แกะรอยคมกระสุนดับ "สจ.โต้ง" ปริศนา 7 ปมแผนก่อเหตุ ขยายผลผู้กระทำผิด "หมอนิติเวช" ชี้พิรุธ อาวุธปืนสังหารอาจมากกว่า 2 กระบอก ส่วนทิศทางกระสุนเจาะในร่าง หลักฐานสำคัญสาวถึงตัวละครลับ

เสียงปืนรัวกลางดึกวันที่ 11 ธ.ค. 67 สะเทือนไปทั้งจังหวัดปราจีนบุรี โดยเฉพาะในที่เกิดเหตุเป็นระดับบ้านใหญ่ ผู้กว้างขวางแห่งแวดวงการเมืองท้องถิ่นอย่าง สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ. ปราจีนบุรี บิดาอดีต รมช. ศธ. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ซึ่งหลังกลิ่นปืนจางหาย ปรากฏร่าง "สจ.โต้ง" เสียชีวิตอยู่บันไดชั้นล่าง

คมกระสุนหลายชุด กลายเป็นปริศนา รอการคลี่คลายคดี มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการวางแผนหลอกมาสังหารหรือไม่ ซึ่งนายสุนทร ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ยืนยันว่าตนเองได้ขึ้นไปในห้องนอนชั้นบนเพื่อเตรียมเข้านอน จึงไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันไม่มีความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น

คลิปปริศนา… หลังการสังหาร "สจ.โต้ง" ด้วยคมกระสุนหลายสิบนัด มีการปล่อยคลิปเสียง ที่ผู้ตายได้คุยกับบุคคลกลุ่มหนึ่ง ถึงการเจรจา เพื่อส่งตัวแทนลงชิงชัยในการสมัครเลือกตั้ง สจ.ปราจีนบุรี ในปีหน้า นั่นอาจกลายเป็นต้นเหตุความขัดแย้ง และหลังจากตำรวจเค้นสอบลูกน้องของผู้มากบารมี ที่หลบอยู่ในบ้าน พบว่า 2 ใน 6 คน เป็นผู้ก่อเหตุ ต้นตอมาจากความบาดหมางส่วนตัว ล่าสุดมีคำสั่งโอนสำนวนคดีมาที่กองปราบปรามแล้ว

...

ถ้าประเมินคมกระสุนในที่เกิดเหตุ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) วิเคราะห์ว่า จากการเห็นภาพบาดแผลกระสุนปืนบนร่างผู้ตาย จะเห็นถึงวิถีกระสุน หยดเลือด ซึ่งมีหลักฐานสำคัญดังนี้

1.วิถีกระสุนปืนลูกซองกระจายอยู่บนลำตัว ปกติถ้ามีการจ่อยิงจะมีบาดแผลเป็นรูกว้างลักษณะกลม ไม่มีทิศทางกระสุนที่กระจายออก ดังนั้นกระสุนจากปืนลูกซองที่ปรากฏบนร่างของผู้ตาย เป็นการยิงในระยะไกลก่อน

2.หยดเลือดแสดงถึงการถูกยิงจากขั้นบันไดชั้นบน เพราะมีรอยเปื้อนของเลือดในลักษณะไถลลงมาจากบันไดชั้นบน

3.การยิงซ้ำ ถ้าจากสมมติฐานประเมินว่าจะมีการยิงผู้ตายด้วยปืนลูกซองก่อน ตามมายิงซ้ำด้วยปืนขนาด 9 มม. ในระยะประชิด จะเห็นคราบเขม่าดินปืนบนบาดแผล

4.มีการระบุว่า กระสุนที่ใช้ยิงผู้ตายรวมทั้งหมด 34 นัด จากปืนลูกซองและปืนพกสั้น พบว่ามี 22 นัดที่เข้าตามร่างกายผู้ตาย นั่นแสดงว่าผู้ก่อเหตุมีการยิงปืนต่อเนื่อง บางนัดไม่เข้าเป้า แต่สำหรับปืนสั้นอาจเป็นการประกบยิง สิ่งนี้บ่งบอกถึงพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ที่เป็นการยิงจากด้านบนลงข้างล่าง คาดว่าก่อนถูกยิงผู้ตายอาจกำลังเดินขึ้นบันได

5.สิ่งที่ไขความลับการเสียชีวิตได้ ต้องมีการระบุว่ามีกระสุนปืนที่ฝังอยู่ในร่างผู้ตายกี่ชนิด ตอนนี้ไม่มีผลจากการชันสูตรออกมา เพราะผู้ก่อเหตุอ้างว่า ใช้ปืน 2 กระบอกในการยิงผู้ตาย รอยกระสุนที่ฝังบนร่างผู้ตายจะบอกได้ว่าผู้ก่อเหตุใช้ปืนกี่ชนิดกันแน่ และจะเป็นการขยายผล หากมีผู้ร่วมกระทำความผิดเพิ่ม

6.การยุ่งเหยิงกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนตำรวจเข้าไป คนร้ายจะสามารถทำได้เฉพาะการจัดท่าทาง และเคลื่อนย้ายร่างของผู้ตาย แต่คนร้ายไม่สามารถยุ่งเหยิงกับกระสุนที่ฝังอยู่ในร่างของผู้ตายได้ ดังนั้นหลักฐานในตัวศพ เป็นหลักฐานสำคัญ ในการไขความลับว่าใช้ปืนกี่กระบอก และยิงในระยะใด

...

7.หลักฐานรอยกระสุนบนร่างผู้ตาย ถ้าตรงกับการยอมรับว่ามีผู้ยิง 2 คน และใช้ปืนแค่ 2 กระบอก จะสามารถปิดคดีได้ แต่ถ้าไม่ตรงกันก็อาจต้องพิสูจน์ เพื่อหาผู้กระทำความผิดต่อไป