เปิดใจ 'นัท เลอทาน่า' กรณีโดนฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์เพลง น้อมรับความผิด คิดว่ารัดกุมแล้ว แต่ยังพลั้งจนได้

กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนโซเชียล หลังจากที่ 'นัท-กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย' หรือ 'นัท เลอทาน่า' เจ้าของ Letana Hotel & Restaurant ย่านบางพลี สมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากลีลาและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ ออกมาเผยว่า "ตอนนี้ผมโดน "ฟ้อง" ลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ กับเพลงที่มีชื่อว่า ทนได้ทนไป ของวงออโต้บาห์น แต่วงออโต้บาห์นไม่ได้ฟ้องผมนะครับ เป็นเจ้าของเพลงที่เป็นอีกหนึ่งไอดอลของผม นั่นคือ พี่ฉัตรชัย ดุริยประณีต สมาชิกวงเฉลียง"

หลังจากนั้นนัทได้เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอยู่เป็นระยะ ส่วนอีกด้านหนึ่ง 'ไบรท์-วรวิทย์ นิมมานศิริกุล' ซึ่งแจ้งกับนัทว่า ได้รับมอบหมายมาจากผู้ประพันธ์เพลง ให้มาเคลียร์ค่าละเมิดลิขสิทธิ์ แคปโพสต์ของ 'ฉัตรชัย ดุริยประณีต' พร้อมระบุข้อความโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา คือความถูกต้องชอบธรรม ความในใจของผู้ประพันธ์เพลง พี่นก ฉัตรชัย ดุริยประณีต วงเฉลียง ไบรท์ ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่นก ด้วยความเคารพรัก นับถือเสมอ ครับ"

'นัท เลอทาน่า' เล่าเบื้องหลังถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ ความผิดพลาดที่มีมูลค่า (คลิป)

...

โดนร้องละเมิด 11 เพลง : 

สำหรับประเด็นที่เกิดขึ้นขณะนี้ นัท เลอทาน่า เปิดใจกับทีมข่าวฯ ว่า ประมาณกลางปีที่แล้ว (2566) ได้รับแจ้งว่า ผมละเมิดลิขสิทธิ์ 11 เพลง แต่ตอนนี้ได้เคลียร์ไปแล้ว 1 เพลง คือ ถอนตัว ของ เบิร์ดกะฮาร์ท 

พอจ่ายไปปุ๊บ อีกประมาณเดือนนึง พี่ไบรท์ วรวิทย์ มาแจ้งว่ามีอีก 10 เพลง ที่ได้รับการมอบอำนาจมาจากนักแต่งเพลง คือ ทนได้ทนไป, ใจบางๆ, ตัวสำรอง, ละลาย, ใจนักเลง, คนขี้เหงา, ข่าวร้าย, ฟั่นเฟือน, ถอยดีกว่า และ เติมใจให้กัน แต่ตอนนี้ที่โดนฟ้องล่าสุดอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันนี้ คือเพลง ทนได้ทนไป

เมื่อถามว่า การละเมิดครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เจ้าของ Letana Hotel & Restaurant ตอบว่า กรณีนี้เป็นการละเมิดทางออนไลน์ เพราะว่าผมคัฟเวอร์ (Cover) ลงโซเชียลมีเดีย ที่จริงแล้วตัวผมจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ 3 บริษัท ได้แก่ แกรมมี่ (Grammy), อาร์เอส (RS) และ MCT: Music Copyright (Thailand) ซึ่งในรายชื่อ 11 เพลงที่ได้พูดไป มี 9 เพลงอยู่ภายใต้บริษัท MCT 

'นัท เลอทาน่า' เล่าเบื้องหลังถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ ความผิดพลาดที่มีมูลค่า (คลิป)

"ความผิดพลาดของผมคือการตัดคลิปร้องเพลงไปลงโซเชียล เลยทำให้เข้าข่ายเป็นการละเมิดทางออนไลน์ ซึ่งผมไม่ได้เสียเงินส่วนนั้นไว้" นัท กล่าวกับเรา ก่อนจะอธิบายเสริมว่า สิขสิทธิ์เพลงจะมีแบบออนไลน์ (Online) และออนกราวด์ (On ground) ออนกราวด์ คือ เล่นในร้านแต่ไม่ได้เผยแพร่ในโซเชียล แต่ถ้าเราจะเผยแพร่ในโซเชียลทุกแพลตฟอร์มก็ต้องมีการซื้อแบบออนไลน์ 

"อย่างเพลง ทนได้ทนไป กับ ถอนตัว ที่เขาฟ้องตอนนี้ ผมไม่มีสิทธิ์อะไรเลย ทั้งการเล่นในร้านและการเล่นออนไลน์ แต่ 9 เพลงที่เหลือมีสิทธิ์เล่นในร้าน แต่ไม่มีสิทธิ์เผยแพร่ออนไลน์"

'นัท เลอทาน่า' เล่าเบื้องหลังถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ ความผิดพลาดที่มีมูลค่า (คลิป)

ยอมรับรู้เรื่องลิขสิทธิ์ไม่ดีพอ : 

