใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” สามารถเลื่อนการเข้าพักออกไปได้ 6 เดือน ถึง 1 ปี โดยไม่ผิดเงื่อนไขของโครงการ เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ ส่วนกรณีขอเงินคืนนั้น ต้องขอชี้แจงว่า เป็นการใช้สิทธิ์ไปแล้ว โดยรัฐให้เงินอุดหนุน 40% ของมูลค่าที่พัก จึงไม่สามารถทำได้

...

ในกรณีนี้คงต้องให้ผู้ใช้สิทธิ์เจรจาโดยตรงกับผู้ประกอบการ เพราะมองว่ามีหลายอย่างสามารถพัฒนาปรับปรุงให้เอื้อกับระบบสาธารณสุข หากสามารถควบคุมเชื้อโควิดไม่ให้แพร่ระบาดได้เร็ว เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยว เพราะจากประสบการณ์ในการแพร่ระบาดในช่วงแรก เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย นำไปสู่การเปิดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” พบว่ามีคนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ 6-7 ล้านคน

“สถานการณ์โควิดเราเคยเจอมาแล้วเมื่อช่วงแรก ก่อผลกระทบเป็นวงกว้าง กระทั่งมีการระบาดอีกครั้งนี้ จึงมีการพิจารณาอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ พยายามเยียวยาทั้งสองฝ่าย ผ่านการหารือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ ให้อิงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด”

สำหรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 2 ซึ่งเปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. จำนวน 1 ล้านสิทธิ์ ยอมรับอาจหยุดชะงักไป เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดรอบใหม่ แต่ยังเชื่อว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิ์จะเป็นไปตามเป้าโดยเฟส 1 จำนวน 5 ล้านสิทธิ์ และเฟส 2 จำนวน 1 ล้านสิทธิ์ แม้ว่าการระบาดครั้งนี้มีความรุนแรงกว่าช่วงแรก แต่หากคนไทยร่วมมือร่วมใจป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด เชื่อว่าการท่องเที่ยวยังเดินหน้าไปได้

"ปี 2564 ตั้งเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยว 100 ล้านคน และท่ามกลางโควิดระบาด หากได้ 90 ล้านคนก็ถือว่าเก่งแล้ว คาดว่าจะได้เม็ดเงินประมาณ 4-5 แสนล้านบาท และแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในหลายรูปแบบที่เคยวางไว้ ยังคงมีอยู่ เนื่องจากมองในแง่บวกเชื่อว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้น ซึ่งจะเปิดประเทศในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้".