อดีตลูกจ้าง ทำงาน 10 ปีไม่รวย ก่อนพลิกผันหันมาทำเกษตร ทั้งที่เหลือทุนเพียง 100 บาท ล้มลุกคลุกคลานอีก 1 ปี ก่อนที่ลงตัวสวนผักสลัด พร้อมแนะเคล็ดลับ  

“เป็นลูกจ้าง ยังไงก็ไม่รวย ทำเกษตรอย่างน้อยก็มีโอกาสรวยได้...” 

นี่คือสิ่งที่ “หมูอ้วน” หรือ “ภูมิใจ สมบุญมาก” เจ้าของเพจหมูอ้วนชวนทำเกษตร เจ้าของสวนผักสลัด ในพื้นที่หมู่ 5 บ้านพุพง ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เกริ่นกับเรา ก่อนจะเริ่มเรื่องราวที่ภาคภูมิใจ สมชื่อเธอ และกลายเป็น “ยูทูบเบอร์สาว” สายเกษตร ที่มีผู้ติดตาม 1.43 แสนคน และเธออัปเดตเรื่องราวการเกษตรในช่องไปแล้วมากกว่า 700 คลิป 

คุณหมูอ้วน เล่าว่า เดิมทีเป็นเพียงลูกจ้างธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ทำงานในตัวเมืองพัทยา นับ 10 ปี จนวันหนึ่งรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เราก็เริ่มมีอายุแล้ว อยากจะกลับบ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็เลยมาค้าขาย ขายผลไม้ตามฤดูกาล มะพร้าว สับปะรด ขายต้นไม้ โดยรับของคนอื่นมาขาย สุดท้ายก็ไปไม่รอด เงินที่พอมีเก็บมา มาลงทุนก็ไม่เหลือ 

“เราไม่รู้จะทำอะไร ก็ดูคลิปในยูทูบ ก็เลยตัดสินใจทดลองเริ่มเพาะต้นอ่อนทานตะวัน โดยไม่มีความรู้ด้านเกษตรมาก่อน ขณะที่ครอบครัวก็พอมีที่ดินเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ครอบครัวเกษตร” 

...

เหลือทุน 100 บาท ซื้อปุ๋ย 3 ถุง เริ่มต้นเกษตร...

คุณหมูอ้วน ยอมรับว่าตอนนั้นเริ่มหมดหนทาง ในตัวมีเงินแค่ 100 บาท ตัดสินใจอยากจะปลูกผักขาย เพราะเห็นแววตอนนั้นประมาณปี 2560 คนรักสุขภาพเริ่มเป็นที่นิยม ที่สำคัญแถวบ้านก็ไม่ค่อยมีใครปลูก มีแค่เจ้าเดียวที่อยู่ใกล้ๆ ที่ปลูกผักสลัดแบบไฮโดรโปนิกส์ 

“ตอนนั้นมีเงินเหลือในตัวเพียง 100 บาท ซื้อปุ๋ยมา 3 ถุง ส่วนเมล็ดพันธุ์ก็ขอเพื่อนให้ส่งให้จากพัทยา โดยสิ่งที่เริ่มต้นทำคือ การปลูกต้นอ่อนทานตะวันก่อน เมื่อปลูกแล้วก็พอขายได้ จากนั้นก็เริ่มหันมาปลูกผักสลัด ปรากฏว่า... ปลูกเท่าไรมันก็ไม่ค่อยโต... 3 เดือนแล้วทำไมไม่โต!”

คุณหมูอ้วน เริ่มรู้สึกท้อ ไม่รู้จะทำไง...ไม่โต แต่ไม่ตาย ปลูกรุ่นหนึ่งใช้เวลาในการทดลองถึง 3 เดือน เราคอยเฝ้าดู หาสาเหตุว่าทำไมไม่โตและไม่ตาย และค่อยๆ ค้นพบว่า วิธีการเพาะเมล็ดของเรา เกือบ 3 เดือน 

สิ่งที่ค้นพบคือ หากเราใช้ดินที่ไม่เหมาะสม มันก็จะไม่โต การให้สารอาหารต่างๆ ที่ใส่ลงไปไม่เพียงพอ เมื่อพอรู้แบบนี้เราจึงเริ่มเปลี่ยนดิน ไปเอาดินในป่า ดินขุย ไปเอาหน้าดินมาเริ่มปลูก เริ่มโต แต่ไม่สวย จนสุดท้ายแล้วแฟนจึงไปหาความรู้การใช้ดินของประเทศอิสราเอล หรือญี่ปุ่น ในการปลูกผักให้สวย จนรู้ว่าหากจะใช้ดินให้เหมาะสมกับการปลูกผักสลัดนั้นต้องใช้ดินที่ผสมอินทรียวัตถุที่มีส่วนผสมเป็นขุยมะพร้าว และมูลสัตว์เป็นหลัก...