นัท เลอทาน่า แจงรายละเอียดการจ่ายค่าลิขสิทธิ์เบื้องต้นว่า "ผมจ่ายให้แกรมมี่เป็นแพ็กเกจราคาอยู่ที่ 1,002,000 บาท รวมระยะเวลา 2 ปี อันนี้ร้องได้ทั้งออนไลน์และออนกราวด์ ส่วน RS จ่ายอยู่ที่ 62,100 บาท ได้ทั้ง 2 ช่องทางเช่นกัน แต่ MCT จ่ายอยู่ที่ 128,400 บาท ราคาไม่ได้รวมออนไลน์"

นัท กิตติพันธ์ อธิบายเสริมว่า ตอนคุยเรื่องสัญญากับ Grammy และ RS ได้รับการแจ้งแล้วว่าเล่นได้ทั้ง 2 แบบ ส่วนของ MCT ผมเพิ่งมาถามตอนที่มีปัญหาว่าออนไลน์ได้ไหม ปรากฏว่าทำไม่ได้ แต่มันก็เป็นความผิดพลาดของเรา ไม่ใช่ของบริษัท เพราะตัวเราเองก็มีหน้าที่ต้องศึกษาเรื่องตรงนี้ไว้ด้วย อย่างพอมีกรณีนี้ขึ้นมา ผมก็ต้องมานั่งค้นคว้าหาความรู้ 

...

'นัท เลอทาน่า' เล่าเบื้องหลังถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ ความผิดพลาดที่มีมูลค่า (คลิป)

เจ้าของ Letana Hotel ยอมรับกับทีมข่าวฯ ว่า เอาจริงๆ ผมไม่ทราบ และไม่มีความรู้เรื่องลิขสิทธิ์มาก่อน เราเป็นนักดนตรีที่รักการเล่นดนตรี เราก็โพสต์ลงไปทั้งส่วนตัว เพจ และติ๊กต่อก และโพสต์มานานแล้ว แต่หลังโดนร้องตอนเพลง ถอนตัว ผมก็เริ่มศึกษาเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้น พยายามทำอะไรให้รัดกุม แต่ก็ยังมีพลาดจนได้

"เพลงถอนตัวถือเป็นเพลงครูของผมเลย ทำให้ผมรู้ว่า ต่อจากนี้ไม่ใช่ว่าจะอัดคลิปเพลงอะไรแล้วลงได้ตลอด มันมีบางเพลงที่ผิดกฎหมาย หลังจากนั้นผมก็ไล่ลบทุกเพลงที่ไม่มีลิขสิทธิ์ออกหมดเลย" นัท เลอทาน่า เล่าต่อว่า ตั้งแต่โดนฟ้องเพลงถอนตัว ผมไล่ลบเพลงที่ตัวเองไม่มีลิขสิทธิ์ออกทั้งหมด 

'นัท เลอทาน่า' เล่าเบื้องหลังถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ ความผิดพลาดที่มีมูลค่า (คลิป)

...

"ผมพร้อมจ่ายเท่าที่จ่ายไว้" : 

กิตติพันธ์ ชี้แจงกับเราก่อนว่า ตอนนี้ผมโดนฟ้องอยู่เพลงเดียว คือ ทนได้ทนไป อีก 9 เพลงที่เหลือเขายังไม่ได้ดำเนินการถึงชั้นศาล แต่ตอนแรกเลยที่เขาบอกจะฟ้องเพลงละ 100,000 บาท 10 เพลงรวมเป็น 1 ล้านบาท ผมแค่รู้สึกไม่ไหว 

"เกณฑ์ที่ผมจ่ายค่าลิขสิทธิ์อยู่ อย่างแกรมมี่ 1 ล้านบาท ผมใช้สิทธิ์ได้ 2 ปี จำนวน 40,000 เพลง ได้เพลงจากศิลปินเยอะมาก แต่ 10 เพลงนี้ 1 ล้านบาท ผมไม่ได้จะไม่จ่ายแต่ผมมองว่ามันไม่ไหว ในหัวอกของคนทำธุรกิจ 10 เพลง 1 ล้าน มันไม่ไหว แต่อยากจ่ายในเรตที่เป็นราคาปกติได้ไหมครับ แล้วผมก็จะขอซื้อลิขสิทธิ์เล่นต่อไปได้ไหมครับ แต่ 1 ล้านบาทผมไม่ไหวจริงๆ เลยเอาเป็นว่า ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของศาล ในการจะบอกว่าให้ผมต้องจ่ายเท่าไร"

นัท เลอทาน่า กล่าวต่อว่า "ผมไม่ได้ต้องการจะไปชนะเลย ผมรู้อยู่แล้วว่าการละเมิดเป็นเรื่องที่ผิด แค่ต้องการจ่ายแบบยุติธรรมเฉยๆ ตอนนี้ผมยังไม่มีทนายด้วยซ้ำ ศึกษาด้วยตัวเอง เพราะอย่างที่บอกผมไม่ได้ต้องการชนะ"

'นัท เลอทาน่า' เล่าเบื้องหลังถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ ความผิดพลาดที่มีมูลค่า (คลิป)

...

