เปิดมหากาพย์ "กรุ๊ปแชตหลุด" เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ เผลอดึงนักข่าวเข้ากลุ่มแชตลับทางทหาร

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา เกิดกรณีข่าวฉาวสะเทือนทำเนียบขาว เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เผลอดึงนักข่าวเข้ากลุ่มแชตที่มีการพูดถึงแผนการโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีโดยไม่ตั้งใจ จนเกิดการตั้งคำถามถึงความหละหลวมในการทำงาน และมาตรการความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลลับ ที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงให้อ่านกัน

1. เรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่ “เจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก” บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เผยแพร่บทความชื่อว่า “The Trump Administration Accidentally Texted Me Its War Plans” หรือ “รัฐบาลทรัมป์เผลอส่งแผนสงครามมาให้ผมโดยบังเอิญ” โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ตนได้รับคำขอเชื่อมต่อในแอป Signal จากคนที่ชื่อ “ไมค์ วอลซ์” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ

ต่อมา 13 มี.ค. โกลด์เบิร์กถูกไมค์ วอลซ์ดึงเข้ากลุ่มแชตชื่อว่า "Houthi PC small group" ในกลุ่มมีสมาชิกทั้งหมดรวม 18 คน และมีชื่อของคนที่ตรงกับบุคคลสำคัญในรัฐบาลหลายคน เช่น เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี, พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม, จอห์น แรดคลิฟฟ์ ผอ. CIA เป็นต้น

เนื้อหาในกลุ่มแชตได้พูดถึงรายละเอียดของปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อกลุ่มกบฏฮูตีในประเทศเยเมน โดยมีการระบุข้อมูลเป้าหมาย อาวุธที่จะใช้ และลำดับการโจมตี โดยตอนแรกโกลด์เบิร์กยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าข้อมูลในกลุ่มแชตเป็นของจริง ก่อนที่ต่อมา 15 มีนาคม จะมีรายงานการโจมตีในประเทศเยเมนที่สอดคล้องกับข้อมูลที่อยู่ในกลุ่มแชต ต่อมา 24 มี.ค. โกลด์เบิร์กจึงได้นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้เผยแพร่รายละเอียดของข้อมูลการปฏิบัติงานที่ละเอียดอ่อน

2. ไบรอัน ฮิวจ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุในแถลงการณ์ยอมรับว่าข้อความนี้เป็นของจริงแต่กำลังตรวจสอบว่านักข่าวถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มได้อย่างไร โดยชี้แจงว่าบทสนทนาแสดงให้เห็นถึงการประสานงานเชิงนโยบายที่ลึกซึ้งและรอบคอบของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และความสำเร็จของปฏิบัติการต่อกลุ่มฮูตี แสดงให้เห็นว่าไม่มีภัยคุกคามต่อทหารหรือความมั่นคงของชาติ

ขณะที่ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ยอมรับว่าเป็นคนสร้างกลุ่มแชตจริง แต่ยืนยันว่าตนไม่มีข้อมูลติดต่อของโกลด์เบิร์ก และไม่รู้ว่าเขาถูกเพิ่มเข้ามาในกลุ่มแชตได้อย่างไร ด้านพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธว่าไม่มีการส่งข้อความที่เกี่ยวกับแผนสงคราม 

3.ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ไม่ทราบถึงกลุ่มแชตที่เกิดขึ้น แต่มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แชตหลุดก็ไม่น่ามีผลกระทบอะไรมากเพราะการโจมตีก็ประสบความสำเร็จ

ทรัมป์ ยังได้ปกป้อง ไมค์ วอลซ์ ว่าเขาเป็นคนดี ทำงานดี ตอนนี้ได้รับและไม่คิดว่าจำเป็นต้องออกมาขอโทษ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบและก็คงไม่ใช้มันอีกในอนาคต

4.วันที่ 25 มี.ค. 2025 ในคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภา ได้ให้ ทุลซี แกบเบิร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ และ จอห์น แรดคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) ซึ่งเป็น 2 คนที่อยู่ในกลุ่มแชตดังกล่าวชี้แจง

แกบเบิร์ด ถูกวุฒิสมาชิกมาร์ค วอร์เนอร์ จากพรรคเดโมแครต สอบถามว่าเธออยู่ในกลุ่มแชตร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ และพูดคุยถึงแผนสงครามในเยเมนหรือไม่ ในตอนแรกเธอปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด อ้างว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนที่ต่อมาเธอได้กล่าวว่าไม่มีข้อมูลลับใดๆ ถูกแชร์ในกลุ่มแชต

ขณะที่ แรดคลิฟฟ์ ที่เคยยอมรับไปก่อนหน้านี้ว่าอยู่ในกลุ่มแชตจริง ได้อ้างว่าการใช้งาน Signal ได้รับการอนุญาตตั้งแต่สมัยรัฐบาลไบเดน และยืนยันว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ถือว่ามีความปลอดภัยในการใช้งานภายใน CIA ตราบใดที่การตัดสินใจในแชตได้ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการ

4.สมาชิกสภาคองเกรส โดยเฉพาะจากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาแสดงความกังวลถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความที่อาจไม่ปลอดภัยในการหารือประเด็นที่ละเอียดอ่อน และส่งข้อมูลลับที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ และเรียกร้องให้มีการสอบสวนเต็มรูปแบบ

ชัค ชูเมอร์ ผู้นำ สว.เดโมแครต เรียกร้องให้มีการสอบสวนเต็มรูปแบบ บอกว่านี่เป็นหนึ่งในการละเมิดข่าวกรองทางทหารที่น่าตกใจที่สุดที่ตนเคยเจอมา

แจ็ค รีด สว.พรรคเดโมแครต กล่าวว่า ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง จะเป็นหนึ่งในความล้มเหลวที่เลวร้ายที่สุดในเรื่องความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและสามัญสำนึกเท่าที่ตนเคยพบเจอมา

ขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไมค์ จอห์นสัน จากพรรครีพับลิกัน ระบุว่า นี่จะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่หากมันส่งผลกระทบเชิงลบต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง และบอกด้วยว่า “พวกเขาพยายามทำงานให้ดี และสุดท้ายภารกิจก็สำเร็จลุล่วงไปได้”

5.ทั้งนี้ Signal เป็นแอปส่งข้อความที่ใช้งานฟรี เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานและถือว่าเป็นหนึ่งในแอปส่งข้อความที่ปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน มีการเข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทาง (end-to-end encryption) ผู้ใช้สามารถกำหนดให้ข้อความหายไปโดยอัตโนมัติในเวลาที่กำหนดได้ โดยมีผู้ใช้งานปัจจุบันราว 70 ล้านคน

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มองว่า แม้ Signal จะมีความปลอดภัยมากกว่าแอปส่งข้อความอื่น ๆ แต่ก็ยังเหมาะแค่สำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่เหมาะกับข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนระดับชาติ เพราะมีโอกาสที่อุปกรณ์จะถูกแฮก การโจมตีแบบฟิชชิ่ง ฯลฯ 

ขอบคุณ : newrepublic, apnews, aljazeera, cbsnews