เปิดด่านสุดหิน สุนัข K9 USAR ฝึกเข้ม 2 ปี ฝ่าแรงกดดัน ไม่ใช่ทุกตัวจะผ่านเกณฑ์ เผยขั้นตอนคัดเลือกผ่านแค่ 10% ต้องมีพรสวรรค์ทั้งการดมกลิ่น ฟังเสียง ความไวของสายตาในการค้นหาที่มืด ด้านผู้ควบคุมสำคัญทุกเสี้ยววินาที

ซากตึกพังทลายทับถมเป็นเศษเหล็ก แผ่นปูนกอง ลักษณะภูเขาขนาดยักษ์ เป็นสภาพตึก สตง. ในพื้นที่จตุจักร กรุงเทพฯ หลังถูกแผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค. 2568 จนมีผู้สูญหายหลายร้อยคน หนึ่งในความช่วยเหลือสำคัญ คือทีมสุนัขค้นหาที่ช่วยดมกลิ่นหาผู้สูญหาย จนมีหลายชีวิตรอดมาได้

ปฏิบัติการช่วยชีวิตของสุนัขค้นหา K9 USAR THAILAND ตลอด 11 วัน เป็นไปด้วยความเข้มแข็ง แต่กว่าสุนัขเหล่านี้จะออกมาค้นหาในพื้นที่ภัยพิบัติได้ ต้องผ่านการคัดเลือกและฝึกฝนอย่างหนักกว่า 2 ปี

สุนัข K9 USAR ฝึกเข้ม 2 ปี ภารกิจสุดหินกลางซากตึก สตง.

สุทธิเกียรติ โสภณิก ผู้อำนวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ K9 USAR THAILAND ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า การฝึกสุนัขช่วยค้นหาในเหตุภัยพิบัติ เช่น ตึกถล่ม แผ่นดินไหว มีการฝึกแตกต่างจากสุนัขทั่วไป ต้องใช้ความอดทนของผู้ควบคุม และสุนัขต้องมีร่างกายแข็งแรง ส่วนสุนัขต้องมีพรสวรรค์ในการรับกลิ่น สายตาสำรวจค้นหาที่แตกต่างจากตัวอื่น

...

รวมถึงทักษะการฟังเสียง หากสุนัขมีองค์ประกอบนี้ ถือเป็นสุนัขที่มีความพิเศษ ซึ่งไม่เกี่ยวกับสายพันธุ์

สุนัข K9 USAR ฝึกเข้ม 2 ปี ภารกิจสุดหินกลางซากตึก สตง.

“ถ้าสุนัขไม่มีใจรักในการค้นหา ฝึกไปเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล สิ่งสำคัญของสุนัขที่ผ่านการฝึกนี้ สามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะสุนัขมีประสาทการได้กลิ่นมากกว่าคน แต่คนมีความเฉลียวฉลาดมากกว่า ดังนั้น คนที่ควบคุมสุนัขต้องทำอย่างไร ให้สุนัขใช้จมูกดมกลิ่น และการได้ยินเพิ่มขึ้นจากความเป็นปกติ ตัวอย่างเช่น ในห้องที่ปิดไฟมืด คนเข้ามาไม่เห็นอะไร แต่ถ้าสุนัขเข้ามา จะเปลี่ยนประสาทสัมผัสจากการมองเห็นมาเป็นการได้กลิ่น”

สุนัข K9 USAR ฝึกเข้ม 2 ปี ภารกิจสุดหินกลางซากตึก สตง.

จากประสบการณ์ฝึกสุนัขในการค้นหามากว่า 20 ปี พบว่า สุนัขใช้ประสาทสัมผัสผ่านดวงตาก่อน หากมองไม่เห็นจะใช้การดมกลิ่น ตัวอย่างเช่น การค้นหามนุษย์ในเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม ร่างผู้ประสบภัยมักถูกฝังไว้ในโคลน แต่ถ้าใช้สุนัขค้นหา ผู้ควบคุมจะสั่งให้สุนัขใช้การดมกลิ่นเพื่อค้นหาผู้สูญหายแทน

สุนัข K9 USAR ฝึกเข้ม 2 ปี ภารกิจสุดหินกลางซากตึก สตง.

ส่วนการค้นหาในพื้นที่ป่า หากเป็นช่วงเวลากลางคืน จะใช้สุนัขในการค้นหาได้มีประสิทธิภาพ เพราะกลางคืนอากาศเย็น สุนัขจะรู้สึกสบายตัวกว่า เมื่ออากาศเย็น กลิ่นต่างๆ จะไม่ลอยขึ้นสูง ทำให้การดมกลิ่นมีความแม่นยำ ที่สำคัญดวงตาสุนัขมองเห็นสีขาวกับดำได้ดี ทำให้สุนัขสามารถมองเห็นในสถานการณ์ทึบแสงได้ดีกว่ามนุษย์ แต่กลางคืนไม่เหมาะกับการค้นหากลางซากปรักหักพัง เพราะสุนัขและผู้ควบคุมอาจได้รับอันตรายจากเศษวัสดุ

สุนัข K9 USAR ฝึกเข้ม 2 ปี ภารกิจสุดหินกลางซากตึก สตง.

...

สุนัขค้นหาใช้ตั้งแต่อายุ 18 เดือน – 10 ปี หากมีอายุมากกว่านี้ จะมีปัญหาการเดินและวิ่ง การเลือกใช้สุนัขแต่ละช่วงอายุ ต้องคำนึงถึงสถานการณ์ หากเป็นงานค้นหาในตึกถล่มที่มีความซับซ้อน ต้องใช้สุนัขอายุมาก เพราะมีประสบการณ์ในการค้นหา

การฝึกสุนัขในการค้นหาให้มีประสิทธิภาพต้องผ่านการฝึกมาไม่ต่ำกว่า 2 ปี ในองค์กรมีการประเมินสุนัขที่ผ่านการฝึกด้วย มาตรฐานระดับโลก มีสุนัขที่ผ่านการประเมินแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ต่างจากสุนัขที่ใช้ดมหายาเสพติด ฝึกเพียง 6 เดือน สามารถออกปฏิบัติหน้าที่ได้

สุนัข K9 USAR ฝึกเข้ม 2 ปี ภารกิจสุดหินกลางซากตึก สตง.

สิ่งที่เป็นปัญหาในการฝึกสุนัขค้นหา ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากสุนัข แต่มาจากตัวผู้ควบคุม หลายคนไม่ว่างมาฝึกอย่างต่อเนื่อง หรือบางคนทนความเหนื่อยหนักไม่ไหว แต่มีบางคนที่มาฝึกเพื่อหวังนำทักษะนี้ไปต่อยอดในการหารายได้ ทั้งที่จริงแล้วทักษะการฝึกสุนัขแบบนี้ คนที่ฝึกและสุนัขต้องมีจิตใจสาธารณะ หากคาดหวังในเชิงธุรกิจ ก็ยากจะประสบความสำเร็จ เพราะการฝึกเพื่อค้นหา แตกต่างจากการฝึกสุนัขไว้โชว์


ภาพบางส่วนจาก เพจ K9 USAR THAILAND