ทีมข่าวฯ ถามต่อว่า เพลงทนได้ทนไปมีการคุยเบื้องต้นหรือยัง ว่าต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เท่าไร นัท ตอบว่า ยังไม่ได้คุยเลยครับ ตอนนี้เพียงได้รับหมายให้ไปศาลครั้งแรกประมาณเดือนสิงหาคมนี้ 

สำหรับค่าลิขสิทธิ์นั้น นัท เลอทาน่า ยืนยันกับเราว่า พร้อมจ่าย ถ้าอยู่ในเกณฑ์ที่เรารับได้ ถ้าไกล่เกลี่ยกันได้ เป็นค่าลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐานผมพร้อมจ่าย แต่ถ้าค่าละเมิดรวมเป็น 1 ล้านบาทจริงๆ ผมไม่ไหว เพราะมันเยอะมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็มีอีกมากมาย

เมื่อถามว่า เกณฑ์รับได้อยู่ที่เท่าไร เจ้าของเลอทาน่า ตอบว่า จริงๆ ก็อยู่ที่การคุยกันมากกว่า ผมมองว่าเป็นรายละเอียดที่ต้องคุยกับเขาส่วนตัวอีกที ผมคงยังบอกหรือกำหนดไม่ได้ว่าเท่าไร 

ภาพจาก Nut Kittipan Leesatroopai
ภาพจาก Nut Kittipan Leesatroopai

ผลกระทบและการปรับตัว : 

หากจัดการเรื่องค่าลิขสิทธิ์แล้ว ยังสามารถจ่ายเงินเพื่อนำเพลงมาร้องได้หรือไม่ คำตอบของคำถามนี้ คือ ต้องอยู่ที่เจ้าของลิขสิทธิ์เลยครับ อย่าง 9 เพลงนี้ผมสามารถร้องในร้านได้อยู่แล้ว ไม่มีความผิด แต่ห้ามไลฟ์ ห้ามตัดเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งผมคิดว่าการอัปลงไม่ได้น่าจะมีผลกระทบแน่ๆ เพราะทุกวันนี้ใครก็เล่นโซเชียล เราจึงต้องโฆษณาทางโซเชียล

สำหรับการปรับตัวนับจากนี้ นัท กิตติพันธ์ บอกกับเราว่า ที่จริงผมปรับตัวตั้งแต่เพลงถอนตัวแล้ว หลังจากนั้นเราก็เล่นแต่เพลงที่เรามีสิทธิ์ ซึ่งอย่างแกรมมี่กับอาร์เอสเพลงมันก็เพียงพอที่ลูกค้าจะมีความสุข 

ภาพจาก Nut Kittipan Leesatroopai
ภาพจาก Nut Kittipan Leesatroopai

แต่หลังจากนี้ผมจะเล่นแค่เพลงที่เราได้ซื้ออย่างถูกต้อง ถ้ามีค่ายไหนที่ผมยังไม่รู้ว่าเพลงเหล่านี้ อยู่กับคนนี้ แล้วผมสามารถซื้อในราคาที่ผมไหว ผมยินดีที่จะซื้อ และถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์ท่านใดที่อ่านอยู่ อยากจะขายให้ผมไปเล่นออนไลน์หรือในร้าน ผมก็ยินดีที่จะซื้อ

"หลังจากที่โดนฟ้องตอนเพลงถอนตัว ผมก็เพิ่มความละเอียดมากขึ้น จากแต่ก่อนลูกค้าขอเพลงอะไรมาผมก็เล่น เราชอบเพลงไหนเราก็เล่น แต่ตั้งแต่โดนแจ้งครั้งนั้น เลอทาน่า ก็พยายามทำทุกอย่างให้รัดกุม ไม่เล่นเพลงที่เราไม่มีลิขสิทธิ์เผยแพร่ "

ภาพจาก Nut Kittipan Leesatroopai
ภาพจาก Nut Kittipan Leesatroopai

ลิขสิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญ : 

กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย กล่าวส่งท้ายว่า การที่ผมออกมาพูดผมยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีแน่นอน ผมแค่ได้รับอะไรมาก็มาเล่าให้ฟัง เพื่อเป็นการเตือนคนอื่นด้วยว่า ระวังจะผิดพลาดแบบผม เจตนาผมมีแค่นี้เลย ผมเล่าตามความจริงทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเรียนรู้

"ในเรื่องของลิขสิทธิ์ ถ้าคุณเปิดร้านอาหารหรือเป็นนักดนตรี ผมมีข้อผิดพลาดให้ดูแล้ว อยากให้ระวังกันนิดนึง การซื้อลิขสิทธิ์ไม่ได้แพงอย่างที่ทุกคนคิด เขามีเกณฑ์ที่ต่างกันออกไป ต้องลองคุยรายละเอียดเป็นรายบุคคล ทำถูกต้องไว้ดีที่สุด"

ภาพจาก Nut Kittipan Leesatroopai
ภาพจาก Nut Kittipan Leesatroopai

.........

อ่านบทความที่น่าสนใจ :