คุณหมูอ้วน บอกว่า เธอทดลองกับการใช้ดิน ใช้ปุ๋ย และการให้อาหารแบบนี้เกือบ 1 ปี ถึงแก้ปัญหาต่างๆ ได้ 

“ตอนนั้นยอมรับว่าท้อมาก เจอปัญหาที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น ดินฟ้าอากาศ โดยเฉพาะ ผักสลดนั้นจำเป็นต้องใช้แดด 100% เราเป็นเกษตรกรหน้าใหม่มากๆ จึงไม่รู้เวลาเขาเจอแดดจัดนั้นต้องช่วยเหลือเขาอย่างไร ซึ่งการช่วยเขาคือ การให้น้ำ เช่น หากเจอหน้าร้อนจัดๆ แดดแรง เราต้องช่วยด้วยการให้น้ำเพิ่มขึ้น เพิ่มเป็น 3-4 เวลา เช้า สาย บ่าย เย็น หากเป็นหน้าหนาว ให้น้ำ เช้า กลางวัน เย็น หรือหากเป็นหน้าฝน เราให้น้ำ เช้า เย็น หรือถ้าเกิดฝนตก ก็ให้แบบพรมๆ เหมือนล้างน้ำนิดหน่อยให้เขา”

คุณหมูอ้วน บอกว่า “เคล็ดลับ” ของการปลูกผักสลัดนั้น สิ่งสำคัญคือ การให้น้ำ...ส่วนผักที่เราปลูกในสวนเวลานี้มี 6 ชนิด อาทิ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค กรีนคอส มินิคอส บัตเตอร์เฮด และเรดคอรัล โดยใน 4 ตัวแรกเป็นผักที่ขายง่าย ค่อนข้างนิยม ส่วนลูกค้าของเราคือคนในพื้นที่ และร้านอาหารใหญ่ๆ ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี 3 แห่ง สัปดาห์ละ 100 กก. โดยใช้พื้นที่ปลูกประมาณ 2 ไร่ 

...

ไฮโดรโปนิกส์ กับ ปลูกออแกนิค ผลแตกต่างกันอย่างไร 

คุณหมูอ้วน ออกตัวตอบคำถามนี้ว่า ขอพูดตามสิ่งที่ลูกค้าพูดให้ฟังว่า จากที่เขาได้ชิม คือ รสชาติจะแตกต่างกัน รวมถึงความแข็งแรง เมื่อมีการตัดมาแล้ว ผักที่ปลูกจากดิน การเก็บรักษาจะอยู่ได้นานกว่า และจะดูสดกว่า หากเป็นผักไฮโดรฯ ส่วนมากจะเก็บได้ไม่เกิน 7 วัน หรือบางครั้งซื้อไปเก็บได้วันเดียวก็เน่าเลย 

แต่หากเป็นผักที่ปลูกจากดิน แบบออแกนิค จะเก็บในตู้เย็นได้นานถึง 14 วัน 

ความต่างเรื่องรสชาตินี่คือยังไง คุณหมูอ้วน ตอบว่า หากเป็นผักไฮโดรฯ รสชาติมันจะออกหวานจืด บางครั้งติดขม หรือจืด...ออกแนว “ผักกาดขาว” แต่ตัวสลัดอินทรีย์จะออกหวานแบบแตงกวา หวานฉ่ำ กรอบ 

จากขายผักสลัด อัปเกรด ขายชุดปลูก

หลังจากขายผักได้สักระยะ เราก็ตัดสินใจทำคลิปเรื่องการการปลูกผัก ปรากฏว่ามีคนทักเข้ามาว่าอยากกินผัก แต่เราเองไม่สามารถขายให้คนที่ทักมาได้หมด บางคนก็อยู่ไกลมาก หากจะส่งไปให้กว่าจะถึงก็มีปัญหาเรื่องความสด เพราะระบบขนส่งมันไกล เพราะช่วงแรกที่ทำยังไม่มีระบบห้องเย็น เราเองก็ยังมือใหม่ในเรื่องการ “แพ็กของสด” 

...

คุณหมูอ้วน เล่าต่อว่า เมื่อทำแบบนั้นไม่ได้ เราจึงผันตัวว่า “ชวนเขาปลูก” ดีกว่า จังหวะนั้นโควิดระบาด คนก็อยู่บ้าน เขาก็มีเวลา ทำให้ช่วงนั้นถือเป็นช่วงที่ขายดีมากๆ ทั้งผัก และชุดปลูกผัก 

“เราเริ่มสอนการปลูกผักที่โตเร็วก่อน เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ผักบุ้ง ประเภทผักที่ปลูก 7 วันก็กินได้ พอเริ่มทำคลิปชวนคนปลูก คนชอบ จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนจากการปลูกผักไว้ขายอย่างเดียว มาทำชุดปลูกขายด้วย” 

ชุดปลูกผัก มีอะไรบ้าง... 

หากเป็นชุดมือใหม่จะมีดินให้ 1 ถุง ปลูกได้ 5 กระถาง ปุ๋ยหมัก 1 ถุง สำหรับใช้ตอนที่ปลูกผัก มีอายุได้ 30 วัน นอกจากนี้ก็มีเมล็ดพันธุ์ น้ำหมัก พีทมอส และกระถางให้ครบชุด 

เจ้าของหมูอ้วน ชวนทำเกษตร เผยว่า ขั้นตอนการเตรียมชุดปลูกนั้นก็ใช้เวลาในการหมักดิน ทำปุ๋ย 3-6 เดือน ก่อนที่เราจะเปิดขาย โดยหมักปุ๋ยอยู่ 3 เดือน จากนั้นเอามาผสมดินต่อ 

“เมื่อหมักได้ที่ เราก็จะเริ่มเปิดขาย โดยบอกว่า เรามีดิน ปุ๋ย ที่พร้อมจะปลูกพืช พร้อมแนะนำเคล็ดลับ คู่มือต่างๆ ว่าเป็นชุดปลูกพืชที่ง่ายที่สุด”

...

ขั้นตอนการปลูกผักสลัดในกระถาง

คุณหมูอ้วน เผยว่า ขั้นตอนของมือใหม่นั้น 

1.การเพาะเมล็ด : สิ่งที่แนะนำคือ ให้ใช้ พีทมอส เลย เพราะที่ผ่านมาเราทดลองกับการเพาะเมล็ดในดินแล้ว ปรากฏว่ามีปัญหาล้มลุกคลุกคลานถึง 3 เดือน ซึ่งที่พลาดเพราะเราไม่รู้ เนื่องจาก “เมล็ด” ผักสลัด นั้นเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก 

2.ย้ายต้นกล้า : เมื่อเพาะเมล็ดได้ 5-7 วัน ก็ย้ายลงหลุมในถาดเพาะ หลุมละ 1 ต้น รอ 15-20 วัน 

3.เตรียมดิน : เมื่อครบกำหนด 15-20 วันแล้ว เราก็เอามาลงดินได้เลย 

“ฟังดูแล้วเหมือนง่าย เพียงแต่ช่วงเพาะเมล็ดนั้น หากคุณไม่ใช้พีทมอส คุณจะเสียเวลาเพิ่มอีก 15 วัน นอกจากนี้หากเราจะเตรียมดินเอง ในช่วงระยะเวลา 15-20 วันนั้น อาจไม่เพียงพอ เพราะการปรุงดินนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน”

รายได้จากผัก และชุดปลูกผัก 

คุณหมูอ้วน เผยว่า “รายได้ของการขายผัก กับ ชุดปลูกผัก นั้นแตกต่างกันอยู่แล้ว แน่นอนว่า การขายผัก รายได้น้อยกว่า ตอนนั้นที่ขายผักเพียงอย่างเดียว กิโลกรัมละ 80 บาท (เมื่อ 3-4 ปีก่อน) ขายเป็นรอบสัปดาห์ รวมๆ กันก็ได้ 30,000-40,000 บาท/เดือน” 

“พอมาขายชุดปลูกผัก รายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว เพราะลูกค้าของเราขยายออกไปมาก ขายผัก เราขายหลักๆ แค่ 3 เจ้า แต่ชุดปลูกผักของเรานั้นขายได้มากกว่านั้น คนที่ซื้อไปแล้วเขาก็ปลูกต่อเนื่อง ช่วงพีกๆ รายได้วันละ 10,000 บาทก็มี” 

ยูทูบเบอร์สายเกษตร สอนเคล็ดลับคนอื่น

คุณหมูอ้วน บอกว่า ที่เราทำยูทูบเพราะเราอยากจะให้ความรู้และประสบการณ์จากสิ่งที่เราผิดพลาด เวลาที่ไม่ควรจะเสียไป เพราะตอนนั้นหากเรามีความรู้สักนิด มันจะช่วยเราได้มาก ดังนั้นเมื่อใครได้ดูคลิป มันก็จะช่วยย่นเวลาในการทดลองปลูก เพียงได้ทำตาม 

ส่วนใครที่อยากทำเกษตรนั้น สิ่งที่ต้องมีสิ่งแรกคือ “ใจ” ต้องมาก่อน เพราะการจับจอบ เสียม มันเหนื่อย ต้องอดทน และมีใจอยากทำจริงๆ สิ่งที่ตามมาคือ “ความอดทน” นอกจากนี้ต้องรู้จักเรียนรู้ และ “ปรับ” เพื่อความเหมาะสม เช่น ในจังหวัดคุณเป็นอย่างไร เหมาะกับอะไร 

“ถ้าคุณอดทน เชื่อว่าวันหนึ่งจะสำเร็จแน่นอน เพราะการเป็นเกษตรกรนั้นรวยได้ และรวยง่ายกว่าลูกจ้าง เรื่องนี้จริง และขอยืนยัน แถมรวยได้ไวกว่าด้วย เพราะมนุษย์เงินเดือน สิ้นเดือนจะเงินเดือนออก แต่ถ้าเป็นเกษตรกรจะได้เงินเป็น “วันละ...” แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องรับ ขึ้นอยู่กับโอกาส”. 

อ่านบทความที่น่าสนใจ